หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 65

สรุปบท บทที่ 65 แฟนของท่านรักและเอ็นดูท่านจริงๆ: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว

บทที่ 65 แฟนของท่านรักและเอ็นดูท่านจริงๆ – ตอนที่ต้องอ่านของ หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว

ตอนนี้ของ หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว โดย จันทร์แสง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 65 แฟนของท่านรักและเอ็นดูท่านจริงๆ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บนโต๊ะอาหารคลุมด้วยผ้าปูโต๊ะไหมแท้สีขาวนวล ตรงกลางมีช่อดอกกุหลาบขาววางเอาไว้

ตรงปลายผ้าปูโต๊ะห้อยพู่ยาวๆสีเดียวกัน สะอาดเรียบง่ายให้ความรู้สึกหรูหราโอ่อ่าไม่น้อย

ภายใต้แสงสว่างของโคมระย้าที่สวยงามหรูหรา ทุกสิ่งทุกอย่างต่างสวยงามดูดี กลิ่นที่หอมหวนของดอกกุหลาบแผ่กระจายอยู่ในอากาศ ทำให้จิตใจคนรู้สึกเบิกบานผ่อนคลาย

ทั้งสองคนสั่งอาหารเสร็จ ก็ถอดเสื้อตัวนอกออก แขวนเอาไว้บนพนักพิงเก้าอี้ของตัวเอง ต่างคนต่างสวมแค่เสื้อเชิ้ต

ขาวเหมือนกัน ยิ่งให้ความรู้สึกเป็นคู่รักกันมากยิ่งขึ้น

"เนื้อหาที่ฉันสอนให้คุณเมื่อวาน คุณจำได้แล้วใช่ไหม? ไม่ได้ลืมใช่ไหม?"ชัชนันท์เป็นฝ่ายพูดเปิดบทสนทนาอย่างกระตือรือร้น

"อื้อ"เขาตอบกลับอย่างนิ่งๆ ถือไฟแช็กแบบกระจกสีดำมือเดียว เล่นไปเล่นมาอยู่ในมือ

นิ้วมือของเขายืดหยุ่นคล่องแคล่วสุดๆ ไม่ว่าจะเล่นยังไง ไฟแช็กก็ไม่ตกลงมาเลยสักครั้งเดียว

เนื่องจากนิ้วมือของเขาเรียวยาวดูดีมากๆ ดังนั้นตอนที่เล่นไฟแช็กก็เลยยิ่งสะดุดตามากขึ้นไปอีก เห็นๆอยู่ว่าเป็นไฟแช็กธรรมดาแท้ๆ แต่กลับถูกเขาเล่นจนให้ความรู้สึกเหมือนกับไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีปัญญาซื้อได้อย่างไรอย่างนั้น

ชัชนันท์มองดูอย่างจิตใจเหม่อลอยอยู่สักพัก

เขามองเธออย่างนิ่งเฉย ดีดนิ้วให้เธอหนึ่งที"คิดอะไรอยู่?"

ชัชนันท์ถึงได้ดึงสติกลับมา หันมองไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาไม่เป็นสองรองใครของเขา พูดเปลี่ยนบทสนทนาไปเลยตรงๆ"ตอนนี้ฉันจะพูดกับคุณสักหน่อย ถึงสถานการณ์ของคนในครอบครัวของพวกเรา พ่อของฉันร่างกายค่อนข้างกำยำแข็งแรง แต่ว่ามีอาการปวดท้องเนื่องจากภาวะหยางพร่อง ต้องกินยารักษาตลอดปี"

"แม่เลี้ยงของฉันก็ภาวะร่างกายเย็นเหมือนกับฉัน แต่ว่าเธอจะค่อนข้างรุนแรงกว่าหน่อย กินยารักษาตลอดปีเหมือนกัน"

"แม้ฉันจะรู้ว่าคุณสามารถวินิจฉัยสิ่งเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังอยากจะบอกกับคุณสักหน่อยอยู่ดี ฉันเดาว่าชลิตาจะเอาพวกเขามาทดสอบคุณเมื่อถึงเวลาแน่ๆ คอยดูแล้วกันว่าฉันโกหกหรือไม่"ชัชนันท์พูดขึ้นมาอีก

"ได้"

"ส่วนมาวินที่กำลังจะแต่งงานกับชลิตาคนนั้น เขาไม่ได้ป่วยอะไร ร่างกายปกติดีมาโดยตลอด"

"แม่ พี่สาวของมาวินคนนั้นสุขภาพร่างกายก็ปกติดี พี่ใหญ่ของเขาเมธีนอกจากสองขาพิการแล้ว ก็ไม่มีอาการป่วยอะไร ส่วนพ่อของเขาเป็นโรคเบาหวาน"

ชัชนันท์พูดอธิบายออกมาทีละคำทีละประโยคอย่างจริงจังตั้งใจ

"อื้อ"

"จำหมดแล้วยัง?"

"อื้อ"

"ตู๊ดๆๆ......"ระหว่างที่พูด โทรศัพท์ของเขาก็สั่นขึ้นมา เป็นข้อความของไลน์ที่เกริกส่งมา

"คุณชายห้า ซื้อบ้านให้ท่านเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ แล้วก็ทำการเก็บกวาดและติดตั้งจังวางตามที่ท่านต้องการเรียบร้อยแล้วด้วยครับ กุญแจผมจะให้ท่านในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะครับ?"

