หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 245

“เป็นอะไร?”

ฉันเพิ่งจะวางสาย ลู่จือสิงก็กลับมาแล้ว เขาจ้องมองฉัน ขมวดคิ้วขึ้น ด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ

ฉันยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ นำเรื่องของหลี่ฮุ้ยหรูพูดออกไป “……ฉันนึกไม่ถึงว่านิสัยของเธอจะแย่เช่นนี้ ตอนนี้ดีแล้ว ทำให้หลี่เซี่ยงไม่พอใจ ตัวเองก็พูดว่าไม่ทำก็คือไม่ทำแล้ว”

ลู่จือสิงเข้ามาดึงมือของฉัน เขานั่งอยู่บนหัวเตียงทำหน้าที่แทนมือของฉัน ช่วยฉันนวดที่ขมับ

หลังจากที่ฉันตื่นขึ้นมาก็รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย แรงนวดของเขาไม่เบาและไม่หนัก นวดจนฉันรู้สึกสบายขึ้นเยอะมาก

“อย่าโมโห พวกเราไม่จำเป็นต้องโมโหคนพวกนี้”

ฉันเข้าใจเหตุผลทั้งหมด แต่ว่าหลี่ฮุ้ยหรูทำให้ฉันเจ็บปวดมาหลายวันแล้ว ตอนนี้จะไปแล้ว ยังทำให้แผนกของพวกต้องลำบาก พูดตามตรง ฉันอยากจะเอาหลี่ฮุ้ยหรูจับไว้ให้แน่นแล้วใช้ฝ่ามือตบให้หลายๆครั้ง

แน่นอน ฉันก็แค่คิด ถึงอย่างไรฉันก็โตแล้ว ประสบการณ์ในการทำงานก็เจ็ดถึงแปดปีแล้ว ไม่สามารถจะทำร้ายคนที่ไม่เคยมีสังคมการทำงานเช่นผู้หญิงคนนี้

แต่ว่าทัศนคติเช่นนี้ของหลี่ฮุ้ยหรู ฉันก็ยังต้องพูดกับติงหยวนให้ชัดเจน ติงหยวนอยู่เมืองAมานานแล้ว รู้จักคนเยอะมากมาย และทำงานอย่างพวกเรานี้ กลุ่มคนทั้งหมดก็ไม่ได้มีขนาดใหญ เขาเพียงแค่พูดประโยคในกลุ่มคนพวกนี้ ทุกคนก็รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร

ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ใช่ไม่เคยพบกับนักศึกษาฝึกงานที่ทำเกินไปเช่นนี้ แต่คนอย่างหลี่ฮุ้ยหรู นี้เป็นครั้งแรกจริงๆที่ฉันได้พบ

ทัศนคติชุ่ยๆก็ไม่พูด ทำงานเรื่องอะไรก็ไม่เหมือนกับผู้ที่บรรลุนิติภาวะสักนิด แต่ไหนแต่ไรไม่เคยจะคิดไตร่ตรองผลลัพธ์ที่จะตามมา

ได้ยินคำพูดของลู่จือสิง ฉันถอนหายใจออกมา “ฉันไม่ได้โมโหเพราะเธอ เพียงแต่เธอคือนักศึกษาฝึกงานที่ฉันได้พบและทำให้ฉันรับไม่ได้ที่สุด”

“วางใจเถอะ ความโมโหที่คุณได้รับ สามีจะช่วยคุณทวงกลับมา!”

เขาพูดเช่นนี้ ฉันไม่หยุดที่จะขมวดคิ้ว “คุณต้องการจะทำอะไร?”

ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดจะเรื่องไม่ดีอะไรอยู่ เพียงแค่ลู่จือสิงลงมือด้วยตัวเอง คาดเดาว่าหลี่ฮุ้ยหรูจะสามารถถูกบีบให้เป็นทุกข์อย่างแน่นอน

แต่ว่าถ้าฉันคิดเล็กน้อยกับเธอ ก็ดูเหมือนว่าไม่ดีกับตัวเอง

ครุ่นคิดยุ่งเหยิงมาก ฉันเม้มริมฝีปาก “ช่างเถอะ เรื่องนี้คุณอย่าเข้ามายุ่งดีกว่า!”

