หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 146

"คุณกำลังทำอะไร? ตัวเองพูดออกมาแบบนั้นกลัวคนอื่นได้ยินหรือไง?"

หลี่ลี่ชิงต้องการเข้ามาเพื่อคว้าโทรศัพท์ของฉัน แต่หลี่เจียนีได้เข้ามาขวางไว้

ฉันเงยหน้ามองหลินเจี้ยนเฟิง เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นและทำเหมือนไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น เขาเอื้อมมือมาคว้ามือหลี่ลี่ชิงและเดินจากไปอย่างเงียบๆ

เมื่อทั้งสองจากไป ก็เหลือพวกเราเพียงไม่กี่คน

พูดตามความจริง ฉันไม่ได้คาดคิดว่าการมาทำงานนอกสถานที่นั้นจะเกิดเรื่องราวที่น่าอึดอัดเช่นนี้

"บนร่างกายของซูยุ่นไม่มีอะไรที่ปลอม โง่เง่า!"

ทันใดนั้นเสียงของลู่จือสิงก็ดังขึ้น ในช่วงเวลานั้นฉันจึงได้สติในทันทีและปิดการบันทึกเสียงอย่างรวดเร็ว

"ขอโทษด้วยทำให้พวกคุณเห็นเรื่องน่าอายจนได้"

หลังจากพูดจบ ฉันก็เงยหน้าขึ้นและเหลือบมองอู๋เหม่ย "คุณอู๋ ใช้คำพูดของคุณ คืนให้คุณก็แล้วกัน : คนอะไร!"

เมื่อสิ้นเสียงฉัน สีหน้าของอู๋เหม่ยก็ซีดแข็ง

เธอไม่พูดอะไร เธอเพียงแต่หยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกไป

ภายในห้องวีไอพีจึงเหลือเพียงแค่3คน

ฉันเหลือบมองไปยังจ้าวอี้และผู้ชายอีกสองคน "ในระยะนี้ลำบากพวกคุณแล้วและรบกวนพวกคุณดูแลฉันกับเจียนีด้วย พรุ่งนี้พวกเราก็ไปแล้ว หลังจากนี้อาจไม่มีโอกาสเจอกันอีก ขอให้ในอนาคตพวกคุณคิดสิ่งใดก็สมความปรารถนา"

หลังจากกล่าวจบ ฉันก็มองเจียนีและกล่าวว่า "เจียนี พวกเราไปกันเถอะ"

การบันทึกเสียงที่ฉันปล่อยออกมาทำให้หลายคนนั้นคาดไม่ถึง เมื่อฉันและหลี่เจียนีออกมานั้นก็ไม่มีใครกล่าวอะไรเลย

ในช่วงสองสามวันนี้มีคนได้ติดต่อมาและฉันก็พบว่าในบรรดาห้าคนที่ทำงานกับเรา ไม่รู้ว่าอู๋เหม่ยและหลี่ลี่ชิงนั้นได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการนี้ได้อย่างไร ความเป็นจริงพวกเธอนั้นไม่มีความสามารถมากพอในการทำงาน พวกเธอคอยเอาแต่เล่นงานฉัน

หลินเจี้ยนเฟิงนั้นมีความสามารถบางอย่าง ไม่งั้นเขาคงเป็นผู้จัดการไม่ได้ แต่นิสัยของเขานั้นแย่เกินเยียวยาจริงๆ

"ซูยุ่น ผลงานของคุณนั้นช่างบันเทิงจริงๆ!"

ฉันก้มมองไปยังโทรศัพท์และไม่ต้องการที่จะพูดคุยคำถามนี้ เพราะประโยคสุดท้ายเป็นเสียงของลู่จือสิงและไม่รู้ว่าต้องจัดการอย่างไรดี แต่ก็ช่างมันเพราะว่าฉันได้ปล่อยเสียงบันทึกออกไปแล้ว

ถ้าหากว่าหลี่เจียนีนั้นได้จับสังเกตุแล้วเธอมาถามฉัน ฉันก็คงไม่รู้จะตอบเธออย่างไร

เพียงบางครั้ง หากว่ากังวลกับเรื่องใด เรื่องนั้นอาจจะเกิดขึ้นจริง

เมื่อเห็นฉันไม่พูดอะไร หลี่เจียนีก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอพูดต่อด้วยความกระตือรือร้น "ใช่แล้วซูยุ่น หากว่าฉันฟังไม่ผิด ประโยคสุดท้าย นั่นคือเสียงของประธานลู่จือสิงใช่หรือเปล่า?"

คุณดูสิ กลัวอะไรมักได้เจอเรื่องแบบนั้นจริงๆ

ฉันหันหน้าไปมองเธอ "คุณฟังผิดแล้ว ไม่ใช่"

"งั้นเสียงใครล่ะ? เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าบนร่างกายคุณไม่มีอะไรที่ปลอม? ซูยุ่น ทำไมฉันถึงคิดว่าคุณกำลังปกปิดอะไรกับฉันอยู่?"

ลมหายใจเพียงครั้งเดียวของเธอกลับถามคำถามได้มากมาย ฉันไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนั้นอย่างไรดี จึงตอบเธออย่างส่งๆไป "คุณคิดมากไปแล้ว โอ้ ฉันเริ่มง่วงแล้วล่ะ งีบสักหน่อยดีกว่า"

"แต่อีกเดี๋ยวก็ถึงโรงแรมแล้วนะ คุณ----"

ฉันไม่สนใจเธอ ฉันหลับตาลงและพิงกระจก แสร้งทำเป็นว่าฉันนั้นกำลังหลับ

เมื่อวานเกิดเรื่องราววุ่นวาย วันถัดมาเมื่อฉันและหลี่เจียนีจะเดินทางกลับก็ไม่มีรถขับไปส่ง

แต่เราสองคนก็ไม่ได้ใส่ใจ อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ได้จะติดต่อกันอยู่แล้ว มากที่สุดก็คงจะเป็นแค่ช่องทางออนไลน์

เมื่อถึงเมืองDก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว เราทั้งสองนั้นไม่ได้ทานอาหารบนเครื่องบิน เมื่อออกมาจากสนามบิน หลี่เจียนีก็ลากฉันออกไปทานอาหาร หนึ่งอาทิตย์เต็มที่ฉันไม่ได้เจอเป้ยเปย จะมีจิตใจที่ไหนไปทานข้าวกับเธอกันล่ะ

"ไม่แล้วล่ะ ที่บ้านฉันเกิดเรื่องนิดหน่อย ฉันต้องกลับบ้านก่อน"

ก่อนการเดินทางไปทำงานครั้งนี้ ฉันและหลี่เจียนีนั้นก็ไม่ได้สนิทสนมกันอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่ได้รู้จักฉันมากนัก

เมื่อฉันพูดแบบนั้นออกไป เธอก็ไม่ได้ตื้อฉัน "ก็ได้ งั้นกลับบ้านดีๆนะ อย่าลืมไปโรงพยาบาลดูอาการที่มือคุณด้วย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้