"มี มีอะไรคะ?"
พอมองเขา ฉันก็พูดจาติดๆ ขัดๆ ออกมา
"เธอมีเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนไหม?"
เพียงคำพูดเดียวก็ปลุกฉันให้ตื่นจากพะวัง ฉันเขินจนหน้าแดงเถือก: "ตอน...ตอนมาฉันยังไม่..."
"มานี่" เขาเดินมาทางฉัน ฉันตกตะลึงไปชั่วครู่แล้วจึงรีบเดินตาม
ลู่จือสิงเดินเข้าห้องนอน ฉันไม่ได้เดินเข้าไปด้วย แต่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าเพื่อรอเขา
หลายวินาทีต่อมา เขาก็โยนเสื้อเชิ๊ตตัวหนึ่งมาให้ฉัน
ฉันหน้าแดงอีกแล้ว เสียงของลู่จือสิงดังมา: "อย่าคิดเยอะ เสื้อตัวใหม่"
“……”
"ถ้างั้นฉันขอตัวไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะประธานลู่"
พูดรัวๆ จบ ฉันก็กอดเสื้อวิ่งประหนึ่งวิ่งหนีใคร เข้าห้องรับแขกไป
แม้จะเป็นห้องรับแขก แต่การตกเเต่งยังหรูกว่าห้องนอนหลักที่บ้านฉันเสียอีก
หลับไปหนึ่งคืน 9โมงเช้าของวันต่อมาจะต้องไปสัมภาษณ์รอบสอง ยังไม่ 7 โมง ฉันก็ตื่นแล้ว
นึกถึงอาการเป็นไข้และปวดท้องของลู่จือสิง ฉันก็เลยไปค้นตู้เย็น หยิบเอาหมูชิ้นหนึ่งมาต้มโจ๊ก ก่อนจะรีบไปสัมภาษณ์
เมื่อวานมีคนสัมภาษณ์ทั้งหมด 30 กว่าคน มาวันนี้เหลืออยู่เพียงสิบกว่าคนเท่านั้น
สัมภาษณ์รอบสองเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้ว ฉันมายืนรอรถตรงป้ายรถเมล์ได้ครู่เดียว รถของลู่จือสิงก็มาจอดอยู่ตรงหน้าฉัน: "ขึ้นรถ"
ฉันยืนนิ่ง เขาจึงเปิดประตูข้างคนขับจากในรถออกมา: "อย่าให้ผมต้องพูดเป็นครั้งที่สาม ซูยุ่น ขึ้นรถ!"
น้ำเสียงเขาน่าเกรงขามมากจนฉันคล้อยตามโดยไม่รู้ตัว ฉันรีบขึ้นรถ ปิดประตู คาดเซฟตี้เบลทันที: "ประธานลู่ ทำไมคุณ....."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้