เขาไม่ได้ตอบกลับ ปิดโทรศัพท์เลยทันที ก่อนจะหันมามองไปที่หน้าของเธอต่อ

"อ้อ ใช่แล้ว ฉันลืมเอาเสื้อตัวนั้นของคุณมาด้วย คืนพรุ่งนี้คุณมีเวลาว่าไหม? ถ้ามีล่ะก็ ตอนที่พวกเราเจอกัน ฉันจะเอามาคืนให้คุณ"

"ได้"

"วันนี้พวกเราจบงานก่อนดีกว่า ห้างปิดสี่ทุ่ม เดี๋ยวสามทุ่มพวกเราไปเดินกันสักหน่อย"เสียงของชัชนันท์ อ่อนโยนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

"ทำอะไร?"เขายกคิ้วเล็กน้อย สายตามองสำรวจ มองไปที่ใบหน้าของเธอ

"ฉันอยากจะซื้อเสื้อสูทให้คุณสักตัว เอาไว้ใช้ตอนที่ไปเข้าร่วมงานแต่งงานของเธอ"ชัชนันท์พูดตอบกลับ

"อ้อ"

เขาเพิ่งจะพูดจบ"ตู๊ดๆ......"โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

เป็นข้อความที่กชนิภส่งมา"แม่อยู่ที่CHENGTIANเห็นเสื้อสูทผู้ชายที่ดูหล่อดูเท่มากๆหนึ่งตัว ลูกมาลองสักหน่อยสิ ถือโอกาสมาเดินชอปปิงเป็นเพื่อนแม่ด้วยเลย แม่เดินคนเดียวน่าเบื่อสุดๆQAQ"

แทนไทพิมพ์ตอบกลับไปอย่างไม่คิดเลยแม้แต่น้อย"ไม่ว่าง"

"ทำไมล่ะ? กำลังยุ่งเรื่องงานอีกแล้วใช่ไหม? ลูกเป็นพวกบ้างานหรือไง?"

ในเคาน์เตอร์มีลูกค้าหญิงจำนวนมาก วินาทีที่เห็นแทนไทสองตาก็ส่องแสงเป็นประกาย

พวกพนักงานขายหญิงพวกนั้น ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน

หลังจากที่เดินมารอบหนึ่งแล้ว ชัชนันท์ก็มองพนักงานขายสาวสวยที่อยู่ข้างหลัง ชี้ไปยังเสื้อผ้าที่อยู่บนชั้นวาง พร้อมกับพูดขึ้น"ตัวนั้น......ตัวนั้น......แล้วก็ตัวนั้น......รวมถึงตัวที่อยู่บนตัวนายแบบตัวนั้นด้วย เอาออกมาให้เขาลองทั้งหมดเลยค่ะ"

พนักงานขายสาวสวยพยักหน้าอย่างชื่นชอบทันที เอาเสื้อผ้าทั้งหมดมา พาแทนไทไปที่ห้องลองเสื้อ

ส่วนชัชนันท์นั่งอยู่บนโซฟาหนังแท้สีดำ เปิดดูนิตยสารแบรนด์ไปพลาง รอเขาไปพลาง

"คุณผู้หญิงคะ ดิฉันรู้สึกว่าแฟนของท่านรักและเอ็นดูท่านมากจริงๆนะคะเนี่ย"พนักงานขายหญิงที่รับผิดชอบช่วยพวกเขาถือเสื้อผ้าเมื่อตะกี้เดินเข้ามา พูดอย่างยิ้มแย้ม"ท่านให้เขาลองอะไร เขาก็ลองหมดเลยค่ะ"

"ใช่น่ะสิ แต่ของตระกูลพวกเรานี่สิ ไม่เห็นจะเชื่อฟังแบบนี้บ้างเลย"หญิงวัยกลางคนที่สวมใส่แบรนด์เนมทั้งตัวคนหนึ่งเดินเข้ามา พูดยิ้มๆ

พวกชัชนันท์ก็ยิ้มแย้ม แต่กลับไม่ได้ตอบกลับไป ก้มหน้าดูนิตยสารอย่างเงียบๆต่อไป

รักเอ็นดู?

หรือว่าบางทีเขาอาจจะรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนจ่าย ก็เลยไม่อยากจะเรื่องมากจู้จี้จุกจิกก็ได้

หลังจากผ่านไปสองสามนาที แทนไทก็สวมชุดทักซิโด้สีดำเดินออกมา ข้างในจับคู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาว เนกไทสีดำ สูงสง่าเหมือนกับเจ้าชายที่เดินออกมาจากในความฝันที่สวยงามของเหล่าผู้หญิง

บนนิตยสารในมือของชัชนันท์ ก็มีชุดนี้เหมือนกัน ตอนแรกเธอรู้สึกว่านายแบบใส่ก็ดูดีมากอยู่แล้ว ตอนนี้กลับพบว่า เทียบกับแทนไทใส่แล้ว นายแบบคนนั้นเทียบไม่ติดเลยสักนิด

"ว้าว......หล่อมากเลย!"

"ใช่ๆ ฉันรู้สึกว่าตาของฉันแทบจะบอดเพราะว่าความหล่อแล้วล่ะค่ะ"พนักงานขายหญิงสองคนสีหน้าท่าทางบ้าผู้ชาย มองแทนไทพร้อมกับพูดชื่นชมขึ้นมา

แทนไทไม่ได้สนใจพวกเธอ เดินมาอยู่ตรงหน้าของชัชนันท์ตรงๆ พร้อมกับพูดถามอย่างนิ่งๆ"ดูดีไหม?"

ชัชนันท์พยักหน้า"อื้อ ดูดีสุดๆ คุณไปลองตัวอื่นอีกสิ"

เขาไม่พูดอะไร แค่หันตัวเข้าไปในห้องลองเสื้ออย่างเงียบๆอีกครั้งเท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว