เฉียวซุนใช้มือจับประตูรถไว้แล้วค่อย ๆ ปล่อยลง
บรรยากาศภายในรถอึดอัดมากขึ้น
ลู่เจ๋อที่กลับมาจากต่างจังหวัดก็ต้องวิ่งไปที่บ้านตระกูลลู่อีกครั้ง ที่จริงแล้วก็รู้สึกเพลียอยู่นิดหน่อย เขาวางมือข้างหนึ่งบนพวงมาลัยแล้วลูบหัวคิ้ว น้ำเสียงเจือความหงุดหงิด “คุณคิดจะสร้างความวุ่นวายไปจนถึงเมื่อไหร่ ?”
จนถึงตอนนี้ เขาคิดว่าเธอกำลังสร้างความวุ่นวายอยู่ดี
เฉียวซุนรู้สึกเย็นวาบกลางอก เธอนั่งตัวตรงมองไปทางหน้ารถ สักพักเธอก็เอ่ยเบา ๆ ว่า “ลู่เจ๋อ ฉันจริงจัง! ฉันไม่อยากอยู่กับคุณแล้ว”
ลู่เจ๋อหันไปมองเธอทันที
เขาหน้าตาดี สัดส่วนใบหน้าสามมิติ เฉียวซุนเคยหลงใหลใบหน้านี้มาก แต่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกแล้ว ไม่เลยสักนิด......
ดวงตาดำขลับของลู่เจ๋อจ้องมองเธอ โดยที่มือข้างหนึ่งปลดเข็มขัดนิรภัย “ลงรถ!”
เขาเอ่ยเสียงเบาและปลดล็อกรถ
เฉียวซุนลงจากรถทันที เดินไปที่ทางเข้าวิลล่า……. หลังตั้งตรงของเธอภายในแสงสลัว แน่วแน่พอ ๆ กับการตัดสินใจหย่าของเธอ
ลู่เจ๋อดึงบุหรี่ออกมาสูบแล้วถึงจะลงจากรถ เดินตามขึ้นไปชั้นบน
พวกเขาแยกทางกันโดยไม่สบอารมณ์
คืนนั้น เฉียวซุนนอนที่ห้องพักรับรอง ในใจลู่เจ๋อก็โกรธเกินกว่าที่จะง้อเธอ...... เขาเปลี่ยนชุดนอนแล้วนอนลง ในขณะที่นอนเขาลูบพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างอย่างไม่คุ้นชินเท่าไรนัก
แต่ก่อนไม่ว่าเขาจะเย็นชาแค่ไหน เฉียวซุนก็ชอบมานอนกอดเขาจากด้านหลังเสมอ......
แสงแดดยามเช้าตรู่ส่องเข้ามายังห้องนอน
ลู่เจ๋อรู้สึกแสบตาจึงยื่นมือบังไว้และเขาก็ตื่นขึ้น
ลงมาชั้นล่างมีเสียงเบา ๆ ลอยมา
จากที่ฟังเขารู้ว่านั่นเป็นคนรับใช้ที่กำลังจัดห้องอาหารอยู่ โดยปกติเรื่องพวกนี้จะเป็นเฉียวซุนที่ทำพร้อมกับคนรับใช้ และอาหารเช้าของเขาก็จะเธอที่เตรียมไว้ให้เขาด้วยตัวเอง
อารมณ์ของลู่เจ๋อรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ลงจากเตียงแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องแต่งตัว
วินาทีต่อมา สายตาของเขาหยุดชะงัก
กระเป๋าเดินทางของเฉียวซุนหายไป
ลู่เจ๋อเปิดตู้เสื้อผ้าออก อย่างที่คาดไว้ เธอเอาเสื้อผ้าที่ใส่เป็นประจำบางส่วนไปด้วย
คำตอบของลู่เจ๋อคือการวางสายลง
โยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะทานอาหาร พอเห็นข่าวพวกนั้น เขาไม่มีความอยากอาหารแม้แต่น้อย
.......
เฉียวซุนกลับไปที่บ้านแม่ เสิ่นชิงเพิ่งทำซุปเสร็จ เตรียมที่จะเอาไปส่งไปที่โรงพยาบาล
เมื่อเห็นเฉียวซุน เสิ่นชิงก็รู้สึกไม่สงบใจเสียแล้ว
เธอชี้นิ้วไปที่กระเป๋าเดินทางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดี “ระหว่างสามีภรรยาไม่มีทางที่จะไม่ทะเลาะกันหรอก ถ้าผู้ชายจะแอบกินเป็นครั้งคราวบ้างก็เป็นเรื่องปกติ ไป๋เซียวเซียวทำตัวโทรมขนาดนั้น ขาก็ดูง่อย ๆ อีก...... ป้าไปสืบถามมาแล้วว่ายังเคยหย่ามาแล้วด้วย คนแบบนี้แค่คนเดียวไม่มีทางกระทบต่อฐานะของแกเลยด้วยซ้ำ”
“หนูอยู่กับลู่เจ๋อตรงนั้นจะมีฐานะอะไร!”
เฉียวซุนหัวเราะเยาะตัวเอง ซุปนกพิราบบรรจุลงในถ้วยเก็บความร้อน “เดี๋ยว หนูจะไปดูพ่อที่โรงพยาบาลนะ”
เสิ่นชิงจ้องไปที่เธอ
สักพักเสิ่นชิงก็ใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดมือ เอ่ยด้วยความโมโหว่า “ถ้าพ่อแกรู้ว่าแกจะหย่าคงจะโกรธแทบบ้าแน่! เฉียวซุน......เราถอยกลับมาสักก้าว คิดว่าแกกับเขาก็ไปต่อกันไม่ได้แล้ว งั้นถ้าแกหย่ากับเขาแล้วแกจะไปรอดเหรอไง? ตอนนี้ตระกูลเฉียวเป็นแบบนี้ แกจะเอาอะไรมารับมือได้?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม