หมอเทวะหัตถาศักดิ์สิทธ นิยาย บท 2

ตอนที่ 2 คนตายแล้วจะฟื้นคืนชีพได้อีกหรือ

หลินมั่วอุ้มหลินซีวิ่งมาจนถึงร้านยาเซิ่งหยวนที่อยู่ใกล้ที่สุด นี่คือเชนร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองก่วงหยาง เจ้าของนามว่าเฉินเซิ่งหยวน เป็นบุคลากรคนสำคัญในอุตสาหกรรมทางการแพทย์แห่งเมืองก่วงหยาง ธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลสวี่ของสวี่ปั้นซย่าเกี่ยวข้องกับเซิ่งหยวนกรุ๊ป หรือจะกล่าวได้เลยว่า เซิ่งหยวนกรุ๊ปได้ควบคุมความเป็นความตายของธุรกิจของตระกูลสวี่เอาไว้ ในทุกๆ สาขาของร้านขายยาจะมีแพทย์ประจำเพื่อคอยให้คำปรึกษา ล้วนแล้วแต่เป็นแพทย์ที่เก่งกาจ คนในร้านต่างตกตะลึงเมื่อเห็นหลินมั่วอุ้มหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเลือดเข้ามาด้านใน “เฮ้ เธอบาดเจ็บถึงขนาดนี้ มาร้านขายยาไม่มีประโยชน์แล้ว รีบไปโรงพยาบาลเถอะ!” พนักงานขายคนหนึ่งรีบรั้งหลินมั่วเอาไว้ “ร้านขายยาของเราไม่มีอุปกรณ์เหมือนโรงพยาบาล ไม่มีอุปกรณ์กู้ชีพ” “ไม่ต้อง!” หลินมั่วส่ายหัวพลางกดเสียงลง “ผมต้องการซื้อเข็มเงินชุดหนึ่ง!” “เข็มเงินหรือ” พนักงานหนุ่มตกใจ น้อยคนนักที่จะซื้อของพวกนี้ “คุณจะซื้อเข็มเงินไปทำไมกัน” จู่ๆ ชายชราเคราขาวก็ถามขึ้น เมื่อพนักงานหนุ่มเห็นชายชราเคราขาว ก็รีบทักทายด้วยความเคารพทันที “ผู้อาวุโสเฮ่อ!” ชายชราเคราขาวผู้นี้มีนามว่าเฮ่อจินเยี่ยน เขาเป็นแพทย์ประจำร้านขายยาเซิ่งหยวน ทักษะทางการแพทย์ของเขายอดเยี่ยมติดสามอันดับแรกของเมืองก่วงหยาง ที่ร้านขายยาเซิ่งหยวนใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้ ผู้อาวุโสเฮ่อก็มีส่วนอยู่ไม่น้อยเลยเช่นกัน หลินมั่วไม่ได้สนใจเขา แต่กลับพูดต่ออย่างเคร่งเครียด “ผมต้องการซื้อเข็มเงินหนึ่งชุด!” พนักงานแนะนำสินค้ากดเสียงต่ำด้วยความสุภาพแต่ก็แฝงไปด้วยความขุ่นเคืองว่า “คุณ ผู้อาวุโสเฮ่อคุยกับคุณน่ะ คุณไม่ได้ยินหรือครับ” “ผมต้องการซื้อเข็มเงินหนึ่งชุด!” เสียงของหลินมั่วดังขึ้น “นายจะตะโกนทำไมเนี่ย!” พนักงานหนุ่มพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด “นายรู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน จะมาก่อกวนหรือไง นาย...” ผู้อาวุโสเฮ่อโบกมือเบาๆ พนักงานหนุ่มคนนั้นปิดปากทันที ผู้อาวุโสเฮ่อชำเลืองมองหลินซีที่อยู่ในอ้อมแขนของหลินมั่ว และถอนหายใจเบาๆ “พ่อหนุ่ม หญิงสาวผู้นี้ได้จากไปแล้ว คุณควรจะนำเธอไปทำพิธีฝังศพให้เรียบร้อยก่อนนะ!” “เธอยังไม่ตาย!” หลินมั่วแผดเสียงตะโกน “นายกล้าพูดแบบนี้กับผู้อาวุโสเฮ่อน่ะเหร...” พนักงานหนุ่มกำลังจะโวยวายขึ้นอีกครั้ง แต่แล้วก็ถูกผู้อาวุโสเฮ่อหยุดไว้ เขามองออกว่าหลินมั่วกำลังโศกเศร้าอย่างที่สุด จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ “พ่อหนุ่ม ผมเป็นหมอมากว่าสี่สิบปีแล้ว ผมยังพอมองออกอยู่ พลังชีวิตของหญิงสาวผู้นี้ไม่เหลือแล้วแน่นอน...” “ผมขอบอกอีกครั้งเลยนะว่าเธอยังไม่ตาย!” หลินมั่วพูดอย่างโกรธเคือง “ผมต้องการเข็มเงิน พวกคุณมีไหม!” ผู้อาวุโสเฮ่อขมวดคิ้ว “คุณจะเอาเข็มเงินไปทำอะไรหรือ” “ผมจะช่วยเธอ!” หลินมั่วพูดเสียงดัง “ช่วยเธอ?” ผู้อาวุโสเฮ่อเหลือบมองหลินมั่ว ในใจกำลังคิดว่าชายหนุ่มคนนี้เสียสติไปแล้วหรือเปล่า คนตายไม่อาจฟื้นคืน ต่อให้คุณเป็นแพทย์ที่เก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อาจชุบชีวิตคนตายได้! แต่อย่างไรก็ตาม ท่าทางที่สงบและความมั่นใจในดวงตาของหลินมั่ว ทำให้ผู้อาวุโสเฮ่อรู้สึกประหลาดใจ “ในร้านไม่มีเข็มเงินหรอก...” ผู้อาวุโสเฮ่อเอ่ยเบาๆ หลินมั่วหันหลังเตรียมเดินจากไป ผู้อาวุโสเฮ่อลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “แต่ ผมมีเข็มเงินอยู่ชุดหนึ่ง สามารถให้คุณยืมก่อนได้...” หลินมั่วหยุดชะงัก เขามองผู้อาวุโสเฮ่อแล้วค่อยๆ ผงกศีรษะ “ขอบคุณ!” “ไปเอาเข็มเงินของผมมา แล้วก็ จัดการห้องด้านหลังให้ที” ผู้อาวุโสเฮ่อสั่งการ สีหน้าของพนักงานแนะนำสินค้าหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ผู้อาวุโสเฮ่อ คนผู้นี้ได้ตายไปแล้ว หากมีปัญหาอะไร...” “ถ้ามีปัญหาอะไร ผมรับผิดชอบเอง!” เขาตอบอย่างใจเย็น พนักงานหนุ่มไม่กล้าพูดอะไรอีก เขารีบไปจัดเตรียมของตามคำสั่ง หลินมั่วอุ้มหลินซีเดินตามผู้อาวุโสเฮ่อไปที่ห้องด้านหลัง ในห้องมีเตียงคนไข้อยู่หนึ่งตัว เมื่อเขาวางหลินซีลงบนเตียงแล้ว ผู้อาวุโสเฮ่อจึงส่งเข็มเงินให้เขา พนักงานหนุ่มพูดเสียงแข็ง “เฮ้ นี่เป็นเข็มเงินที่ผู้อาวุโสเฮ่อใช้นะ ตลอดหลายปีมานี้ เข็มเงินพวกนี้ช่วยชีวิตคนมานับไม่ถ้วน” “วันนี้นายได้ยืมใช้ ถือเป็นเกียรติอย่างสูงของนายเลย” “แต่นายกลับเอามาใช้กับคนตาย ถือเป็นการดูถูกผู้อาวุโสเฮ่อ!” หลินมั่วลูบเข็มเงินเหล่านั้น เขารู้สึกถึงความคุ้นเคยที่อธิบายไม่ได้ ใบหน้าของเขายิ่งดูมั่นใจมากขึ้น พนักงานหนุ่มเบ้ปาก “ฮึ เปลืองแรงเปล่า ฉันยังไม่เคยเห็นคนตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้เลย! “เอาล่ะ ออกไปได้!” ผู้อาวุโสเฮ่อโบกมือไล่ “ผม...” พนักงานหนุ่มตื่นตะลึง แต่ท้ายที่สุดเขาก็จากไปด้วยความไม่พอใจ “คุณต้องการให้ผมช่วยไหม” ผู้อาวุโสเฮ่อเอ่ยถามเสียงเบาๆ แม้จะรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ แต่การทำแบบนี้อาจจะทำให้หลินมั่วคลายความรู้สึกโศกเศร้าลงก็เป็นได้ เขาเป็นหมอมานานหลายปี แล้วก็เป็นหมอที่มีจิตใจดีงามเสมอมา ชื่อเสียงของเขาจัดว่าดีเยี่ยมในเมืองก่วงหยาง แม้ว่าจะเป็นคนไม่รู้จัก เขาก็ยังคงมีความเห็นอกเห็นใจ นี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้อาวุโสเฮ่อมีชื่อเสียงเลื่องลือ หลินมั่วเหลือบมองผู้อาวุโสเฮ่อและพูดเสียงเบา “รบกวนคุณช่วยผมกดจุดสองตำแหน่งนี้ของเธอให้ทีนะครับ!” หลินมั่วชี้ไปที่จุดไป่ฮุ่ยและจุดหย่งเฉวียน ซึ่งอยู่ตำแหน่งเหนือศีรษะและฝ่าเท้าพอดี จุดไป่ฮุ่ยนั้นเป็นจุดบรรจบของเส้นโลหิตนับร้อยและเส้นลมปราณต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย