ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะมาถามคำถามนี้กับฉันในเวลาเช้าตรู่แบบนี้ แต่ช่างมันเถอะ เมื่อคืนฉันไคร่ครวญมาพอสมควรแล้ว ฉันทำใจเสียเด็กคนนี้ไปไม่ได้ และฉันก็ดันมีความรู้สึกดีๆ ต่อลู่จือสิงทั้งที่รู้ว่าไม่ควรเลย
ฉันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ฉันคิดทบทวนมาแล้ว... ฉันว่า..."
เมื่อฉันพูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืน และฉันก็ต้องตกใจเมื่อเขาเดินตรงมาถึงตัวฉันในเวลาเพียงชั่วพริบตา “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ฉัน... อุ๊บ”
ทันใดนั้นลู่จือสิงก็รั้งตัวฉันเข้าไปหาแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของฉัน จูบนั้นหนักหน่วงรุนแรง และรุกรานเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง จนทำให้ฉันพ่ายแพ้อย่างหมดรูปแทบจะในทันที
เมื่อเขาคลายจูบ ฉันทำได้เพียงซบหน้าลงกับบ่าของเขาพร้อมกับอาการหายใจหอบถี่
“ซูยุ่น คุณไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว... คุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแต่งงานกับผม”
คำพูดที่แข็งกร้าวและเอาแต่ใจดังมาจากเหนือศีรษะฉัน จนฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี “ลู่จือสิง ที่คุณบอกให้ฉันเก็บไปคิด จริงๆ แล้วคุณโกหกใช่ไหม”
เขาไม่ตอบคำถามของฉัน แต่กลับโน้มศีรษะลงมาและมองตรงมาที่ฉันด้วยดวงตาสีเข้มคู่นั้น “แล้วคำตอบของคุณคืออะไร”
เขาทำให้ใจฉันสั่นระรัวจนฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ประธานลู่ ฉันคิดว่าฐานะน้าของหยาวตันตันนี่น่าจะเจ๋งดีนะ”
“อืม... ก็เจ๋งนะ”
ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือมาแตะแก้มของฉัน ดวงตาของเขามีประกายของรอยยิ้มน้อยๆ ดูอ่อนโยนจนฉันเองก็บอกไม่ได้ว่านี่คือความฝันหรือความจริง
ฉันหลบสายตาและหันไปมองอาหารเช้าที่เขานำมาวางไว้บนโต๊ะ “ลู่จือสิง คุณคิดดีแล้วใช่ไหม? ฉันไม่ได้ร่ำรวย แล้วก็ไม่ใช่คนสวย นิสัยก็ไม่ค่อยดี ถ้าแต่งงานกับฉันคุณจะขาดทุนทุกอย่าง”
"ผมไม่ได้ต้องการแต่งงานเพื่อธุรกิจ และผมก็รู้ตัวดีว่าผมจะขาดทุนหรือเปล่า"
เขากระชับมือฉันแน่น เพียงคำพูดประโยคเดียวก็ขจัดความลังเลใจของฉันไปจดหมดสิ้น
บางทีฉันควรมีความกล้ามากกว่านี้อีกนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้