คงไม่มีจริงๆสินะ
ลูกสะใภ้บ้านเธอ เก่งมากจริงๆ!!!
ต่อไป เธอจะศรัทธาอะไรของวัชระกันล่ะ? แค่ศรัทธาลูกสะใภ้ของตัวเองก็พอแล้ว!!!
ชัชนันท์กลับไม่ได้สนใจคนอื่นๆเลย สายตาเธอจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของวัชระ
วัชระก็มองชัชนันท์อยู่ตลอดเช่นกัน รอจนรอบๆข้างเงียบเสียงลง เขาก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงใจอีกครั้ง “เธอชื่อชัชนันท์ใช่ไหม? ชัชนันท์ เธอรับฉันไว้เป็นศิษย์เถอะ ต่อไปถ้ามีเวลาว่างก็ช่วยชี้แนะฉันด้วยเถอะ”
ชัชนันท์ส่ายหน้าอีกครั้ง “หนูไม่กล้าจริงๆค่ะ ถ้าคุณไม่รังเกียจล่ะก็ พวกเราแลกไลน์กันได้นะคะ ต่อไปพวกจะได้แลกเปลี่ยนผลงานซึ่งกันและกัน”
ชี้แนะอาจารย์ภาพวาดจีนแบบนี้ เธอไม่เหมาะจริงๆ!เธอมีความสามารถขนาดนั้นที่ไหนกัน?
เธออายุเพียงเท่านี้ จะให้ชายแก่ผมขาวมากราบไหว้เธอเป็นอาจารย์ได้ยังไง?
พอวัชระได้ยิน ก็รีบพยักหน้าทันที
หลังจากนั้น เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วเพิ่มเพื่อนกับชัชนันท์
หลังจากที่เพิ่มเป็นเพื่อนแล้วเรียบร้อย วัชระก็พูดขึ้นมา “ชัชนันท์…...ใครเป็นคนสอนเธอวาดภาพเหรอ? เธอเรียนมานานแค่ไหนแล้ว?”
“ประมาณ…...สามปีล่ะมั้งคะ อาจารย์ฉันเป็นคนสอนค่ะ เขาก็ไม่ได้เป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงอะไร เขาเป็นแพทย์จีนที่มีชื่อเสียงค่ะ” ชัชนันท์ตอบ
ทุกคนสูดหายใจเข้า ตกตะลึงอีกครั้ง......
“อะไรนะ? สามปี?” สายตาของวัชระเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ฉันวาดมาทั้งชีวิต ยังเทียบไม่ได้กับเพื่อนตัวน้อยที่วาดมาสามปี ฉันละอายใจจริงๆ ชัชนันท์ตั้งใจวาดภาพนะ เธอต้องอนาคตไกล กลายเป็นจิตรกรชื่อเสียงโด่งดังอย่างแน่นอน”
ชัชนันท์กลับส่ายหน้า นัยน์ตาไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ “ฉันแค่วาดไปเรื่อยเองค่ะ และไม่ได้อยากจะเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงอะไร......”
ในตอนแรกที่เธอเรียนภาพวาดจีน ความจริงแล้วก็เพื่อให้จิตใจสงบ
ตอนนั้นพึ่งจะผ่านการถูกผู้ชายเฮงซวยกับน้องสาวร่วมมือกันหักหลัง เหยียดหยาม แถมยังเกิดอุบัติเหตุรถชนอีก จิตใจเธอย่ำแย่อย่างมาก ไม่หนักแน่นพอ
อาจารย์บอกกับเธอว่า การวาดภาพจะช่วยทำให้จิตใจสงบ เพราะงั้นเธอก็เลยเรียนตาม
ส่วนเรื่องที่กลายเป็นจิตรกรชื่อดังอะไรนั่น เธอไม่เคยคิดเลย เพราะเป้าหมายเธอไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้
“ทำเล่นๆไม่ได้นะ......เธออย่าเสียพรสวรรค์ของตัวเองไปโดยใช่เหตุสิ” วัชระพยายามพูด
ชัชนันท์เพียงแค่ยิ้มให้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“ชัชนันท์…...เธอช่วยฉันดูรูปอื่นให้หน่อยได้ไหม? ชี้แนะฉันหน่อย......” วัชระพูดด้วยสีหน้าจริงใจ
“หนูพึ่งจะพูดไปเองนะคะ ไม่พูดถึงเรื่องชี้แนะค่ะ พวกเราไปดูกัน แลกเปลี่ยนความรู้กันสักหน่อย” ขณะที่พูด ชัชนันท์ก็ฝ่าฝูงคนออกไป เดินไปตรงหน้าภาพภูเขาลำธารภาพหนึ่ง
วัชระเดินตามมาอย่างรวดเร็ว
กชนิภามองบนให้กับหทัย หลังจากนั้นก็ตามออกไป
หลังจากที่พวกเขาไปแล้ว คนที่มามุงดูยังคงอยู่ในภาวะตกตะลึง
..................
ชมงานจัดแสดงภาพวาดจบ ชัชนันท์ก็ขึ้นรถมาเซราตีของเธอพร้อมกับกชนิภา
ในเวลานี้ ท้องฟ้าได้เริ่มมืดลงแล้ว
โคมแสงสีในเมืองพึ่งจะเปิด รวมถึงไฟที่ห้อยตามต้นไม้ด้วย
พอกชนิภาขึ้นรถ ก็จับมือของชัชนันท์ไว้แน่นด้วยสีหน้าแฟนตัวยง “นันท์…...ลูกเรียนวาดภาพแค่สามปีจริงๆเหรอ? จริงใช่ไหม?”
ชัชนันท์พยักหน้า “จริงแน่นอนค่ะ”
กชนิภา “สุดยอดไปเลยลูก แม่เรียนวาดภาพวาดจีนตั้งหลายปี ฝีมือยังอยู่ระดับต้นเท่านั้นเอง นันท์ สรุปแล้วลูกเป็นเทพเซียนอะไรนั่นใช่ไหม ถึงเก่งขนาดนี้!?”
“ที่แท้แม่ก็วาดเป็นด้วยเหรอคะ?” ชัชนันท์ถาม
“ใช่ลูก นันท์......คือว่าแม่ กราบไหว้ลูกเป็นอาจารย์ได้ไหม?” ใบหน้าของกชนิภาเต็มไปด้วยความศรัทธา “แม่อยากจะวาดภาพให้สวยเหมือนกับของลูกน่ะ”
ชัชนันท์ส่ายหน้าทันที “ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ แม่เป็นผู้ใหญ่ จะกราบไหว้หนูเป็นอาจารย์ได้ยังไงกันคะ? ถ้าแม่อยากเรียนล่ะก็ ต่อไปหนูค่อยสอนแม่เอาก็ได้ค่ะ”
“แต่ว่าแม่อยากจะกราบไหว้ลูกเป็นอาจารย์……วันนี้เป็นวันที่น่านับถือนันท์ของแม่อีกหนึ่งวันเลยนะ......” กชนิภาชื่นชมชัชนันท์อย่างไม่ปิดบัง ดีใจราวกับว่าเป็นเด็กคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...