ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เลือดสดสีแดงไหลรินลงมา
"ไอ้ลูกสารเลว เรื่องราวดำเนินมาถึงตรงนี้แล้วแกยังเสแสร้งหาข้อแก้ตัว ฉันไม่สนใจว่าคนอื่นจะทำอย่างไรหรอกนะ แต่วงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด!"
"แกกล้าเปรียบเทียบวงศ์ดีประสิทธิ์กรุ๊ปกับพวกบริษัทเล็กๆ แบบนั้นได้ยังไง แกนี่มันเหลือเกินจริงๆ!" ภราดรโมโหเสียจนบัดนี้สมองของเขาว่างเปล่า อยากจะทุบตีมาวินให้ตายไปเสียตรงนั้น
เมื่อเห็นลูกชายสุดที่รักหัวแก้วหัวแหวนถูกทุบตี ดวงพรก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
เธอเอื้อมมือไปจับมือของภราดรด้วยความระมัดระวังและออดอ้อนว่า "คุณคะ ไหนๆ เรื่องมันก็ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้คุณโมโหหงุดหงิดไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการหาทางออกไม่ใช่เหรอคะ"
"คุณเงียบไปเลยนะ ก็เพราะคุณใจดีแบบนี้ไงลูกถึงได้ใจเอา นิสัยไม่ได้เรื่องของไอ้มาวินก็เป็นเพราะคุณที่เลี้ยงดูเขามาจนเป็นแบบนี้!" ภราดรสะบัดมือของดวงพรออกไปแล้วตะคอก
เนื่องจากความน่าเกรงขามของเขา ทำให้ดวงพรไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก หัวใจของเธอสั่นสะท้าน
ชลิตาและมารีญาที่เดิมทีตั้งใจจะเข้าไปอ้อนวอนร้องขอความเมตตา บัดนี้ก็พากันล้มเลิกความคิด
ใบหน้าของทุกคนดูเครียด มีเพียงเมธีคนเดียวเท่านั้นที่นั่งอยู่บนรถเข็นอย่างไร้ปฏิกิริยา
"ก่อนหน้านี้เมธีดูแลโรงงานนั้น เขาควบคุมพื้นที่เหล่านั้นอย่างเข้มงวด และผลจากการจัดการอย่างเข้มงวดของเมธีจึงทำให้ผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่เป็นที่นิยมทั้งสามอย่างนั้น มียอดจำหน่ายพุ่งขึ้นไปทั่วโลก"
"ตอนนี้เป็นเพราะแกคนเดียวทำให้ความพยายามของเมธีหลายปีที่ผ่านมานี้ต้องสูญเปล่า ไอ้ลูกไม่ได้เรื่อง!"
"ถ้าเมธีไม่ได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นละก็ บริษัทของเราคงไม่ต้องเป็นแบบนี้" ภราดรยิ่งพูดยิ่งโมโห เขาเอื้อมมือไปคว้าถ้วยน้ำชามาแล้วเหวี่ยงไปยังมาวินอีกครั้งหนึ่ง
มาวินรีบหลบทันใด
ในครั้งนี้เขาหลบได้ทัน
แต่ภราดรไม่ปล่อยเขาไว้ จึงหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาอีกใบหนึ่ง ตั้งใจจะปาไปทางเขาอีกครั้ง
เมธีรีบเข็นรถเข็นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วเข้ามาบังมาวินเอาไว้ "พ่อครับ พ่ออย่าได้ไปโทษน้องเลย ที่จริงแล้วก็เป็นเหมือนที่แม่พูด สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือหาวิธีแก้ปัญหาจากวิกฤตนี้ก่อน ส่วนเรื่องน้องรอให้ผ่านวิกฤตนี้ไปเรียบร้อยแล้วค่อยมาลงโทษก็ยังไม่สายนี่ครับ"
แววตาอันตึงเครียดของมาวินผ่อนคลายลง เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขารู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณพี่เมธีเหลือเกิน
"เมธี ลูกคิดว่าเรื่องนี้จะแก้ไขอย่างไรดี?" ภราดรเอ่ยถาม
"ที่จริงแล้วผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะหมดหนทางแก้ไข เราสามารถทำให้ตนเองกลายเป็นเหยื่อที่บริสุทธิ์ได้"
"เพียงแค่เราไปตกลงเจรจากับทางโรงงาน แล้วให้พวกเขาแบกรับความผิดนี้เอาไว้เองทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะคลี่คลาย"
"ให้ทางโรงงานพูดว่า พวกเขาใช้วัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้กำไรมหาศาล
และเพื่อให้ผ่านการตรวจสอบด้านคุณภาพ เขาจึงได้ซื้อตัวบุคลากรที่ตรวจสอบเหล่านั้นเพื่อให้ผ่านเกณฑ์"
เมธีพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยใบหน้าท่าทางอันสงบนิ่ง
"ที่ลูกว่ามาก็มีเหตุผล ไหนพูดต่อไปสิ......" ภราดรรู้สึกสนใจกับแผนการนี้
"ผู้ตรวจสอบคุณภาพอาหารของสินค้าทั้งสามอย่างนั้น เราสามารถให้พวกเขาเห็นด้วยกับเรา แล้วโยนความผิดทุกอย่างไปให้เจ้าของโรงงานด้วยเงินสดคนละห้าล้าน"
"เพราะถึงอย่างไรในครั้งนี้พวกเขาก็ไม่พ้นจากการเอาผิดทางกฎหมายได้ ไม่ว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมือกับศาลหรือกับโรงงานก็ตาม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...