ตำแหน่งของจุดนี้อยู่ที่บริเวณศีรษะซึ่งเป็นตำแหน่งสะสมของพลังหยาง และด้วยการพึ่งพากันของหยินและหยาง จะทำให้พลังหยางสามารถทะลวงเส้นลมปราณอินและหยางทั้งหมด และเชื่อมโยมจุดลมปราณต่างๆ ในร่างกายได้ ตำแหน่งของจุดหย่งเฉวียนอยู่ที่ฝ่าเท้า ซึ่งเป็นเส้นลมปราณไต เกี่ยวข้องกับการควบคุมการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ผู้อาวุโสเฮ่อรู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่เขาก็กดตำแหน่งทั้งสองนี้ตามคำขอของหลินมั่ว หลินมั่วหยิบเข็มเงินที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และทันใดนั้นก็แทงเข็มเงินสามเล่มลงบนหน้าของหลินซีพร้อมๆ กัน ดวงตาของผู้อาวุโสเฮ่อเบิกกว้าง เข็มเงินทั้งสามเล่มแทงลงที่จุดฝังเข็มได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าผู้อาวุโสเฮ่อจะเป็นหมอที่เชี่ยวชาญมาหลายปีแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถฝังเข็มพร้อมกันทีเดียวสามเล่มได้อย่างแม่นยำแบบนี้ หนุ่มน้อยคนนี้มีความสามารถเช่นนี้ด้วยหรือนี่ เพียงแต่ ต่อให้มีความสามารถล้นฟ้า ก็ไม่สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นได้! ขณะที่ผู้อาวุโสเฮ่อกำลังครุ่นคิดอยู่ หลินมั่วได้ฝังเข็มทั้งหมดยี่สิบสามเล่มในยี่สิบสามตำแหน่งลงบนตัวของหลินซีแล้ว เมื่อมองไปตามทิศทางของเข็มเงิน สีหน้าของผู้อาวุโสเฮ่อค่อยๆ เคร่งเครียดขึ้นจนถึงประหลาดใจ และเมื่อหลินมั่วฝังเข็มเล่มสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสเฮ่อก็ต้องตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ ในเวลานี้ หลินซีที่ ‘ตายไปแล้ว’ หายใจออกมาเบาๆ นิ้วของเธอขยับเล็กน้อย ผู้อาวุโสเฮ่อมีสีหน้าตกใจและมองหลินมั่วด้วยความรู้สึกตื่นตะลึง เขาเอ่ยถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ “สหายน้อยท่านนี้ วิ...วิธีฝังเข็มที่คุณใช้เมื่อสักครู่นี้ มี...มีชื่อหรือไม่” ในใจของผู้อาวุโสเฮ่อมีคำตอบที่คาดเดาไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ เขาไม่อยากจะเชื่อ จึงทำได้เพียงลองถามดูเท่านั้น ใบหน้าของหลินมั่วสงบนิ่ง “เข็มเทวนิรมิต!” “เช่นนี้นี่เอง!” ผู้อาวุโสเฮ่อร้องอุทานออกมา “อาจารย์ของผมเคยเล่าให้ฟังว่า บนโลกใบนี้มีเพียงเข็มเทวนิรมิตเท่านั้นที่สามารถดึงพลังแห่งฟ้าดินมาช่วยชุบชีวิตมนุษย์ให้ฟื้นคืนได้ “เพียงแต่ เข็มเทวนิรมิตนี้ได้สูญหายไปนานนับร้อยปีแล้ว คิดไม่ถึงว่า วันนี้ผมจะได้มีโอกาสเห็นด้วยตาของตัวเอง นับว่าสวรรค์เมตตาจริงๆ!” เมื่อพูดจบ ผู้อาวุโสเฮ่อก็ยกมือขึ้นคารวะหลินมั่วอีกครั้ง “สหายน้อยท่านนี้ ผมมีตาหามีแววไม่ หากเมื่อสักครู่ได้ล่วงเกินไป ต้องขออภัยด้วย!” “ไม่เป็นไร!” หลินมั่วหยุดชะงักชั่วครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เรื่องนี้ รบกวนคุณอย่าได้แพร่กระจายออกไป!” เรื่องป้ายหยกอย่าเพิ่งกระจายออกไปจะเป็นการดีที่สุด อย่างไรเสีย การล่มสลายของตระกูลหลินก็เป็นเพราะป้ายหยกชิ้นนี้ ผู้อาวุโสเฮ่อประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็เข้าใจได้ในทันที การกลับมาของเข็มเทวนิรมิตไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย หากว่าแพร่กระจายออกไป ไม่รู้ว่านำมาซึ่งปัญหาอันใดบ้าง! “สหายน้อยได้โปรดวางใจ ผมจะไม่พูดเรื่องนี้ออกไปอย่างเด็ดขาด!” ผู้อาวุโสเฮ่อพูดด้วยความเคารพ เวลานี้ มีเสียงโกลาหลดังมาจากหน้าประตู “ผู้จัดการหวังครับ ในนี้แหละ ไม่รู้ว่าไอ้คนคนนั้นมันเล่นของอะไรใส่ผู้อาวุโสเฮ่อ มันเอาคนตายเข้ามาที่นี่ คุณว่าอัปมงคลไหมล่ะ” ประตูถูกผลักเปิดออก พนักงานแนะนำสินค้าคนนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับผู้จัดการร้าน เมื่อเห็นผู้อาวุโสเฮ่อ สีหน้าของผู้จัดการหวังก็เผยให้เห็นรอยยิ้มประจบประแจงทันที พลางเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อมว่า “ผู้อาวุโสเฮ่อ เชิญคุณไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจะจัดการเอง!” ผู้อาวุโสเฮ่อไม่สนใจเขา ยังคงมองไปที่หลินมั่วด้วยความเคารพ ผู้จัดการหวังเองก็ไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน เขามองดูสถานการณ์โดยรวมภายในห้องแล้วพูดอย่างเย็นชา “เอาศพโยนออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้!” “บังอาจ!” ผู้อาวุโสเฮ่อโวยวายทันที ผู้จัดการหวังตกใจและพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ว่า “ผู้อาวุโสเฮ่อ คนตายไปแล้ว จะปล่อยไว้ที่นี่ มันจะไม่...” “ใครบอกว่าเธอตายแล้ว!” ผู้อาวุโสเฮ่อแผดเสียงใส่ “คุณไม่เห็นหรือว่าสหายน้อยท่าน...ไม่สิ...คุณคนนี้ได้...” ผู้อาวุโสเฮ่อกำลังคิดจะพูดว่าหลินมั่วได้ช่วยชีวิตหลินซีไว้แล้ว แต่กลับหยุดชะงักเมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปากของเขา หากพูดออกไป ไม่เป็นการเปิดเผยเรื่องของหลินมั่วหรอกหรือ “หญิงสาวผู้นี้แค่เพียงบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น!” ผู้อาวุโสเฮ่อพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “พวกคุณออกไปได้แล้ว ผมยังต้องรักษาอาการให้เธอต่ออีก!” “หา?” ผู้จัดการหวังงุนงง “ผู้อาวุโสเฮ่อ “เมื่อสักครู่นี้คุณพูดเองว่าเธอตายไปแล้วไม่ใช่หรือครับ” “ผมดูผิดเอง ไม่ได้หรือไง” ผู้อาวุโสเฮ่อพูดอย่างเย็นชา “คุณไม่ได้คิดจะเยาะเย้ยผมใช่ไหมที่แก่แล้วหูตาฝ้าฟาง” ตอนนี้ผู้จัดการหวังมีเหงื่อชุ่มเต็มไปหมด ผู้อาวุโสเฮ่อเป็นถึงเสาหลักของร้านขายยาเซิ่งหยวน ขนาดเจ้าของเซิ่งหยวนกรุ๊ปยังต้องให้เกียรติเขาเลย พวกเขาจะกล้าล่วงเกินได้อย่างไรกัน “ออกไปได้แล้ว!” ผู้อาวุโสเฮ่อแผดเสียงด้วยความเดือดดาล “ครับ ครับ...” ผู้จัดการหวังน้อมตัวลงพลางลากพนักงานแนะนำสินค้าคนนั้นเผ่นออกไปด้วยกัน นอกประตู เสียงโมโหของผู้จัดการหวังก็ดังขึ้น “นี่คือคนตายที่นายบอกหรือ ไอ้เวรเอ๊ย เกือบหาเรื่องให้ฉันตายแล้วไหมล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอเทวะหัตถาศักดิ์สิทธ