ด้วยคำแนะนำของเซี่ยเชียนฮวัน คนขับรถม้าจึงชะลอความเร็วจนเกือบจะเท่าคนแก่เดิน
ตอนที่มาถึงหน้าจวนอ๋อง ซูอวี้เออร์ก็ถูกตบจนตาเขปากเบี้ยวไปหมดแล้ว
“หยุดมือ ช่างน่าอับอายยิ่งนัก!”
เซียวเย่หลันยกม่านขึ้น แล้วตวาดเสียงดัง ทำเอาฝูงชนโดยรอบต่างตกใจจนแตกกระเจิง
ในที่สุดสตรีเหล่านั้นก็หยุดมือ
แต่ผมเผ้าและเครื่องประดับของพวกนางล้วนพันกันมั่วไปหมด หน้าผากชิดหน้าผาก ร่างชิดร่างจนแทบจะแยกกันไม่ออก สภาพทุลักทุเลเช่นนี้ช่างไม่น่าดูยิ่งนัก
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
เซียวเย่หลันลงจากรถม้ามามองพวกนางพลางขมวดคิ้วแน่น
“ท่านอ๋อง ข้า ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น แต่ทันทีที่น้ากับลูกพี่ลูกน้องของพระชายาเห็นข้า ก็ปรี่เข้ามาทำร้ายข้าในทันที ข้าไม่อาจพูดกับพวกนางด้วยเหตุผลได้...”
ซูอวี้เออร์ผมเผ้าหลุดลุ่ย ใบหน้ามีรอยขีดข่วน นางได้กล่าวร้องทุกข์อย่างคับข้องใจ พยายามวาดภาพตัวเองเป็นเหยื่อ
น้าเซี่ยได้ฟังก็พูดโพล่งขึ้นมา “นางเท้ากีบน้อย ปากของเจ้าไม่สะอาด ยังมาตำหนิพวกข้า!”
“ข้าเพียงมาหาพี่หญิง แต่อนุภรรยาผู้นี้กลับกล้ามาขวางไม่ให้ข้าเข้าไป ทั้งยังกล่าวหาว่าบิดาข้าติดหนี้แม่นางหอเทียนเซียงหลายร้อยตำลึง และเป็นป๋อที่น่าอับอายที่สุด ข้าต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับนาง!”
หลิวหรูซวี่ก็โกรธเกรี้ยวเช่นกัน
“ข้าไม่ได้กล่าวเช่นนั้น ข้าเพียงแค่บอกว่าพระชายาไม่ได้อยู่ในจวน และขอให้พวกนางกลับมาใหม่”
ซูอวี้เออร์แสดงสีหน้าน่าสงสาร ขณะกล่าวโต้แย้งให้ตัวเอง
เซียวเย่หลันทนไม่ไหว เขาไม่อยากฟังการวิวาทของสตรี “เย่ซิ่น เจ้ามาแยกพวกนางไป”
“ขอรับ”
เย่ซิ่นเดินเข้ามา แต่กลับรู้สึกสับสน
เขาหันกลับมา “ท่านอ๋อง ผมของพวกนางพันกันมั่วไปหมด แยกมิได้ขอรับ”
“วุ่นวาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...
Update new chapter please...
รอค่ะ มาต่อเร็วๆ กำลังสนุก...