ก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ กว่าลู่จือสิงจะปล่อยฉัน
ฉันหายใจลำบาก เสียงของเขายังดังก้องอยู่ในหูของฉัน:“ไม่อย่างนั้นผมจะฆ่าคุณ ซูยุ่น”
เมื่อได้ยินที่เขาพูด ฉันก็พลักเขาออกสุดแรง:“คุณออกไปซะ !”
เขาเหลือบมองฉัน และก็ออกไปจริงๆ
เสียงปิดประตูดังขึ้น ฉันสัมผัสแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเอง รู้สึกเหมือนร่างกายร้อนรุ่มไปหมด
ลู่จือสิงคนนี้ เป็นเพียงสัตว์ร้ายใต้เสื้อผ้า !
พรุ่งนี้ยังต้องไปทำงาน ฉันบังคับตัวเองให้ไม่คิดเรื่องของลู่จือสิง เมื่ออาบน้ำเสร็จก็นอนอยู่บนเตียง แต่ไม่ว่ายังไงก็นอนไม่หลับ
อธิบายไม่ถูก ตอนนี้ฉันกลับนึกถึงรสชาติของจูบเมื่อครู่
ริมฝีปากเหมือนยังมีอุณหภูมิร่างกายของเขาติดอยู่ ฉันอดไม่ได้ที่จะยกมือมาสัมผัส เมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ฉันก็รีบดึงมือกลับเหมือนตัวเองเป็นขโมย
บ้าแล้วบ้าแล้ว !
เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ วันรุ่งขึ้นฉันตื่นมาก็เกือบแปดโมงแล้ว
เป้ยเปยยังไม่ตื่น ฉันรีบลุกไปล้างหน้า
เมื่อล้างหน้าเสร็จ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
เดิมทีฉันไม่อยากจะสนใจมัน แต่เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น ในที่สุดก็ไม่มีทางเลือก กลัวเป้ยเปยตื่น ฉันจึงทำได้เพียงเปิดประตู
เมื่อเปิดประตูไปก็มองเห็นหน้าของลู่จือสิง “เพิ่งตื่น ?”
เพราะจูบเมื่อคืน ฉันจึงไม่อยากสนใจเขา
เขาเดินเข้ามาเอง:“คุณไม่ต้องทำอาหารเช้า ฉันซื้ออาหารเช้ามาแล้ว”
ฉันไม่มีเวลาทำอาหารจริงๆ ปกติจะตื่นประมาณเจ็ดโมงครึ่ง แต่วันนี้ตื่นเกือบแปดโมง ฉันจึงทำได้เพียงไปกินข้าวเช้าที่บริษัท
ฉันคิดไตร่ตรองเรื่องเมื่อคืน ฉันยังไม่พร้อมที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่กับลู่จือสิง แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ไม่กี่วันมานี้ฉันรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย
ถ้าไม่ใช่เพราะจูบของเขาเมื่อคืน ฉันก็อาจจะยังไม่รู้ตัว
แต่บทเรียนเมื่อสามปีก่อนนั้นมากเกินไป ตอนนี้ฉันยังมีเป้ยเปย ไม่สามารถแบกรับความพ่ายแพ้นั้นได้อีกแล้ว
ดังนั้นฉันจึงจะปล่อยวางทุกอย่าง และปล่อยให้ตัวเองคิดเรื่องนี้ให้ดี
กว่าจะแต่งหน้าเสร็จก็ปาไปแปดโมงยี่สิบนาทีแล้ว ป้าฝานจะมาประมาณแปดโมงครึ่ง ปกติเป้ยเปยจะตื่นเวลาเก้าโมง ดังนั้นฉันจึงโทรศัพท์หาป้าฝานและรีบออกไปก่อน
“คุณไม่กินข้าวเช้าเหรอ ?”
ขณะที่ฉันกำลังสวมรองเท้า ทันใดนั้นลู่จือสิงก็ดึงฉันไว้
เมื่อฉันสวมรองเท้าเสร็จ ก็เงยหน้ามองเขา:“ลู่จือสิง ฉันต้องการเวลาสงบสติอารมณ์”
เมื่อฉันพูดจบ สีหน้าเขาก็เย็นชาลง:“คุณต้องการเวลาเพื่อคิดว่าจะเลือกใครใช่ไหม ?”
ฉันไม่อยากทะเลาะกับเขา “มีข้อแตกต่างไหม ?”
“หึ ไม่แตกต่าง ซูยุ่น คุณนี่มันเยี่ยมไปเลย !”
หลังจากเขาพูดจบ ก็เปิดประตูและเดินออกไป
ฉันมองไปที่แผ่นหลังของเขา แล้วขมวดคิ้ว
เมื่อคิดว่าตัวเองต้องไปทำงาน ฉันก็ไม่อยากสนใจเขา
“คุณซู !”
ฉันกำลังจะล็อคประตูก็ได้ยินเสียงป้าฝาน พอดีเลย ฉันจะได้ไม่กังวลว่าเมื่อเป้ยเปยตื่นหลังจากฉันไปแล้วจะไม่มีใครดู
“ป้าฝาน คุณมาได้จังหวะเลย ฉันกำลังจะไปทำงาน”
เธอพยักหน้า และดึงฉันไว้:“คุณกับคุณชายลู่คนนั้นเป็นอะไร ?”ฉันเพิ่งเห็นสีหน้าของเขาดูแย่มาก ”
ฉันเม้มริมฝีปาก ไม่อยากจะพูด:“ไม่มีอะไร ฉันไปทำงานก่อนนะ”
“อ๊ะ โอ้ คุณรีบไปทำงานเถอะ อย่าไปสายนะ !”
ฉันพยักหน้า หันกลับและเดินไปที่ลิฟต์โดยไม่ลังเล
“แค่กแค่ก ”
เมื่อได้ยินเสียง ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหลี่เจียนี :“เป็นอะไร ?”
“วันนี้คุณเป็นอะไรไป ? เดทเมื่อวานไม่รายรื่นเหรอ ? เป็นไปไม่ได้ สีหน้าคุณเมื่อวานเหมือนดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ ทำไมวันนี้เหมือนใบไม้ร่วงในฤดูใบไม้ร่วงเลยล่ะ ? ”
เมื่อได้ยินคำเปรียบเปลือยของเธอ ฉันก็อดยิ้มไม่ได้:“คุณเปรียบเทียบอะไรเนี่ย ฉันไม่เป็นไร แค่เมื่อคืนพักผ่อนไม่พอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้