หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 262

ฉันไม่ได้มีเวลาทักทายหวางเสี่ยวซินเขา รีบปิดคอมพิวเตอร์และหยิบกระเป๋าวิ่งออกไปนอกบริษัท

คนส่วนใหญ่ไปกันแล้ว ลิฟท์หยุดอยู่ชั้นหนึ่ง ฉันก้มหน้าลงยัดสมุดบันทึกลงกระเป๋า ไม่ได้สนใจอะไรมาก

"ซูยุ่น"

เมื่อได้ยินเสียงของลู่จือสิง ฉันตกตะลึงเล็กน้อย หันกลับไปไม่รู้ว่าเขามายืนอยู่ข้างหลังฉันตอนไหน

"คุณ คุณมาอยู่นี่ได้ยังไง?"

เขามองฉันทำเสียงเย็นชา : "ฉันโทรหาคุณหี่สายแล้ว?"

พูดอย่างนี้ ฉันใจฝ่อเล็กน้อย : "เมื่อกี้ฉันประชุมอยู่ โทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะ ไม่ได้รับ"

ในเวลานี้ประตูลิฟต์เปิดออก ฉันรีบดึงๆเขา : "คุณอย่าโกรธเลยนะ ฉันขอโทษ!"

"เฮ้ซูยุ่น รอก่อน!"

ฉันกับลู่จือสิงเพิ่งเข้าลิฟท์ไป ก็มีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งวิ่งออกมา

ฉันคิดจะไปกด ผลคือลู่จือสิงยื่นมือออกไป"กดปิดประตู"

ฉันมองเขา กระพริบๆตา ทำอะไรไม่ถูก จับๆมือเขา : "คุณอย่าโกรธนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!"

เขาก้มมามองฉัน ก็ไม่ได้พูดว่ายกโทษหรือไม่ยกโทษให้ฉัน

เพียงแต่มองสีหน้านี้ของเขา ก็รู้ว่ายังโกรธอยู่

ตลอดเวลาจนถึงขึ้นรถ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรกับฉัน

ฉันดึงแขนเสื้อของเขา : "ลู่จือสิง?"

เขายังคงไม่พูด ฉันละอายใจ แต่ก็รู้ว่าตนเองทำเกินไปหน่อย

ลืมนำโทรศัพท์มาก่อนการประชุม ให้เขารอฉันกว่าครึ่งชั่วโมง ก็ไม่รู้ว่าฉันทำอะไรอยู่

เหลือบมองเขา ฉันถอนหายใจ วางแผนว่ากลับบ้านไปจะเกลี้ยกล่อมอีกที

เพราะว่าฉันเลิกงานเย็น ทุ่มกว่าป้าจ้าวถึงจะไป ฉันขอโทษเล็กน้อย แต่เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรตลอด

ฉันมองไปที่ชายที่กำลังเล่นกับเป้ยเปย เม้มๆปาก ตัดสินใจไปทำกับข้าวก่อน

เมื่อเขาออกมาจากห้องเป้ยเปยฉันก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ มองเขาแล้ว ฉันไปห้องเป้ยเปยสักพัก หลังจากแน่ใจว่าห่มผ้าแล้วก็เปิดประตูออกไป

ปกติลู่จือสิงจะอาบน้ำเร็ว ไม่รู้ว่าครั้งนี้ตั้งใจหรือเปล่า ฉันอยู่บนเตียงรอไปห้านาทีแล้ว เขาก็ยังไม่ออกมา

คุณบอกว่าผู้ชาย อาบน้ำนานแบบนั้นทำอะไร!

อีกทั้งรอไปห้านาทีแล้ว เขายังไม่ออกมา ฉันทนไม่ได้แล้ว ก็มุดเข้าผ้าห่ม

เมื่อฉันกำลังจะหลับ จู่ๆลู่จือสิงก็มากดทับฉัน

ฉันหายใจไม่ออกเล็กน้อย ยกมือขึ้นผลักเขา "คุณทำอะไรนะ?"

"ซูยุ่น คุณไม่สนใจความรู้สึกของฉันตอนนี้เลยใช่ไหม?"

เขามองฉัน แสดงอารมณ์เป็นพิเศษจริงๆ

ช่วงเวลาแบบนี้ ความง่วงนอนของฉันหายไปหมด

เห็นลู่จือสิง ฉันก็ตกตะลึงเล็กน้อย : "ฉันเปล่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ! ฉันประชุมสองชั่วโมงกว่า เมื่อฉันนึกขึ้นได้ ก็หกโมงครึ่งแล้ว ฉันก็……”

"ไม่ใช่เพราะเหตุนี้"

สิ่งที่เขาพูดทำให้ฉันสับสนเล็กน้อย : "ไม่ใช่เพราะเหตุนี้แล้วคือเพราะอะไร?"

"คุณรู้ว่าฉันไม่มีความสุข แต่ว่าคุณไม่คิดจะง้อฉันเลย"

คำพูดของเขาทำให้ฉันนิ่งอึ้งไป ฉันนึกถึงที่ตนเองหลับไป ก็เป็นฝ่ายผิดเล็กน้อย แต่รู้สึกว่ายังต้องอธิบายเล็กน้อย : "เดิมทีฉันอยากจะง้อคุณ แต่ลู่จือสิงคุณเย็นชาขนาดนี้ แววตาก็ทำให้ฉันกลัวแล้ว! ปกติคุณอาบน้ไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้วไม่ใช่หรอ? วันนี้ฉันรอคุณสิบนาทีแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะทนไม่ไหวไม่นอนหลับไป ฉัน——”

"เถียงข้างๆคูๆ" เขาทำเสียง สีหน้าดีขึ้นมาหน่อย

มองท่าทางเขานี้ ฉันอดหัวเราะไม่ได้ กอดคอเขา ส่งจูบที่ริมฝีปากให้เขาอย่างรวดเร็ว : "เอาน่า อย่าโกรธเลย ครั้งนี้เป็นความผิดของฉัน ครั้งหน้าฉันจะเอาโทรศัพท์ไปด้วยอย่างแน่นอน! ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เอาโทรศัพท์มา ฉันก็จะบอกคุณก่อน!"

