ดูเหมือนว่าลู่จือสิงไม่ได้คาดคิดว่าในช่วงเวลาฉับพลันนี้ฉันจะพูดเช่นนี้กับเขา กอดมือของฉันอย่างแข็งทื่อ ชะงักไปเล็กน้อย จึงจะเปิดปากพูด “พูดอะไรโง่ๆ คุณหญิงลู่”
ฉันยิ้มออกมา ไม่ได้ตอบกลับ “รีบนอนเถอะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องเข้างานอีก”
จริงๆแล้วถ้าคิดอย่างละเอียด ปีนี้ลู่จือสิงทุ่มเทไปเยอะมาก หลังจากที่ฉันกลับมาเมืองA ส่วนใหญ่เขาก็ยังเจีหาเวลามาเอาใจฉัน เห็นได้ชัดว่าเขาควบคุมบริษัทใหญ่ เขาเป็นคนที่ยุ่งมากถึงจะถูก
ช่วงเวลานี้มีเวลาว่างแล้ว ฉันก็คิดเยอะมาก บางทีฉันควรจะต้องกลับมาดูตัวเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน
พรุ่งนี้ยังต้องเข้างาน ฉันก็ไม่อยากคิดเยอะแล้ว หลับตาลงแล้วก็นอนหลับไป
หลายวันมานี้ก็นอนหลับตลอด ในช่วงเวลาฉับพลันนั้นก็ต้องตื่นเช้า ฉันก็ไม่ค่อยจะเคยชิน ถ้าหากไม่ใช่ลู่จือสิงเรียกให้ฉันตื่น ฉันก็เกือบหลับต่อไปแล้ว
ลุกขึ้นมาดูเวลา ฉันพึ่งจะพบว่าใกล้จะแปดโมงแล้ว ชะงักไปเล็กน้อย รีบลุกขึ้นแปรงฟัน
เดือนมีนาคมของเมืองAฝนตกบ่อยมาก วันนี้ก็ฝนตกอีก
ฉันมองไปด้านนอกหน้าต่าง เมื่อวานกับวันนี้อากาศเหมือนกัน ท้องฟ้าอึมครึม ด้านนอกมีฝนปลิวตามกระแสลม ยังไม่ได้ออกไปฉันก็รู้สึกถึงความหนาวของด้านนอก
เวลานี้ จะกินอาหารเช้าในบ้านก็ไม่ทันแล้ว ลู่จือสิงทำได้แค่ขับรถแวะซื้ออาหารเช้าระหว่างทางไปบริษัท
“เอ๊ะเดี๋ยวก่อน!”
เขาหยุดรถ เปิดประตูรถเตรียมตัววิ่งออกไป ฉันมองไปด้านนอก ถึงแม้ว่าฝนจะไม่ตกหนัก แต่ว่าเขากลับไปกลับมาเช่นนี้ ผมก็คงต้องเปียกแน่นอน หลังจากนั้นก็ง่ายมากที่เป็นหวัด
เป็นเพราะหลายวันมานี้ฉันรับผลกรรมจากการเป็นหวัด ดังนั้นก็เลยค่อนข้างจะกลัวการเป็นหวัดพิเศษ
“ทำไม? ยังอยากกินอะไร?”
ฉันหันกลับไปหยิบร่มด้านหลัง “คุณกางร่มออกไปสิ!”
“ไม่กี่ก้าวเอง”
ฉันรู้ว่าเขาจะพูดเช่นนี้ ยัดร่มใส่เข้าไปไว้ในอ้อมอกของเขา “อย่าพูดไร้สาระ ไม่ก้าวก็ต้องก็คือไม่ได้!”
เขามองดูร่มที่ฉันยัดใส่ไว้ที่อ้อมอกของเขา สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร กางร่มออกแล้วออกไป
ลู่จือสิงเพิ่งจะไป ฉันก็จามออกมา ฉันเป็นหวัดยังไม่หายดี ถึงแม้ว่าไม่ได้มีไข้ แต่ก็มีน้ำมูกไหล
เขากลับมาเร็วมาก นำน้ำเต้าหู้กับซาลาเปาส่งมาให้ฉัน “คุณกินก่อน ไม่อย่างนั้นถึงบริษัทแล้วจะเย็น”
ฉันพยักหน้า ก้มหน้าลงเริ่มกินอาหารเช้า
ด้านหน้าคือไฟแดง ฉันมองไปที่เขา “คุณอยากกินไหม?”
เขาเอียงหน้ามองฉัน ไร้ความละอายเป็นพิเศษ “ไม่มีมือ ต้องขับรถ หรือว่าคุณจะป้อนผม?”
ฉันถลึงตาใส่เขา ช่วยนำน้ำเต้าหู้เสียบหลอดให้เขาดูด นำซาลาเปาจากถุงออกมาครึ่งหนึ่ง “เอาไป”
เขาไม่ได้รับไป ฉวยโอกาสที่มีไฟแดงด้านหน้า ก็ก้มหน้าลงมากัดซาลาเปาในมือของฉันครึ่งหนึ่ง ไม่นานก็กินหมด “น้ำเต้าหู้”
ฉันนำน้ำเต้าหู้ยื่นไปให้เขา“ตัวคุณเองไม่สามารถที่จะยื่นมือมาหยิบเหรอ?”
“ขับรถอยู่!”
เขาพูดพลาง ไฟเขียวที่อยู่ด้านหน้าก็สว่างขึ้นมา
รถเริ่มขับเคลื่อนออกไป ฉันลูบซาลาเปาก็ไม่ร้อนแล้ว รีบนำซาลาเปายื่นไปที่ปากของเขา
ผู้ชายกินค่อนข้างเร็วเป็นพิเศษ ไม่เหมือนผู้หญิง กินคำเล็กๆ
และนึกไม่ถึงว่า ขับรถไม่กี่นาที ลู่จือสิงนำอาหารกินจนหมดแล้ว
ฉันหยิบน้ำเต้าหู้ของตัวเองที่ยังดื่มไม่หมดรีบดูด มองดูเวลา แปดโมงสี่สิบห้านาที ยังมีเวลาอีกสิบห้านาที ไม่สายแน่นอน
ในเวลาที่รถจอดที่ด้านล่างบริษัทก็แปดโมงห้าสิบแล้ว ในเวลานี้ในลิฟท์มีคนเยอะ ฉันยื่นมือไปกอดลำคอของลู่จือสิงจูบเขาอย่างรวดเร็วก็กางร่มและลงจากรถ
“ตอนเย็นผมมีงานเลี้ยง คุณรีบกลับบ้าน เข้าใจไหม?”
ฉันวิ่งพลางตอบ “ฉันเข้าใจแล้ว!”
ในลิฟท์คนเยอะมาก ไม่ง่ายเลยที่ฉันจะเบียดเสียดเข้าไป คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอกับเซี่ยงฉิง
“เธอไม่เป็นไรนะ? ทำไมรู้สึกเวลาไม่กี่วัน เธอผอมลงเยอะมาก?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้