ลู่จือสิงยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของฉัน เขาเหลือบมองฉัน และก้มดูโทรศัพท์
ฉันแคปหน้าจอของข่าวและรูปถ่ายไว้ ตอนนั้นฉันแค่แคปมา แต่ไม่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้มันจะมีประโยชน์
ในขณะที่เขากำลังดูโทรศัพท์ ฉันรีบยกมือขึ้นแล้วผลักเขาออกไป จากนั้นก็กลิ้งไปด้านข้าง
ลู่จือสิงมองไปที่โทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่ดี
ฉันมองเขาอยู่ข้างๆ ไม่รู้ทำไมเห็นเขาอย่างนี้แล้ว ฉันก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่น
อันที่จริงฉันแค่อยากแกล้งเขาเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะทะเลาะกับเขาเพื่อให้เขาโกรธ
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของลู่จือสิงยิ่งนานยิ่งแย่ลง ฉันก็รีบพยายามจะหยิบโทรศัพท์คืนมา แต่เขาถือโทรศัพท์ไว้แน่นเกินไป:“ทำอะไร?”
เขามองมาที่ฉันด้วยใบหน้าบึ้งตึง ฉันรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย “คุณดูเสร็จรึยัง?ถ้าดูเสร็จแล้วก็เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
ลู่จือสิงตะคอกอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าควรเป็นฉันที่จะโกรธ แต่กลายเป็นว่าเขาโกรธ
เขาถือโทรศัพท์อยู่ข้างหน้าฉัน:“เมียจ๋า ไหนพูดสิว่านี่มันเรื่องอะไร?”
ฉันมองไปที่โทรศัพท์แล้วขมวดคิ้ว:“นี่ไม่ใช่คำถามที่ฉันควรจะถามคุณหรอ?นี่เป็นข่าวของคุณ คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาถามฉันว่านี่มันเรื่องอะไร?”
วันนี้สมองของลู่จือสิงคงไม่มีปัญหานะ?
“ครั้งที่แล้วคุณพูดอะไร?”
ฉันคิดๆดูแล้วก็รู้สึกผิด “รีบเอาโทรศัพท์ฉันคืนมา!”
“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าคำพูดของฉันเชื่อถือไม่ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนที่คำพูดเชื่อถือไม่ได้คือคุณ?”
มือของเขาถือโทรศัพท์ไว้ ฉันเอามันกลับมาไม่ได้
ลู่จือสิงยื่นโทรศัพท์ออกมาข้างหน้าฉันอีกครั้ง ฉันก็ไม่ได้คิดมากนัก ยกมือขึ้นจะแย่งโทรศัพท์กลับมา แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะยื่นมืออกมาโอบเอวฉัน
ฉันตกตะลึงไปชั่วครู่ เมื่อเห็นเขาวางโทรศัพท์ของฉันลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ไหนความเศร้าหมองบนใบหน้าของเขาเมื่อตะกี้ เห็นมีแต่รอยยิ้ม
ชั่วพริบตาเดียวฉันก็ตอบโต้กลับไป:“คุณล้อฉันเล่นหรอ?”
“ไม่ใช่เธอล้อฉันเล่นก่อนหรอ?”
ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดก็เลยโต้เถียงเขาไม่ได้ จึงทำได้เพียงผลักเขา:“คุณปล่อยฉัน!”
“เมียจ๋า เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เราเพิ่งจดทะเบียนกันเมื่อเช้าวันนี้นะ!”
ฉันเงยหน้ามองเขา ลู่จือสิงในสายตาของฉันเป็นเหมือนหมาป่าที่หิวโหย
ฉันอ้าปากอยากจะพูด แต่เขาก็ก้มหน้าลงมาจูบฉัน คำพูดของฉันถูกเขาปิดเอาไว้:“วู้——คุณ!”
ฉันยกมือคิดจะผลักเขา แต่เขาก็ใช้มือของเขามาประสานกับมือของฉันไว้
แรงของผู้ชายนั้นมีมาก แรงของฉันเทียบกับเขาไม่ได้ โดยเฉพาะการจูบที่รุนแรงของเขา ไม่นานฉันก็สับสนวุ่นวาย และหายใจไม่ค่อยออก
ภานในไม่กี่นาทีฉันก็ต้องพ่ายแพ้
ฤดูหนาวที่เมืองA ปีนี้ เมื่อมือของเขาเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะสั่น:“ลู่จือสิง——”
“อีกเดี๋ยวก็ร้อนแล้ว!”
ขณะที่เขาพูดก็ถอดชุดนอนของฉันออก หลังจากนั้นก็มองไปที่เสื้อผ้าท่อนล่างของฉัน
ฉันถูกโอบกอดด้วยมืออีกข้างของเขา เขาดูร้อนไปทั้งตัว แนวคิดดูไม่ค่อยชัดเจน ดังนั้นเขาจึงบอกให้ฉันยกมือฉันก็ยกมือ บอกให้ฉันเหยียดขาฉันก็เหยียดขา
รอให้ฉันโต้ตอบกลับ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองช่วยเขาถอดเสื้อผ้าของเขาออกตั้งแต่เมื่อไหร่
ทันใดนั้นริมฝีปากก็อ่อนลง ลู่จือสิงก้มลงมาจูบฉัน:“ไม่ดื้อนะ”
เขาพูดกับฉันเบาๆ ฉันทนไม่ไหวจริงๆ รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองแช่อยู่ในน้ำอุ่น
“มา ยังมีกางเกงนะ ที่รัก”
ฉันนับถือลู่จือสิงจริงๆ ในปากของเขานั้น คำพูดอะไรก็สามารถพ่นออกมาได้ ทั้งคำพูดสกปรกทั้งคำพูดรักใคร่บนเตียง และยังพูดได้อย่างเปิดเผยโจ่งแจ้งอีกด้วย
เสียงต่ำของผู้ชายคนนี้ เรียกฉันอยู่ที่ข้างหู “ที่รัก”
ในชั่วพริบตาเดียว ฉันก็ร้อนมากจนไม่มีสติ
ลู่จือสิงเหมือนจะดูออกว่าฉันไม่สามารถต้านทานชื่อเรียกที่คุ้นเคยเหล่านี้ได้ และเขาก็เปลี่ยนคำอีกคำ:“เป็นอะไรไปหวานใจ”
ฉัน……
ด้วยความสะลึมสะลือ ลู่จือสิงจับมือของฉันกดลงบนกางเกงในของเขา:“มา ยังมีอันนี้”
เสียงที่หวานฉ่ำของเขาในเวลานี้ เหมือนกับเสียงเชลโล่ที่ทำให้คนเคลิบเคลิ้มหลงใหล
ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเลอะเลือน และฉันก็ช่วยจับมือของเขามาถอดกางเกงชุดนอนของเขาออก
เมื่อฉันรู้สึกตัว เขาก็พังประตูเมืองเข้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ฉันบีบแขนของเขา รู้สึกได้ถึงความร้อนจากตัวของเขาที่แพร่กระจายมายังตัวของฉันอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันกำลังถูกวางไว้บนตะแกรงปิ้งย่าง
ร้อนจนทนไม่ไหว
“อืม——”
เขากระแทกอย่างแรง ฉันกัดฟันทนไม่ไหว
เมื่อนึกถึงวันนี้ตอนเช้าที่เราสองคนจดทะเบียนกัน คืนนี้ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ลู่จือสิงขอให้ฉันทำตามความต้องการ และฉันก็คิดไม่ถึงตัวเองจะทำตามเขาขึ้นมาจริงๆ
ทั้งสองคนตื่นเต้นคึกคัก เมื่อได้สติกลับมาก็เป็นเวลาสิบสองนาฬิกาแล้ว
ตอนนี้ฉันง่วงมากๆ ลู่จือสิงอุ้มฉันไปทำความสะอาด จากนั้นก็อุ้มฉันกลับมาที่เตียง
“นอนเถอะ”
เขาตบหัวฉันเบาๆ ฉันทำเสียงฮึออกจากจมูก หาท่านอนที่สบาย หลับตาลงและหลับไป
สามปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันกับลู่จือสิงจะมีวันอย่างนี้
เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นก็รู้สึกปวดเมื่อยเอว และลู่จือสิงไม่ได้อยู่บนเตียงแล้ว
ฉันดูเวลาแล้วรีบลุกจากเตียงไปล้างหน้าแปรงฟัน
ฉันแต่งตัวออกไปเตรียมทำอาหารเช้า ลู่จือสิงก็ผลักประตูเข้ามา
ข้างนอกหนาวขนาดนั้นเขายังจะออกไปวิ่ง ในมือเขาถืออาหารเช้า
ฉันวางหม้อในมือลง และเอาอาหารเช้ามาทาน
เนื่องจากวันนี้ไม่ต้องทำอาหารเช้า ยังมีเวลาเหลืออีกเกือบยี่สิบนาที
ฉันหยิบโทรศัพท์มาเล่นไปด้วยทานอาหารเช้าไปด้วย เมื่อลู่จือสิงอาบน้ำเสร็จและออกมาจากห้องน้ำ
เมื่อเห็นน้ำบนผมของเขาฉันก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว:“ทำไมคุณไม่เช็ดผมหน่อยล่ะ?”
“เดี๋ยวมันก็แห้ง”
ขณะที่พูดเขาก็หยิบขนมปังยัดเข้าปาก
ฉันมองไปที่เขา เขาหาผ้าขนหนูและโยนมันไว้บนหัวของเขา ก่อนจะกลับไปหยิบโทรศัพท์และล็อกอินเข้าเวยป๋อ
โพสต์นี้ทำให้ฉันกลัวแทบตาย ข้อความแจ้งดังขึ้นเกือบหนึ่งนาทีก่อนที่จะหยุด ฉันคลิกเข้าไปเปิดดูข้อความส่วนตัวเก้าร้อยเก้าสิบเก้าข้อความ
ฉันตะลึงมากและรีบกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แวบแรกฉันเห็นลู่จือสิงแอดเวยป๋อฉัน
เมื่อคืนวานฉันง่วงมากเลยเผลอหลับไป ใครจะรู้ว่าลู่จือสิงถ่ายรูปที่จับมือกับฉัน
เวยป๋อของฉันไม่มีใครรู้ ปกติฉันก็แค่หยิบมาหาข่าวที่เป็นที่สนใจ หลังจากที่ลู่จือสิงแอดเวยป๋อฉัน ฉันก็เห็นว่าแฟนคลับของฉันเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งหมื่นคนเพียงชั่วข้ามคืน
ฉันอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองผู้ชายที่นั่งทานอาหารเช้าตรงข้ามกันกับฉัน ฉันไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้
ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่พบว่าลู่จือสิงชอบเปิดเผยสิ่งเหล่ามากขนาดนี้?
เกือบจะตรงเวลาวันละสองครั้ง ใบหน้าที่ทนมือทนไม้ของฉันเหมือนจะรับไม่ได้นิดหน่อย
เขาคงสังเกตเห็นสายตาของฉัน จึงเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้าไม่มีความผิด:“มีอะไรหรอ?”
ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่พบว่าลู่จือสิงชอบเปิดเผยสิ่งเหล่ามากขนาดนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้