ก็ไม่รู้ว่าลู่จือสิงจะฟังที่ฉันพูดหรือเปล่า เพียงแค่พูดเสียงต่ำออกมาหนึ่งเสียง ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

หลังจากฉีดยาแก้ปวดฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว ก็แค่มีประจำเดือน มานอนติดอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลความจริงก็ไม่มีเรื่องอะไร

ฉันทนไม่ไหวแล้ว อยู่ในโรงพยาบาลก็กินของที่ลู่จือสิงซื้อกลับมาให้ ฉันพูดกับเขาว่าอยากจะกลับแล้ว

ลู่สือสิงมองฉันด้วยใบหน้าไม่เห็นด้วย “จะกลับเร็วเช่นนี้? ถ้าหากว่าคุณเจ็บอีกจะทำอย่างไร?”

เรื่องวันนี้ทำให้ฉันขายหน้าจริงๆ ใครจะไปคิดว่าฉันแค่มีประจำเดือนครั้งเดียวจะทำให้ฉันน่าเวทนาเช่นนี้ ถูกคนพาส่งเข้าโรงพยาบาล

“ฉันไม่เป็นไรแล้ว จริงๆ ช่วงระยะเวลาที่ฉันมีประจำเดือน เจ็บมากแบบนี้เป็นปกติ!ฉันไม่อยากจะฉีดยาแก้ปวดทุกวัน นอกจากฉีดยา โรงพยาบาลก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว!”

ฉันรู้สึกว่าช่วงระยะเวลาที่ปวดประจำเดือนเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ที่สุด เพราะว่าเมื่อปวดรุนแรงขึ้นมา นอกจากจะฉีดยาแก้ปวดก็ไม่มีวิธีไหนที่จะแก้ไขได้

ลู่จือสิงจ้องมองฉัน ดูท่าทางเหมือนจะไม่ปล่อย ฉันดึงแขนเสื้อของเขา อย่างออดอ้อน “ลู่จือสิง คุณให้ฉันกลับบ้านเถอะ ฉันไม่ไปบริษัทแล้ว ได้ไหม?”

ตอนนี้ก็อายุสามสิบกันแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังจะต้องมาออดอ้อน ฉับพลันนั้นใบหน้าฉันก็ร้อนผ่าวขึ้นมา

เพียงแต่ลู่จือสิงชอบอะไรเช่นนี้ มองฉันอยู่ชั่วครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นคุณต้องลาหยุดพักผ่อนอยู่ที่บ้านสองวัน?”

สีหน้าของฉันก็แข็งทื่อ “หลังจากสองวัน ช่วงระยะเวลามีประจำเดือนของฉันก็ผ่านไปแล้ว! ปกติฉันจะเจ็บแค่สองวันแรก วันนี้ก็ผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้กับวันมะรืนนี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว!”

ความจริงแล้วหลายเดือนมานี้ฉันก็ไม่ได้เจ็บรุนแรงเช่นนี้ ธรรมดาก็ถือว่าเจ็บ เพียงนิดหน่อย สามารถอดทนได้ ถึงแม้ว่าไม่สบาย แต่ทว่าก็ไม่สามารถจะมีผลกระทบกับการทำงาน

และไม่เหมือนกับสองวันนี้ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ฉันใกล้จะหมดสติแล้ว ถ้าหากว่าลู่จือสิงมาไม่ทัน ฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าเซี่ยงฉิงคนเดียวจะนำฉันเข้ามาในโรงพยาบาลได้อย่างไร

ตอนนั้นที่ฉันอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ฉันก็ไม่มีจิตสำนึกแล้ว

ในเวลาตอนเย็นที่กลับมาลู่จือสิงตั้งใจตุ๋นซุปเป็นพิเศษ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลังจากไปโรงพยาบาลหรือเปล่าที่ทำให้ดีขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าตอนเย็นยังมีบางครั้งที่ไม่ค่อยสบาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บจนทนไม่ไหว

เมื่อวานประจำเดือนมาจนทำให้ฉันเข้าโรงพยาบาล ตอนเช้าตรู่ลู่จือสิงก็กักตัวฉันไว้เขาอยากให้ฉันลาหยุด ฉันเสียเวลาทะเลาะวิวาทอย่างหนักกับลู่จือสิงเพื่อจะทำให้ความความคิดที่อยากให้เธอลาหยุดหายไป

ถึงแม้ว่าจะเจ็บก็ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย เพียงแต่ว่าเมื่อเจ็บขึ้นมาก็เหมือนจะเอาชีวิต เมื่อเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลไปฉีดยาแก้ปวดแล้ว

