ดูท่า เขาคงจะวางแผนที่จะกล้ำกลืนฝืนทนหย่าร้างอย่างจริงจังแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดลอยๆเท่านั้น
ชัชนันท์สีหน้านิ่งเฉย ควงแขนของวันชัยออกจากห้องไป
หลังจากที่เมื่อคืนหิมะตก ตอนนี้ลานบ้านก็เลยขาวโพลนไปหมด
พวกคนรับใช้แล้วก็บอดี้การ์ดกำลังวุ่นอยู่กับการเก็บกวาดหิมะ ยุ่งวุ่นวายไปหมด
หลังจากที่พวกเขาสองคนพ่อลูกทักทายกับทุกๆคนแล้ว ก็ออกไปข้างนอกประตู วิ่งตามทางต่อไป
หิมะตรงกลางทางละลายไปเรียบร้อยแล้ว แต่สองข้างทางยังไม่ละลาย ในเวลานี้เหล่าพนักงานสุขาภิบาลกำลังยุ่งอยู่กับการเก็บกวาด
อากาศหนาวมาก แต่เนื่องจากออกกำลังกาย พวกเขาก็เลยไม่รู้สึกว่ามันหนาวเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากที่วิ่งกลับไปกลับมาตรงถนนลาดยางมะตอยหน้าบ้านไปสองสามกิโลเมตรแล้วนั้น สองคนพ่อลูกก็พิงต้นซากุระที่แห้งเหี่ยวข้างหน้าบ้านเพื่อพักผ่อน
ทั้งสองคนหันหลังให้กัน หายใจเหนื่อยหอบ เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเหมือนกัน
"จริงเหมือนที่ลูกบอก ออกมาวิ่งแบบนี้มันสบายจริงๆ"วันชัยพูดขึ้น
"อื้อ......พ่อ อารมณ์ของพ่อดีขึ้นบ้างแล้วยัง?"ชัชนันท์พูดถามขึ้น
"ดีขึ้นเยอะเลย"
"พ่อกะที่จะหย่าร้างจริงๆเหรอ?"
"อื้อ พ่อกะที่จะให้สองร้อยล้าน แล้วก็บ้านหนึ่งหลังกับเธอ ให้เธอออกไปจากชีวิตของพ่อซะ"ตอนที่พูดสีหน้าของวันชัยก็เคร่งขรึมลง คิ้วขมวด ราวกับว่าทำยังไงก็ไม่สามารถคลายออกมาได้
เธอสามารถรู้สึกได้ถึงความอาลัยอาวรณ์และความเจ็บปวดใจของเขา ในใจรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย เธอไม่รู้จริงๆว่าที่ตัวเองพูดเรื่องนี้ต่อหน้าของพ่อครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้ จริงๆแล้วมันถูกหรือผิดกันแน่
ถ้าเกิดเขาไม่รู้อะไรเลยล่ะก็ ตอนนี้เขาก็ยังคงเป็นตัวเองที่มีความสุขคนนั้น แต่เธอก็ไม่มีหนทางอื่นแล้วเหมือนกัน มีเรื่องมากมายจำเป็นจะต้องให้เขารู้
สมมติว่าถ้าไม่มีความโกรธเกลียดเหล่านั้นล่ะก็ เธอก็อาจจะต้องอดทนกล้ำกลืนต่อไปเพื่อความปรองดองกันของครอบครัว
แต่ตอนนี้ เธอไม่ไหวแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้ทำให้เธอเห็นอะไรมากมายอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
บางครั้งการอดทนยอมอ่อนข้อมันก็ไม่ได้แลกมาด้วยมิตรภาพของผู้อื่นเสมอไป มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เมื่อคนคนหนึ่งยอมอ่อนข้อมากเกินไปมันก็เหมือนกับลูกพลับอ่อนๆลูกหนึ่ง ใครๆต่างอยากจะเข้ามาบีบขยี้ทั้งนั้น
แต่ถ้าสมมติว่าปล่อยวางทั้งหมดไปไม่พูดอะไร แค่มองโดยใช้หลักเหตุผลขจัดอารมณ์ความรู้สึกออกไปให้หมด เธอรู้สึกว่าการที่พ่อเอาตัวออกมาจากหทัยเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
เธอคนนั้นเพื่อที่จะได้บรรลุเป้าหมายของตัวเองแล้ว ถึงขนาดข่มขู่แม้กระทั่งครอบครัวของตัวเองได้ลงคอ ผู้หญิงแบบนี้ไม่อาจรับประกันได้เลยว่าภายหลังจะไม่ทำเรื่องที่น่ากลัวกว่านี้ออกมาอีก
แต่ตอนที่เรื่องนี้ยังไม่ถึงตอนจบ ก็อาจจะยังมีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่ ทั้งหมดมันยังพูดได้ไม่เต็มปาก
ชัชนันท์ไม่ได้พูดอะไร แค่กอดวันชัยเอาไว้อย่างเงียบๆเท่านั้น ตบหลังของเขาเบาๆ"เอาล่ะ หยุดพูดเรื่องที่ไม่น่ารื่นรมย์พวกนี้เถอะค่ะ พวกเรากลับไปอาบน้ำแล้วทานอาหารเช้ากันดีกว่า"
"ได้"
......
ในขณะเดียวกัน ภายในห้องขัง606 ของศูนย์กักกันอันดับหนึ่ง หทัยและชลิตาสองแม่ลูกกำลังทำงานที่เบื้องบนมอบหมายมาของวันนี้อยู่ด้วยกันกับเหล่าบรรดานักโทษหญิงที่อยู่ในห้องขังเดียวกัน:ปักลายผ้าเช็ดหน้า
คนสิบคนนั่งเรียงแถวอยู่บนเบาะ ในมือของทุกคนล้วนแต่ถือสะดึงปักผ้าคนละอัน ตั้งใจปักตามลวดลายแล้วก็ภาพที่อยู่ข้างบนอย่างจริงจังตั้งใจ
ตรงหน้าของพวกเธอแต่ละคนต่างก็มีผ้าเช็ดหน้าไหมแท้สีขาวบริสุทธิ์ที่รอปักลวดลายวางเอาไว้อยู่ คนทั่วไปมีคนละสิบกว่าผืน มีแค่สองแม่ลูกเท่านั้นที่สิ่งของตรงหน้าวางกองเป็นภูเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...