ฉันไม่ป่วยมาปีกว่าแล้ว พอป่วยครั้งนี้กลับครึ่งเดือนกว่าถึงจะหาย
เพราะว่าป่วย ลู่จือสิงเลยไม่ให้ฉันไปรับเป้ยเปยกลับมา และอีกอย่างฉันก็รู้สึกว่าเป้ยเปยอยู่บ้านน้าชายก็ดูอยู่ดีเป็นสุข เลยอดใจไว้
พอฉันไปรับเป้ยเปย เป้ยเปยกอดฉันไว้ก็ร้องไห้เลย
ตั้งแต่เกิดมา นี้เป็นครั้งแรกที่เป้ยเปยร้องไห้หนักหน่วงขนาดนี้ ตอนเด็กเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้สักเท่าไหร่ คิดไม่ถึงว่าจะร้องไห้ขนาดนี้เพราะฉันไม่ได้อยู่กับเขาครึ่งเดือนกว่า เขากอดฉันไว้แล้วร้องไห้ไม่หยุด ไม่ว่าจะปลอบยังไงก็ไม่หยุดร้องไห้
จนกลับถึงบ้าน เป้ยเปยก็ยังร้องไห้เหมือนเดิม
ฉันมองลู่จือสิงอย่างทำไรไม่ถูก
เขายื่นมือมา “เอาเป้ยเปยมาให้ฉัน”
ฉันกลัวเป้ยเปยร้องไห้ต่อไปแบบนี้ กล่องเสียงอาจทนไม่ไหว เลยยื่นเป้ยเปยไปให้เขา
แต่เป้ยเปยจับมือฉันไม่ยอมปล่อย “จะเอาแม่ เอาแม่!”
น่าเอ็ดดู ฉันปล่อยมือไม่ลงเลย
“เป้ยเปยไม่ร้องดีไหม? แม่ไม่ดีเอง แม่ไม่ควรไม่ป่วย ไม่ควรปล่อยให้เป้ยเป้ยอยู่บ้านน้าปู่นานขนาด นี้ยังไม่ไปรับเป้ยเปยกลับ แม่ไม่ดีเอง เป้ยเปยตีแม่ดีไหม? ”
ปลอบประโลมตลอด จนถึงเวลาข้าวเย็น เป้ยเปยถึงจะหยุดร้องไห้
ฉันก้มลงมองเขา ร้องไห้จนตาเกือบบวมเลยทีเดียว ดูจนรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใจ
พอนึกถึงไม่ได้เจอเป้ยเปยครึ่งเดือน กลางคืนเป้ยเปยดึงฉันให้ฉันนอนกับเขา ฉันไม่คิดอะไรสักอย่างก็ตอบตกลงเลย
ลู่จือสิงอาบน้ำเสร็จออกมาดันประตูเข้ามา เห็นฉันกับเป้ยเปยอยู่บนเตียง ขมวดคิ้วอย่างคุกคิด “เป้ยเปยยังไม่นอน?”
ฉันส่ายหัว”นอนหลับแล้ว คืนนี้ฉันจะนอนกับเป้ยเปย ”
สีหน้าเขางอทันที “แล้วฉันละ?”
ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้ “นายโตขนาดนี้แล้ว ทำไมยังทำเหมือนเป็นเป้ยเปยไปได้ รีบออกไป พรุ่งนี้วันเสาร์ นายพูดว่าจะพาเป้ยเปยไปห้างไม่ใช่หรอ?”
ลู่จือสิงไม่ได้พูดอะไร สอยเท้าเข้ามา
ฉันมองเขาอย่างตกใจ “นายทำไร?”
“คืนนี้ฉันก็จะนอนนี่ ยังไงเตียงก็กว้างพอ!”
“งั้นนายก็นอนฝั่งนั้นสิ นอนฝั่งเดียวกับฉันทำไมละ!”
เพราะกลัวเป้ยเปยจะตกเตียง ฉันกับลู่จือสิงเลยสั่งทำเตียงโดยเฉพาะให้เขา สองข้างมีที่กั้นไว้
กำลังพูดเสร็จ ลู่จือสิงก็ยกขาอ่อมฝั่งนั้นมาทางฉัน
ฉันยกมือดันเขา เขาดึงผ้าห่มแล้วก็มุดตัวเข้ามาทันที
ฉันถูกเขาทำจนไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว ทำได้แค่ให้เขาไปปิดไฟ “นายไปปิดไฟไป!”
เป้ยเปยยังเด็ก ตอนกลางคืนเรามักจะเปิดไฟเล็กไว้ให้
พอปิดไฟ แสงไฟข้างในกับมืดลงทันที ฉันกลัวจะทำให้เป้ยเปยตื่น เอาผ้าห่มมาจากห้องรับแขกมาห่มไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
ลู่จือสิงดึงผ้าห่มฉันไปทันที เดิมฉันนอนทับผ้าห่มไว้ ถูกเขาดึงไป ตัวฉันก็หันกลับไปหน้าชนหน้ากับเขาเลย
“นายเบาหน่อย!”
“ได้ งั้นฉันจะเบาหน่อย !”
ขณะที่พูดอยู่ เขาก็นอนทับลงมาที่ตัวฉันกะทันหัน
ฉันอึ่งไป ยังไม่ทันตั้งตัว”นายจะทำไร? เป้ยเปยกำลัง......อืม!”
เขาก้มหัวลงมาก็จูบทันที ฉันกลัวจะโดนตัวเป้ยเปย ก็เลยไม่กล้าดิ้นเยอะ
ท่าทางลูจือสิงรีบร้อนมาก ยกมือก็ดันเสื้อผ้าฉันไว้เลย ฉันรู้ตัวว่าเขาจะทำอะไร อดไม่ได้ที่จะทุบอกเขาไปทีหนึ่ง เขากัดริมฝีปากฉัน จูบลงข้างล่างเรื่อยๆ “เกือบจะเดือนหนึ่งแล้วฉันไม่ได้แตะต้องเธอ !”
ฉันกัดฟันไว้ ดึงเขา”แค่คืนเดียว นายรีบร้อนขนาดนั้นเลยหรอ ....อื้ม.....! ”
ฉันกำลังพูดอยู่ ลู่จือสิงก็ใช้มือเข้าไปทันที ฉันไม่ทันตั้งตัว กระหึ่มออกมาเบาเบา แต่ว่าลูกชายอยู่ข้างๆ เลยระมัดระวังไว้ รีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้
ลู่จือสิงเหมือนรู้ทัน รู้ว่าฉันจะไม่ดิ้น เงยหน้าแสยะยิ้ม”เสียงเบาเบานะคุณภรรยา ถ้าทำให้ลูกชายตื่นละก็....... ”
ฉันทนมองท่าทีเขาไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะกอดเขาแล้วอ้าปากกัดลงไปที่ไหล่เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้