หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 244

ฉันเข้าใจเหตุผลทั้งหมด แต่ว่าฉันกับลู่จือสิงไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว ไม่อาจจะเอาแต่ใจในเรื่องเล็กน้อย

ฉันไม่เป็นไร แต่ลู่จือสิงเป็นเจ้าของบริษัท เรื่องที่เขาควรจะเร่งรีบสำคัญกว่าเรื่องของฉันเยอะมาก

เซี่ยงฉิงโทรศัพท์ไปหา ก็ไม่รู้ว่าจะรบกวนเขาหรือเปล่า

ฉันก็ไม่ได้ตำหนิความคิดของเซี่ยงฉิง ถึงอย่างไรผู้หญิงก็เป็นเช่นนี้ ปากพูดว่าไม่เป็นไร แต่ความจริงแล้วในใจก็อยากที่จะให้ผู้ชายที่ตัวเองรักเป็นห่วงตัวเอง

ลู่จือสิงพูดว่าอีกสักครู่จะมาที่โรงพยาบาล ฉันก็ดีใจมาก

เพียงแต่ฉันดีใจเร็วไปหน่อย แต่นี่ยังไม่ถึงโรงพยาบาล ท้องของฉันก็เริ่มที่จะปวดจนทนไม่ไหว ปวดจนเกือบจะหายใจไม่ออกแล้ว

เซี่ยงฉิงเอียงหน้ามามองฉัน “ซูยุ่น เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? ไม่ใช่สิ เธอยังได้ยินฉันพูดไหม? ทำไมมือของเธอเย็นขึ้นมากขนาดนี้?”

ฉันยังสามารถได้ยินเซี่ยงฉิงที่กำลังพูดกับฉัน แต่ฉันไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบเธอแล้ว

โชคดีที่บริษัทของพวกเราไม่ห่างจากโรงพยาบาลมาก สิบห้านาทีก็ถึงแล้ว

เวลาที่กำลังลงจากรถ ทั่วทั้งร่างกายของฉันก็หน้ามืด ถ้าไม่ใช่เซี่ยงฉิงรับฉันเอาไว้ คาดเดาว่าทั่วทั้งร่างกายฉันตอนนี้ก็คงหล่นลงไปบนพื้นแล้ว

“ซูยุ่น เธอเป็นอะไรไหม?”

เซี่ยงฉิงกอดฉันเอาไว้ ฉันได้ยินน้ำเสียงของเธอลุกลี้ลุกลนแล้ว เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของฉันตอนนี้ทำให้เธอตกใจกลัว

ฉันกัดฟัน พยายามที่จะเปิดปากพูด “ฉันไม่เป็นไร!”

เพียงแค่เพิ่งจะพูดเสร็จ ฉันก็รู้สึกว่าท้องน้อยของฉันเจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของฉันเริ่มเลือนราง

ก่อนที่สายตาของฉันกำลังเลือนราง ฉับพลันนั้นฉันก็ได้ยินเสียงของลู่จือสิง “ซูยุ่น?”

เขาพึ่งจะพูดเสร็จ ฉันก็ถูกเขากอดเข้ามาอยู่ในอ้อมอก

“ประธานลู่ คุณรีบอุ้มซูยุ่นไปที่ห้องฉุกเฉิน เหมือนเธอจะทนไม่ไหวแล้ว!”

ฉันได้ยินคำพูดของเซี่ยงฉิง อยากจะพูดว่าไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่จริงๆแล้วคือเปิดปากพูดไม่ไหวแล้ว หายใจแต่ละครั้งเหมือนกับอยากจะเอาชีวิตฉันไป

ลู่จือสิงกอดฉันไว้อย่างแน่น เขาก้าวเดินเร็วมาก ฉันถูกเขาอุ้ม ไม่กี่ก้าวก็เข้าไปในโรงพยาบาลแล้ว

เพียงแต่ในเวลานี้ ฉันปวดจนไม่มีจิตสำนึกแล้ว เมื่อก่อนฉันก็เจ็บ เวลาที่เจ็บรุนแรงก็เกือบจะล้มสลบไป

แต่ก็ไม่เคยเป็นเหมือนตอนนี้ เหมือนกับว่าหายใจก็ลำบาก สายตาก็มองเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง มองใบหน้าของลู่จือสิงก็ไม่ชัดเจนแล้ว

ฉันพยายามเปิดปากอยากจะเรียกเขา แต่ก็พูดไม่ออกแล้ว ตอนนี้ฉันก็รู้สึกหวาดกลัวแล้ว

เวลาที่ถูกวางลงบนเตียงผู้ป่วย จิตสำนึกของฉันยังอยู่ เพียงแต่ไม่ค่อยจะชัดเจนแล้ว ฉันแค่รู้สึกถึงลู่จือสิงเหมือนกับก้มหน้าลงมาพูดอะไรกับฉัน แต่ว่าฉันได้ยินไม่ชัดเจน ท้องน้อยของฉันเจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ซูยุ่น ไม่ต้องกลัว”

ลู่จือสิงจับมือของฉันเอาไว้ ไม่หยุดที่จะพูดปลอบโยนข้างใบหูฉัน

ฉันอดทนมาทั้งวันแล้ว ความเจ็บนั้นค่อยๆบีบขึ้นมา นอนอยู่บนเตียงเพียงแค่รู้สึกว่าใบหูของตัวเองได้ยินเสียงหึ่งๆ ได้ยินคำพูดของเขาหยดน้ำตาก็ไหลออกมาแล้ว “ลู่จือสิง ฉันเจ็บ”

เจ็บมาก เจ็บจนเหมือนว่าตัวเองจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว

เส้นประสาทในการรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ระดับความเจ็บปวดของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนเจ็บและอดทนได้ บางคนเจ็บอดทนไม่ได้

ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนอื่นจะเจ็บปวดเช่นนี้ไหม ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าในหัวสมองของตัวเองหน้ามืด ลู่จือสิงที่อยู่เบื้องหน้าคล้ายกับว่ายิ่งมองเห็นไม่ชัดเจนแล้ว

ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าไม่เคยกลัวอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่หยุดที่จะเปิดปากเรียกเขา “ลู่จือสิง! ลู่จือสิง!”

เสียงของฉันติดตามกันมา ฉันได้ยินเสียงของลู่จือสิงกำลังตะโกนเรียกหมอเสียงดัง

แต่ว่าฉันก็มองไม่ชัดเจน และก็พูดไม่ออกแล้ว ท้องน้อยก็เจ็บอย่างต่อเนื่อง

ความทรมานเช่นนี้ทำให้ฉันอยากจะเอามีดมากรีดลงไปบนท้องของตัวเอง แต่ว่าฉันเจ็บจนไม่มีเรี่ยวแรงงที่จะหยิบมีดขึ้นมาได้

ในเวลาที่ฉีดยาแก้ปวด พยาบาลบอกกับฉันว่าจะเจ็บมาก ให้ฉันอดทนไว้ ถ้าอดทนไม่ไหวจริงๆก็ให้กัดลู่จือสิง

แต่เวลาที่หัวเข็มแทงเข้ามา ฉันแค่รู้สึกว่าเจ็บเล็กน้อย ไม่มีอะไรเจ็บไปมากกว่าท้องน้อยแล้ว

“คุณหญิงลู่ คุณเก่งมากจริงๆ เข็มใหญ่ขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าคุณจะไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย”

ท้องน้อยที่เจ็บคลี่คลายลงเล็กน้อย ฉันเอียงหน้าไปมองดูหัวเข็มนั่น ยิ้มอย่างไม่มีแรง

ตอนนี้ฉันเจ็บจนสัมผัสทั้งห้าไปอยู่ที่ท้องน้อยของฉันหมดแล้ว หลังมือด้านซ้ายของฉันเส้นโลหิตเส้นเล็กเกินไปทำหัวเข็มฉีดยาแทงเข้ามาไม่ได้จนทำให้บวม มือซ้ายถูกแทงเข้ามาสี่ครั้งถึงจะสำเร็จ

ลู่จือสิงอยากจะกอดมือของฉัน แต่สุดท้ายทำได้แค่จับนิ้วมือของฉันเอาไว้ มืออีกข้างก็ลูบใบหน้าของฉัน “ซูยุ่น ไม่เป็นไรแล้วนะ”

ฉันเชอะออกไปหนึ่งเสียง หลับตาลง และนอนหลับไปรวดเร็วมาก

ครั้งนี้ที่เจ็บเกือบจะเอาชีวิตของฉันไป ในเวลาที่ฉันตื่นขึ้นมาเสียงก็แหบแล้ว ลู่จือสิงอยู่บนเตียงข้างๆ ฉันลืมตาก็มองเห็นแล้ว

นึกขึ้นได้เมื่อกี้ที่เขาเพิ่งจะตื่นตระหนกมือไม้อ่อน ขอบตาก็ไม่หยุดที่จะร้อนผ่าว ยื่นมือไปจับมือของเขามา “ลู่จือสิง?”

