หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 159

ก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ กว่าลู่จือสิงจะปล่อยฉัน

ฉันหายใจลำบาก เสียงของเขายังดังก้องอยู่ในหูของฉัน:“ไม่อย่างนั้นผมจะฆ่าคุณ ซูยุ่น”

เมื่อได้ยินที่เขาพูด ฉันก็พลักเขาออกสุดแรง:“คุณออกไปซะ !”

เขาเหลือบมองฉัน และก็ออกไปจริงๆ

เสียงปิดประตูดังขึ้น ฉันสัมผัสแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเอง รู้สึกเหมือนร่างกายร้อนรุ่มไปหมด

ลู่จือสิงคนนี้ เป็นเพียงสัตว์ร้ายใต้เสื้อผ้า !

พรุ่งนี้ยังต้องไปทำงาน ฉันบังคับตัวเองให้ไม่คิดเรื่องของลู่จือสิง เมื่ออาบน้ำเสร็จก็นอนอยู่บนเตียง แต่ไม่ว่ายังไงก็นอนไม่หลับ

อธิบายไม่ถูก ตอนนี้ฉันกลับนึกถึงรสชาติของจูบเมื่อครู่

ริมฝีปากเหมือนยังมีอุณหภูมิร่างกายของเขาติดอยู่ ฉันอดไม่ได้ที่จะยกมือมาสัมผัส เมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ฉันก็รีบดึงมือกลับเหมือนตัวเองเป็นขโมย

บ้าแล้วบ้าแล้ว !

เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ วันรุ่งขึ้นฉันตื่นมาก็เกือบแปดโมงแล้ว

เป้ยเปยยังไม่ตื่น ฉันรีบลุกไปล้างหน้า

เมื่อล้างหน้าเสร็จ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

เดิมทีฉันไม่อยากจะสนใจมัน แต่เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น ในที่สุดก็ไม่มีทางเลือก กลัวเป้ยเปยตื่น ฉันจึงทำได้เพียงเปิดประตู

เมื่อเปิดประตูไปก็มองเห็นหน้าของลู่จือสิง “เพิ่งตื่น ?”

เพราะจูบเมื่อคืน ฉันจึงไม่อยากสนใจเขา

เขาเดินเข้ามาเอง:“คุณไม่ต้องทำอาหารเช้า ฉันซื้ออาหารเช้ามาแล้ว”

ฉันไม่มีเวลาทำอาหารจริงๆ ปกติจะตื่นประมาณเจ็ดโมงครึ่ง แต่วันนี้ตื่นเกือบแปดโมง ฉันจึงทำได้เพียงไปกินข้าวเช้าที่บริษัท

ฉันคิดไตร่ตรองเรื่องเมื่อคืน ฉันยังไม่พร้อมที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่กับลู่จือสิง แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ไม่กี่วันมานี้ฉันรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย

ถ้าไม่ใช่เพราะจูบของเขาเมื่อคืน ฉันก็อาจจะยังไม่รู้ตัว

แต่บทเรียนเมื่อสามปีก่อนนั้นมากเกินไป ตอนนี้ฉันยังมีเป้ยเปย ไม่สามารถแบกรับความพ่ายแพ้นั้นได้อีกแล้ว

ดังนั้นฉันจึงจะปล่อยวางทุกอย่าง และปล่อยให้ตัวเองคิดเรื่องนี้ให้ดี

กว่าจะแต่งหน้าเสร็จก็ปาไปแปดโมงยี่สิบนาทีแล้ว ป้าฝานจะมาประมาณแปดโมงครึ่ง ปกติเป้ยเปยจะตื่นเวลาเก้าโมง ดังนั้นฉันจึงโทรศัพท์หาป้าฝานและรีบออกไปก่อน

“คุณไม่กินข้าวเช้าเหรอ ?”

ขณะที่ฉันกำลังสวมรองเท้า ทันใดนั้นลู่จือสิงก็ดึงฉันไว้

เมื่อฉันสวมรองเท้าเสร็จ ก็เงยหน้ามองเขา:“ลู่จือสิง ฉันต้องการเวลาสงบสติอารมณ์”

เมื่อฉันพูดจบ สีหน้าเขาก็เย็นชาลง:“คุณต้องการเวลาเพื่อคิดว่าจะเลือกใครใช่ไหม ?”

ฉันไม่อยากทะเลาะกับเขา “มีข้อแตกต่างไหม ?”

“หึ ไม่แตกต่าง ซูยุ่น คุณนี่มันเยี่ยมไปเลย !”

หลังจากเขาพูดจบ ก็เปิดประตูและเดินออกไป

ฉันมองไปที่แผ่นหลังของเขา แล้วขมวดคิ้ว

เมื่อคิดว่าตัวเองต้องไปทำงาน ฉันก็ไม่อยากสนใจเขา

“คุณซู !”

ฉันกำลังจะล็อคประตูก็ได้ยินเสียงป้าฝาน พอดีเลย ฉันจะได้ไม่กังวลว่าเมื่อเป้ยเปยตื่นหลังจากฉันไปแล้วจะไม่มีใครดู

“ป้าฝาน คุณมาได้จังหวะเลย ฉันกำลังจะไปทำงาน”

เธอพยักหน้า และดึงฉันไว้:“คุณกับคุณชายลู่คนนั้นเป็นอะไร ?”ฉันเพิ่งเห็นสีหน้าของเขาดูแย่มาก ”

ฉันเม้มริมฝีปาก ไม่อยากจะพูด:“ไม่มีอะไร ฉันไปทำงานก่อนนะ”

“อ๊ะ โอ้ คุณรีบไปทำงานเถอะ อย่าไปสายนะ !”

ฉันพยักหน้า หันกลับและเดินไปที่ลิฟต์โดยไม่ลังเล

“แค่กแค่ก ”

เมื่อได้ยินเสียง ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหลี่เจียนี :“เป็นอะไร ?”

“วันนี้คุณเป็นอะไรไป ? เดทเมื่อวานไม่รายรื่นเหรอ ? เป็นไปไม่ได้ สีหน้าคุณเมื่อวานเหมือนดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ ทำไมวันนี้เหมือนใบไม้ร่วงในฤดูใบไม้ร่วงเลยล่ะ ? ”

เมื่อได้ยินคำเปรียบเปลือยของเธอ ฉันก็อดยิ้มไม่ได้:“คุณเปรียบเทียบอะไรเนี่ย ฉันไม่เป็นไร แค่เมื่อคืนพักผ่อนไม่พอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้