ทำไมเขามองฉันแบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะพูดความจริงหรือพูดโกหกดี
ขณะที่ฉันกำลังลังเล จู่ๆสีหน้าของลู่จือสิงก็หมองลง:“ตอบยากมากเลยหรอ?”
ฉันเงยหน้ามองเขาและหยุดลังเล รีบส่ายหัว:“ไม่นะ”
“อื้ม?”
สีหน้าของเขาดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็มองมาที่ฉันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อ
ฉันรู้ว่าในตอนนี้ถ้าฉันยังลังเลเรื่องมันก็จะแย่ ดังนั้นฉันจึงรีบพูดอย่างเด็ดขาด:“ไม่จริงๆนะ ฉันก็แค่คุยกับเพื่อนของคุณไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น”
“ฮึ”
เขาทำเสียงฮึดอกจากจมูก และก้มลงมาจูบฉัน
ฉันขยับไปมาโดยคิดว่าพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์และอดไม่ได้ที่จะเตือนว่า:“พรุ่งนี้ต้องไปทำงานนะ”
พอฉันพูดจบเขาก็ยิ้มทันที และก้มหน้าลงมามองฉัน สายตานั่นทำให้หน้าของฉันร้อนผ่าว:“คุณยิ้มอะไร?”
“เธอคิดแต่เรื่องนั้นทั้งวันทั้งคืนใช่ไหม?”
“คุณพูดมั่วอะไร เห็นชัดเจนว่าเป็นคุณ!”
ฉันไม่ได้หน้าหนาเท่าเขา แล้วฉันจะพูดแบบนี้ได้ยังไง
เขาจงใจก้มลงมามองฉัน เหมือนรู้ว่าฉันต้องการจะพูดอะไร เพียงแค่รอให้ฉันพูด
“ฉันอะไร?เธอพูดต่อสิ ในหัวของฉันไม่ค่อยสว่าง เธอไม่พูดให้ชัดเจนฉันก็ไม่เข้าใจ”
เขาเจตนาชัดๆ
“คุณปล่อยฉันเร็ว ฉันจะไปอาบน้ำ”
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าฉันยังไม่ไปอาบน้ำพรุ่งนี้ไม่แน่ฉันอาจจะไม่ตื่น
เป็นเรื่องยากที่เขาจะปล่อยมือ เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองฉัน “ฉันแค่อยากจะจูบเธอเท่านั้น เมียจ๋า เธอบอกฉันซิว่าเธอคิดอะไรอยู่?”
ฉันยกมือขึ้นจับหมอนที่อยู่ด้านข้างแล้วเหวี่ยงไปที่ใบหน้าของเขา:“หลีกไป ฉันจะไปอาบน้ำ!”
พูดจบฉันก็วิ่งเข้าห้องหยิบเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำ
คืนนี้ลู่จือสิงไม่ได้ลงมือกับฉันจริงๆ หลังจากอาบน้ำแล้วเขาก็ปิดไฟและนอนลงอย่างสงบ
เพราะเราออกไปพบเพื่อนของเขา และกว่าเราจะอาบน้ำเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน เป็นเวลาที่ฉันควรจะนอนได้แล้ว ฉันนอนลงสักพักแล้วก็หลับไป
ด้วยความสะลึมสะลือ เหมือนฉันจะได้ยินเสียงลู่จือสิงพูดอะไรอยู่ข้างหูของฉัน แต่ตอนนี้ฉันง่วงมากฟังอะไรก็ไม่ชัดเจน พูดตอบกลับไปแบบส่งๆ และหลับต่อ
ในวันต่อมาเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ฉันก็พยายามลุกขึ้นเช่นกัน
หลังจากที่ฉันล้างหน้าบ้วนปากเสร็จ ลู่จือสิงเพิ่งกลับจากไปว่างข้างนอกมา
เดือนธันวาคมนี้ข้างนอกหนาวมาก ลู่จือสิงกลับมาพร้อมกับความหนาวเย็น
เขาเดินเข้ามากอดฉัน ฉันรีบเอามือผลักเขาออก:“ไม่ต้องมากอดฉัน หนาวจะตาย”
“กอดหน่อย”
เขาออกแรงกอดฉันแน่น และก้มหน้าลงมาจูบ:“ฉันไปอาบน้ำล่ะ”
เขาทำอย่างรวดเร็ว ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรก็วิ่งหายเข้ากลีบเมฆไป และในพริบตาฉันก็มองไม่เห็นเขาแล้ว
วันนี้ลู่จือสิงไปส่งฉันที่ทำงาน ในฤดูหนาวนี้ช่วยให้ฉันไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปเบียนเสียดขึ้นรถเมล์
ทุกคนรู้เรื่องที่ลู่จือสิงขอฉันแต่งงานเมื่อวันเสาร์ ฉันคิดเรื่องนี้ก่อนลงจากรถแล้วก็รู้สึกปวดหัว
เพราะฉันเอาแต่คิดเรื่องอื่น ตอนที่เขาเรื่องฉันเลยไม่ได้ใส่ใจ
“ซูยุ่น?”
ลู่จือสิงเขย่าตัวฉัน ฉันเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าถึงทางเข้าบริษัทแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้