คำถามของเขาทำให้ฉันมึนงง แต่ก็เร็วมาก ฉันก็ตอบสนองกลับมา “ไม่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คุณหมายความว่าอะไร?”
“ไม่ได้หมายความว่าอะไร ฉันพูดว่า พวกเราสองคนต้องการเวลาให้ใจเย็นลง”
ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับเขาที่นี่ ที่นี่จะมีผลกระทบที่ไม่ดีกับฉันและเขา
แต่เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่สามารถเข้าใจความคิดของฉัน ไม่หยุดที่จะออกแรงหยิกมือของฉัน “ใจเย็นลง? ซูยุ่น คุณแน่ใจว่าคุณใจเย็นลง ไม่ใช่รอคุณใจเย็นลงแล้ว พวกเราก็แยกกันเหรอ?”
เขาพูดความคิดในใจของฉัน ชั่วพริบตาเดียว ฉันก็รู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง
แต่ทว่าฉันก็รู้ ระหว่างฉันกับเขาถ้ายังยืดเวลาออกไปก็ไม่มีประโยชน์ มิเช่นนั้นสุดท้ายแล้วแม้แต่ความรักเพียงนิดหน่อยก็ถูกพวกเราสองคนทำให้หมดลง
ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่เหมาะสมจะพูดคุยเรื่องเช่นนี้ แต่เขาก็ต้องการจะพูดคุย ฉันก็ทำได้แค่พูดคุยกับเขาที่นี่ “ใช่”
หลังจากที่พูดออกมา ฉันพบว่าไม่ได้ยากเหมือนกับที่ฉันคิดเอาไว้
ฉันเงยหน้ามองเขา บอกกับเขาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ลู่จือสิง ฉันใช้ความพยายามมากแล้วจริงๆ แต่ว่าคุณล่ะ? ตอนนี้ฉันยังจำคำพูดของคุณเมื่อสี่ปีก่อนที่คุณพูดกับฉันได้ นั่นคือครั้งแรกที่คุณไม่เชื่อใจฉัน หลังจากนั้นล่ะ ก็ผ่านไปไม่นาน ก่อนที่พวกเราจะหย่ากัน ฉันขอให้คุณเชื่อฉัน แต่ว่าคุณล่ะ? ปีนี้ ช่วงเวลาที่ฉันกลับเมืองAกับคุณ คุณเคยพูดว่าอะไร?”
พูดพลาง ฉันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเย็นออกมา “แต่ว่าคุณลองคิดดูว่าท่าทางตัวคุณเองตอนนี้ คุณไม่เชื่อใจฉันกับชวี่ชิงหนาน จากเมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ก็ยังใช่ ถึงแม้ว่าฉันกับเขาไม่เคยทำเรื่องอะไรที่เกินไป ถึงแม้ว่าฉันกับเขาเป็นเหมือนเพื่อนกันแต่ในสายตาของคุณก็ไม่เคยเชื่อมาโดยตลอด!”
“คุณไม่เชื่อสิทธิของฉัน แต่ฉันก็ทนรับมามากพอแล้ว! บรรทัดฐานของคุณเกินไปแล้วจริงๆ คุณเรียกร้องให้ฉันเชื่อว่าระหว่างคุณกับหลินเมิ่งเซียไม่มีอะไรเกินเลย ฉันเชื่อแล้ว ถึงแม้ว่าในทุกๆวันเธอจะทำตัวเหมือนเป็นผู้ชนะพูดโอ้อวดตอหน้าฉัน ฉันก็เชื่อคุณมาโดยตลอด! แต่คุณล่ะ? คุณไม่ตรงไปตรงมาเลยสัดนิด เรื่องของคุณกับหลินเมิ่งเซียฉันไม่ใจกว้างจนไม่ถือสา ยกเว้นว่าฉันไม่รักคุณ แต่ฉันก็ไม่ใจแคบจนไม่เชื่อคำอธิบายของคุณ แต่คุณล่ะ? ฉันรอคุณมาครึ่งเดือนแล้ว แต่สุดท้ายคุยก็ไม่พูดอะไรออกมา!”
“คุณไม่พูดก็ช่างเถอะ คุณเอาอะไรมาสงสัยฉันกับชวี่ชิงหนาน! คุณไม่เคยรู้เลยสักนิดว่าระหว่างฉันกับชวี่ชิงหนานมีความสัมพันธ์อะไรกัน! เขาเป็นพี่ชายฉัน เป็นหลานของแม่ฉัน พี่ชายฝั่งพ่อของฉัน!”
ฉันบอกตัวเองมาตลอด ที่นี่คือบริษัท ฉันควรจะใจเย็นลง แต่ฉันรู้ว่าฉันใจเย็นลงไม่ได้อีกแล้ว
ปัญหาของฉันกับลู่จือสิง ดูเหมือนจะเป็นผลกระทบมาจากชวี่ชิงหนานกับหลินเมิ่งเซีย แต่ความเป็นจริง คิดให้ชัดเจน พวกเขาก็ไม่ใช่เหตุผลหลัก สืบสาวเรื่องราวแล้ว ก็เป็นเพราะฉันกับลู่จือสิง!
ฉันไม่ได้พูดว่าฉันไม่ผิด ช่วงเวลาที่ความรักมีปัญหา แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายต้องมีความรับผิดชอบ ฉันรู้ว่าฉันควรจะบอกลู่จือสิงเรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับชวี่ชิงหนานให้ชัดเจน!
แต่เขาก็เคยชิน ฉันเชื่อเขาแล้วหนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ฉันไม่รู้ว่าต่อไป เขายังต้องผิดคำมั่นสัญญาอีกกี่ครั้ง
ฉันเบื่อหน่ายแล้วจริงๆ วันนี้มีชวี่ชิงหนาน พรุ่งนี้มีอู๋ชิงหนาน หลี่ชิงหนาน งานของฉันกำหนดไว้แล้วว่าต้องคบค้าสมาคมกับคนจำนวนมาก แต่เขาไม่เชื่อใจฉัน พวกเราต้องทะเลาะกันเรื่องไม่เชื่อใจฉันอีกนานแค่ไหน?
“คุณพูดอะไร? ชวี่ชิงหนานเป็นใคร?”
เขาจ้องมองฉัน ด้วยใบหน้าที่ไม่เชื่อถือ ฉันแค่รู้สึกว่าน่าขัน “เขาคือพี่ชายฉัน พี่ชายฝ่ายพ่อ วันนั้นที่ไปกินข้าว เดิมทีฉันอยากจะบอกคุณ แต่คุณทำเกินไปแล้ว ลู่จือสิง คุณทำกับฉันเกินไปตลอด !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้