"ช็อก!บิสกิตสำหรับเด็กที่อยู่ภายใต้แบนเนอร์สาขาย่อยของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปใช้วัตถุดิบหมดอายุ"
ชัชนันท์มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย นิ้วมือสอดเข้าไปในวงกุญแจก่อนจะหมุนเล่น จากนั้นก็ลงชั้นล่างไปพลางเปิดข่าวออกมาดู
"ในวันนี้เหม่ยพนักงานของโรงงานขนมปังและบิสกิตสาขาย่อยของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปได้ทำการรายงานวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปกับทางฝั่งตำรวจ ว่าวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปเพื่อที่จะประหยัดต้นทุนการผลิต บิสกิตภายใต้แบนเนอร์อย่างเช่น เลดี้ฟิงเกอร์ ขนมผลไม้ ขนมผัก เป็นต้นล้วนแต่ใช้วัตถุดิบหมดอายุทั้งสิ้น"
"พนักงานคนดังกล่าวถึงขนาดที่ให้รูปวัตถุดิบที่ตนนั้นแอบถ่ายเอาไว้ภายในโกดังเก็บของของโรงงานแห่งหนึ่งของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปจำนวนหลายรูปอีกด้วย จากในรูปเห็นแป้งจำนวนมากที่เริ่มขึ้นราแล้ว บนผักผลไม้ก็ยิ่งเห็นร่องรอยเน่าเสียจำนวนมากอีกด้วย"
"มีรายงานว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสามอย่างนี้อยู่ภายใต้ความดูแลรับผิดชอบของมาวิน คุณชายของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ป ทั้งหมดผลิตอยู่ในโรงงานเดียวกัน"
"เหม่ย คนที่ออกมาเปิดโปงไม่เพียงแต่จะเปิดโปงกับทางฝั่งของตำรวจเท่านั้น แถมยังเอาเนื้อหาดังกล่าวไปโพส์ไว้ในทวิตเตอร์อีกด้วย"
ด้านล่างของโพสต์ข้อความ เป็นรูปหลายรูปของโรงงานบางแห่งของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ป ในรูปสามารถเห็นแป้งขึ้นราหมดอายุที่กองเป็นภูเขา ผักผลไม้ที่เริ่มเน่าเสียเล็กน้อยได้อย่างชัดเจน
สุดท้ายก็ยังโพสต์เนื้อหาที่"เหม่ย"ชื่อจริงเปิดโปงในทวิตเตอร์อีกด้วย นอกจากตัวอักษรแล้ว ยังโพสต์หลักฐานรูปภาพไว้อีกมากมาย
ข่าวเพิ่งจะเผยแพร่ออกมาได้เพียงระยะเวลาสั้นๆไม่กี่นาที แต่ในตอนนี้ปริมาณความคิดเห็นด้านล่างนั้นทะลุหนึ่งแสนความคิดเห็นไปเรียบร้อยแล้ว
รอยยิ้มมุมปากของชัชนันท์ค่อยๆกว้างขึ้น อ่านความคิดเห็นอย่างละเอียดตั้งใจ
"ขนาดของกินเด็กพวกแกก็ยังกล้าปลอมขึ้นมา มาวินนี่ช่างเป็นไอ้คนสารเลวที่ใจคอชั่วร้ายจริงๆ!"
"ลูกอายุสามขวบของฉัน กินผลิตภัณฑ์สามอย่างนี้ของพวกแกทุกวัน ตอนแรกคิดว่าแบรนด์ใหญ่ๆจะน่าเชื่อถือซะอีก แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มาวินไปตายซะ!มาวินไปตายซะ!"
"ไอ้สารเลวมาวิน!ธุรกิจแบบนี้ควรจะไสหัวออกไปจากอุตสาหกรรมอาหารของประเทศZซะ!!!เป็นหนอนบ่อนไส้ชัดๆ!!!"
มีคำด่าทอต่อว่ามากมายในอินเทอร์เน็ต
ทุกคำทุกประโยคที่เข้ามาในสายตา สำหรับชัชนันท์แล้วก็ล้วนแต่เป็นยาที่ดีในการรักษาความเจ็บปวดภายในใจของเธอทั้งสิ้น
เธอเดินออกมานอกตึกอาคารเรียบร้อยแล้วอย่างไม่ทันได้รู้ตัว
ข้างนอกหิมะตกอีกแล้ว เธอรีบเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สตาร์ตรถ
ชัชนันท์ไม่ได้รีบจากไปทันที แต่เปิดทวิตเตอร์ขึ้นมา ดูเทรนด์การค้นหายอดนิยมในตอนนี้
การค้นหายอดนิยมอันดับหนึ่ง ยังคงเป็นเทรนด์การค้นหานั้นของชลิตาอยู่ พอเห็นแล้วในใจของเธอก็เริ่มชื่นชมคนที่ซื้อเทรนด์การค้นหายอดนิยมพวกนั้นจริงๆ
การค้นหายอดนิยมอันดับสอง #วัตถุดิบหมดอายุของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ป#ยอดนิยม
การค้นหายอดนิยมอันดับสาม #พนักงานของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปออกมาแฉ#ยอดนิยม
การค้นหายอดนิยมอันดับสี่ #งานแต่งงานของชลิตามาวิน#ยอดนิยม
การค้นหายอดนิยมอันดับห้า #ชลิตาสร้างข่าวลือ#ยอดนิยม
การค้นหายอดนิยมอันดับหก #มาวินชลิตาแต่งงาน#ยอดนิยม
สิบอันดับแรก พวกเขาสองคนและวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปเหมาไปแล้วหกอันดับ เป็นกระแสได้รับความนิยมมากที่สุดประจำปีเลยก็ว่าได้
ภาพภาพนี้ ทำให้ภายในใจของชัชนันท์รู้สึกสบายอยู่ไม่น้อย
เธอไม่ต้องเข้าไปดูก็รู้ว่า ข้างในพูดอะไรบ้าง ด่าอะไรบ้าง
แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอก็ยังเปิดเทรนด์การค้นหายอดนิยมขึ้นมาไล่ดูไปทีละอันๆอยู่ดี แต่ละท็อปปิกล้วนแต่เป็นคำด่าทอต่อว่าทั้งนั้น พวกชาวเน็ตปลดปล่อยความสามารถในการด่าของตัวเองได้อย่างถึงที่สุดมากๆ
"มาวินชลิตาไอ้สองผัวเมียนรก น่าขำจริงๆ เป็นคนดีๆไม่คุ้มหรือไง? ขอให้สองสามีภรรยามีความสุขไปจนตาย"
"คนหนึ่งใจคอโหดร้ายใช้วัตถุดิบหมดอายุทำผลิตภัณฑ์ให้กับเด็ก คนหนึ่งก็ความคิดชั่วร้ายสร้างข่าวลือว่าอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลตัวเองมีปัญหา หญิงร้ายชายเลวสวรรค์สรรค์สร้างให้มาคู่กันจริงๆ"
"ฉันว่าวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปจะจบสิ้นลงแล้วแน่ๆ เลี้ยงเด็กที่ล้างผลาญทำลายทุกอย่างไม่พอ ยังแต่งงานกับนังผู้หญิงดอกทองรับมันเข้ามาในตระกูลอีกขอมอบคำว่าจบเห่ให้กับภราดรเลยแล้วกัน"
"สินค้าของวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปต่อไปฉันจะไม่กินแล้ว ทุกคนมารวมกันรุมสาปรุมด่าพวกเขากันเถอะ ส่งพวกเขาไปตายซะ!"
พออ่านดูในทวิตเตอร์ต่อ ในท็อปปิกของข่าวฉาวในงานแต่งงานมาวินและชลิตาเธอเห็นวิดีโอที่หทัยตบหน้าของเธอ
ข้างบนวิดีโอเขียนข้อความเอาไว้หนึ่งท่อน:ชัชนันท์กับแม่เลี้ยง
ในคอนเมนต์ของวิดีโอแทบจะระเบิด เหล่าบรรดาชาวเน็ตเริ่มรวมกันเพ่งเล็งไปที่หทัยอย่างรุนแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...