เขาก้มหน้าลงมามองฉันฉับพลันนั้นก็ยิ้มออกมา ลู่จือสิงยิ้มออกมาแล้วค่อนข้างจะน่าดู ฉันถูกลู่จือสิงจ้องมอง จนรู้สึกว่าในใจตัวเองอบอุ่นขึ้นมา

ยังไม่ได้พูดอะไร ในช่วงเวลาฉับพลันนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบบนหน้าผากของฉัน “มันผ่านไปแล้วนะ ซูซู”

ฉันใช้แรงกอดเขาอย่างแน่น ความจริงเพิ่งจะ ถูกตัวของฉันเองทำให้ตกใจกลัวแล้ว

ผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง ฉันเพิ่งจะนึกถึงเซี่ยงฉิงขึ้นได้ เอ่ยถามเขา “เซี่ยงฉิงล่ะ?ก็คือเพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนนั้นที่มาส่งฉันที่โรงพยาบาล!”

“เธอมีธุระกลับบริษัทไปก่อนแล้ว ก่อนที่จะไปได้พูดกับผมว่า ถ้าคุณตื่นแล้วให้โทรศัพท์หาเธอด้วย”ลู่จือสิงพูดพลาง มองดูฉันชะงักไปเล็กน้อย “คุณหิวไหม?”

ถ้าเขาไม่พูดฉันก็ไม่รู้สึก เมื่อเขาพูด ฉันก็รู้สึกหิวแล้วจริงๆ รีบพยักหน้า “หิว”

“ถ้าอย่างนั้นคุณรอสักครู่ ผมจะออกไปซื้อของกินมาให้คุณ“

มองเห็นเขาตึงเครียดเช่นนี้ ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าในใจมีความสุข

จ้องมองดูลู่จือสิงหันตัวออกไปจากห้องพักผู้ป่วย นึกถึงคำพูดของเขาเมื่อกี้ขึ้นมาได้ ฉันรีบหยิบโทรศัพท์แจ้งในวีแชทกลุ่มว่าฉันปลอดภัยดี

หลังจากบอกเสร็จแล้ว นึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ฉันจะออกมาได้ยินเสียงของหลี่เซี่ยง ฉันรู้จักกับหลี่เซี่ยงมานาน เป็นครั้งแรกที่พบว่าเขาโมโหมากเช่นนี้

ฉันรู้ว่าโครงการของหลี่ฮุ้ยหรูทำให้หลี่เซี่ยงไม่พอใจแน่นอน แต่ไม่ถึงจะต้องด่าขนาดนั้น

คิดไปมา ฉันก็อดไม่ได้แล้วที่จะ โทรศัพท์หาหวางเสี่ยวซิน

“ซูยุ่น? คุณไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม

น่าอายจริงๆ ก็แค่มีประจำเดือนมา ทำให้ทั่วทั้งบริษัทรู้ว่าฉันไม่สบายจนต้องเข้าโรงพยาบาล

“ไม่เป็นไรแล้ว หลี่เซี่ยงเป็นอย่างไรบ้าง? เวลาที่ฉันกำลังออกมาได้ยินว่าเขากำลังด่าหลี่ฮุ้ยหรู!”

“โธ่ คุณไม่ต้องพูดแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะพูดกับหลี่ฮุ้ยหรูอย่างไรแล้ว เธอทำให้โครงการของคุณเปียกแล้ว หลี่เซี่ยงพูดว่าเธอไม่กี่คำ เธอก็ด่าหลี่เซี่ยงขึ้นมา หลี่เซี่ยงโมโหจนเอาเอกสารโยนทิ้งแล้วก็ไป”

ฉันตื่นตกใจ “หลี่ฮุ้ยหรูล่ะ?”

เธอพูดว่าเธอจะลาออกและไม่ทำแล้ว”

“……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้