ถึงแม้จะพูดว่าตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว แต่ก็ทะเลาะกันฉากใหญ่ ตอนนี้ฉันดูเหมือนคนไม่มีชีวิตชีวาแล้ว

เมื่อวานเซี่ยงฉิงมาส่งฉันที่โรงพยาบาล คาดเดาไม่ถึงว่าตอนนั้นที่อยู่หน้าประตูจะทำให้เธอตกใจกลัวแล้ว วันนี้เห็นฉัน เธอก็ไม่หยุดที่ขมวดคิ้วขึ้น “ไอ๊หยา สีหน้าของเธอตอนนี้ คนที่เขาไม่รู้เขาคิดว่าเธอป่วยหนัก”

ฉันยิ้มออกมา พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบและประณีต “ฉันก็นึกไม่ถึงว่าจะรุนแรงเช่นนี้”

ทุกคนก็เป็นผู้หญิง เซี่ยงฉิงก็รู้ เธอตบลงมาที่บ่าของฉันด้วยความเห็นใจ “ครั้งต่อไปถ้าเธอมีเรื่องอะไร อย่าดื้อรั้นเช่นนี้อีก ไปโรงพยาบาลให้เร็วกว่านี้ อาจจะไม่รุนแรงเช่นนี้”

ฉันเงิบไป และก็รู้ว่าเมื่อวานตัวเองดื้อรั้นจริงๆ จำใจต้องยอมรับผิด “พอแล้ว พอแล้ว คุณเซี่ยงคนสวย ฉันรู้ว่าผิดไปแล้ว! หลังจากนี้ฉันจะไม่อดทนเช่นนี้อีก ได้ไหม?”

“เชอะ คนบ้างาน!”

เซี่ยงฉิงเยาะเย้ยฉัน เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อฉัน

ตอนนี้ถงเจียหลินก็เข้ามา มองมาที่ฉัน “เธอไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม ซูยุ่น?”

ฉันส่ายหน้า “ไม่เป็นไร เมื่อวานเจ็บรุนแรงมาก เธอก็รู้ เจ็บประจำเดือน ก็ไม่มีวิธีจะแก้ปัญหา”

ถงเจียหลินต่างจากเซี่ยงฉิง เธอคิดเรื่องเยอะกว่า “ก่อนหน้านี้ฉันก็เห็นว่าเธอเจ็บแต่ไม่ได้รุนแรงเช่นนี้ เดือนนี้เธอกินอะไรผิดเข้าไปหรือเปล่า?”

ฉันส่ายหน้า “ไม่ได้กินอะไรผิดนะ ฉันก็กินอาหารในบ้าน ในบ้านยังมีเป้ยเปย อาหารที่พวกเรากินก็มีประโยชน์มากนะ!”

ถงเจียหลินพยักหน้า ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก “ก็ได้ เธอก็อย่าคิดอะไรให้เหนื่อย พักผ่อนเยอะๆ!”

ฉันนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เจิ้งเยว่พูด ไม่อยากจะพูดอะไรเยอะ ถงเจียหลินก็ดูออก ยิ้มออกมา “พอได้แล้ว ถ้าเธอรีบทำงานให้เสร็จและถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรแล้ว ไปบอกกับผู้จัดการติงสักหน่อย อย่าทำให้เหมือนกับเมื่อวาน”

ดูเหมือนว่า เมื่อวานฉันทำให้คนตกใจกลัวจริงๆ เดือนมกราคมของเมืองAหนาวมาก ในห้องทำงานเปิดเครื่องทำความร้อน เมื่อวานถ้าฉันเป็นไปตามที่เซี่ยงฉิงบรรยาย ก็คือทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ สีหน้ากับริมฝีปากก็ซีดเผือด มีหลายคนที่เห็นก็ตกใจกลัว

ฉันรู้ว่าถงเจียหลินคือเป็นห่วงตัวเธอเอง พยักหน้า “ฉันรู้แล้ว”

ถึงแม้ว่าถงเจียหลินจะไม่พูดเช่นนี้ แต่ฉันก็รับปากลู่จือสิงไปสามครั้งแล้ว วันนี้รีบทำงานให้เสร็จเร็วที่สุด พยายามจะลาหยุดช่วงบ่าย

ความจริงวันนี้ก็ยังเจ็บนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เจ็บรุนแรงเหมือนเมื่อวาน ก็ยังถือว่าอดทนได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้