เขามองฉันแล้วขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย : "แค่นี้?"

ฉันจูบเขาเล็กน้อย "พอแล้ว นี่——”

ฉันยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆเขาก็จับคางฉันแล้วจูบลงมา

จูบของลู่จือสิงทั้งรุนแรงทั้งเร่าร้อน ฉันผลักๆเล็กน้อย ก็ไม่ออกไป เขาจูบจนทำมห้ฉันอ่อนยวบลงมา

มือของเขาจากคางลึกเข้ามาในชุดนอนฉัน ฉันยกมือขวางไว้โดยจิตใต้สำนึก แต่มือที่จะจับเขา ปรากฏว่าตนเองกลับไม่มีแรง

เขารู้ว่าจุดอ่อนของฉันอยู่ที่ไหน ก็ทำให้ฉันยอมจำนนไปอย่างง่ายดาย

ฉันคิดว่าเรื่องราวสามารถจัดการแก้ไขได้ด้วยการจูบ คาดไม่ถึงว่าจะถูกลู่จือสิงทำอะไรเลยเถิดไป

หลังจากเสร็จสิ้นฉันก็ไม่อยากขยับ เขาอุ้มฉันไปอาบน้ำ

ก็ดีที่เขารู้ว่าพรุ่งนี้ต้องทำงาน ก็ไม่ได้ทำจนมากมาย หลังจากสองครั้งในที่สุดก็ปล่อยฉัน

เมื่อกลับมานอน เป็นเวลาสักพัก ฉันก็นอนไม่หลับ ยืนมือไปดึงๆเขา : "ลู่จือสิง คุณนอนแล้วหรอ?"

"เปล่า"

เขาเอื้อมมือมาจับมือฉัน ฉันดึงๆ ก็ดึงไม่กลับ ก็ไม่ได้สนใจ

"วันนี้คอนกินข้าวเที่ยง ฉีซิ่วหรานมาที่บริษัทเรา"

"อืม"

เขาทำเสียง แสดงออกว่าฟังอยู่

ฉันพูดต่อว่า : "ฉันให้เซี่ยงฉิงไปคุยกับเขาให้ดีดี สรุปคือตอนบ่ายทั้งสองคนก็ลาไปจดทะเบียนสมรสกันแล้ว"

"การกระทำของฉีซิ่วหรานค่อนข้างรวดเร็ว!"

ครั้งนี้ เขาไม่ได้พูดกับฉันแล้ว

ฉันนึกถึงตอนที่กินข้าว ถงเจียหลินพูดกับฉันเรื่องพิธีแต่งงาน อันที่จริงฉันคิดๆดูแล้ว การแต่งงานยังจำเป็นต้องมีพิธีการ ฉันมีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งแรก ถ้าฉันไม่สามารถปกปิดความทรงจำของการแต่งงานครั้งแรกได้ เช่นนั้นฉันคิดว่าต่อไปก็จะกลายเป็นปมปัญหา

ฉันไม่สามารถเป็นเหมือนเซี่ยงฉิงได้ คนโตขนาดนี้แล้ว ลูกชายจะสองขวบแล้ว ยังหลีกหนีจากความเป็นจริง

"ลู่จือสิง"

ฉันเรียกเขา อยากพูดเรื่องการแต่งงานกับเขา แต่ว่าคำพูดมาถึงริมฝีปาก ทว่าตนเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

"หื๊ม?"

ได้ยินน้ำเสียงของเขา ฉันถอนหายใจ ยังไม่คิดว่าจะพูดยังไง : "ฉันง่วงแล้ว"

"งั้นนอนเถอะ"

เขาพูดจบ ฉันก็ไม่ได้พูดอีก

ฟังเสียงลมหายใจของลู่จือสิง แต่ฉันนอนไม่หลับ

เมื่อตื่นขึ้นมาวันที่สองก็คาดไม่ถึงว่าจะแปดโมงแล้ว หลังจากวุ่นวายจัดการตนเองเสร็จเรียบร้อบแล้ว ลู่จือสิงก็เข้ามา: "ทานข้าวเช้าได้แล้ว"

ฉันชะงักเล็กน้อย รีบเดินออกไป "คุณไปซื้ออาหารเช้ามาหรอ?"

เขาร้องเชอะคำนึง: "อะไรจะมาบอกว่าฉันไปซื้ออาหารเช้ามา! ก็เห็นชัดอยู่ว่าฉันทำไหมล่ะ?!"

ฉันรีบยิ้มเข้าสู้: "ดีๆๆ ลำบากคุณแล้ว ประธานลู่!"

รถจอดลง ฉันเอียงไปจูบลู่จือสิงเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้ดึงประตูรถเปิดลงมา

"ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?"

เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย ชัดเจนว่าไม่คาดคิดกับสิ่งที่ฉันพูดทิ้งไว้

ฉันมองเขา คิดๆแล้ว "ลู่จือสิง ฉันคิดว่าพวกเรา——"

คำพูดของฉันยังไม่จบ จู่ๆรถคันนึงด้านหลังก็บีบแตร ฉันตกใจเล็กน้อย ความกล้าที่ฮึกเหิมขึ้นมาเมื่อกี้ก็หายไปในรวดเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้