หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี นิยาย บท 132

“ทุกคนรู้เพียงว่าหมิงเฟยคือคนที่เสด็จพ่อพาเข้ามาจากนอกพระราชวัง ส่วนตัวตนที่แท้จริงของนางเป็นใคร ล้วนไม่มีผู้ใดรู้”

พระชายาองค์รัชทายาทถอนหายใจออกมาเบาๆ

เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ถึงว่าตัวตนของหมิงเฟยจะลึกลับเพียงนี้ นางพึมพำว่า “คงไม่ได้ไปแย่งภรรยาของผู้อื่นมาใช่หรือไม่”

“เจ้าน่ะ ควรปิดปากแน่นให้เป็นนิสัยไว้คงจะดี”

พระชายาองค์รัชทายาทจิ้มไปที่จมูกของเซี่ยเชียนฮวัน

นางอายุมากกว่าเซี่ยเชียนฮวันหลายปี ทุกครั้งที่เห็นเซี่ยเชียนฮวัน นางก็รู้สึกว่าเหมือนเห็นน้องสาวแสนซุกซนและชาญฉลาด แต่ทำอะไรนางไม่ได้จริงๆ

เซี่ยเชียนฮวันเผยอมุมปากยิ้มขึ้น นางหัวเราะแหะๆ “ข้าล้อเล่นเท่านั้น เสด็จพ่อทั้งสูงส่งและเฉลียวฉลาด รูปร่างหล่อเหลา จำต้องไปแย่งมาด้วยหรือ? ยามเขาออกเยี่ยมเยียนประชาชนนอกเครื่องแบบโดยไม่ได้เปิดเผยตัวตน เพียงเดินไปบนถนนก็มีสตรีมากมายอยากแต่งงานกับเขา”

“เจ้าเป็นสตรีนะ เหตุใดจึงเอ่ยคำเช่นนี้!” พระชายาองค์รัชทายาทยิ้มแล้วส่ายหน้า

ขณะนั้น

เงาหนึ่งที่ซ่อนกายอยู่ในความมืดกำลังสับสน

ประโยคนี้ของเซี่ยเชียนฮวัน เขาจะจดไว้ไปทูลต่อฮ่องเต้ตามความจริง หรือข้ามผ่านไปดี?

เอาละ ช่างเถิด

รายงานไปตามาจริงแล้วกัน

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียงแค่สายสืบลับที่ไร้หัวใจ

ผ่านไปหลายชั่วโมงยาม เงาดำนั้นก็กลับไปที่ห้องทรงพระอักษร แล้วทูลต่อฮ่องเต้ถึงคำพูดของเซี่ยเชียนฮวันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

“ฮ่าๆ !”

เมื่อได้ยินเซี่ยเชียนฮวันชมตนว่าสูงส่งหล่อเหล่า ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา พู่กันในมือสั่นคลอนจนไม่อาจเขียนหนังสือได้

เงาดำนั้นรู้สึกขนหัวลุก

กี่ปีมานี้ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฮ่องเต้ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเช่นนี้

ฮ่องเต้ขยำกระดาษที่เขียนอักษรหงิกงอเมื่อครู่โยนทิ้งลงพื้น “จากนี้หากพระชายาจ้านอ๋องไปยังวังบูรพา เจ้าไปจับตามองนางไว้ แล้วมารายงานคำพูดของนางให้ข้าฟัง อย่าได้ขาดไปแม้แต่คำเดียว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี