ตอนที่ 3 ชายในห้องของภรรยา
เมื่อประตูปิดลง ผู้อาวุโสเฮ่อมองหลินมั่วด้วยความเคารพ “ผมเฮ่อจินเยี่ยน ไม่ทราบว่าคุณมีนามว่าอย่างไร!” “หลินมั่ว!” “ที่แท้ก็คุณหลิน!” ผู้อาวุโสเฮ่อสูดลมหายใจลึกๆ แล้วมองหลินซีที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้พลางถามว่า “คุณหลิน ยังมีสิ่งใดต้องการให้ผมช่วยอีกไหม” หลินมั่วนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วหยิบปากกากระดาษขึ้นมาขีดเขียนรายการ “คุณช่วยจัดยาให้ผมที!” หลินมั่วส่งใบสั่งยาให้ผู้อาวุโสเฮ่อ ขณะเดียวกันก็เปิดกระเป๋าหยิบเงินไม่กี่สิบหยวนที่มีออกมา หลินมั่วรู้สึกกระดากใจไม่น้อย ตัวยาหลายชนิดในใบสั่งยามีราคาแพงมาก หากจะซื้อทั้งหมดนี้ คงจะต้องจ่ายเงินร่วมๆ สองพันกว่าหยวน เงินของเขายังแลกไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยว เมื่อเห็นท่าทีของหลินมั่ว ผู้อาวุโสเฮ่อก็รีบรับใบสั่งยาไปและพูดด้วยเสียงสั่นว่า “คุณหลิน ที่ร้านขายยาเซิ่งหยวนนี้ คำพูดของผมยังพอจะมีสิทธิ์มีเสียงอยู่บ้าง ตัวยาพวกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรอกครับ!” หลินมั่วเหลือบมองผู้อาวุโสเฮ่อพลางผงกศีรษะ “ขอบคุณมากครับ แต่ผมหลินมั่วไม่เคยติดค้างหนี้บุญคุณใคร คุณช่วยจัดยาให้ผมอย่างละสิบส่วนก็แล้วกัน ส่วนใบสั่งยานี้ ผมอนุญาตให้คุณเก็บไว้ใช้!” หากเป็นคนทั่วไปพูดกับผู้อาวุโสเฮ่อเช่นนี้ จะถือว่าไม่สุภาพเลยสักนิด แต่เมื่อหลินมั่วพูดประโยคนี้ออกมา ผู้อาวุโสเฮ่อรู้สึกเหมือนเป็นโองการศักดิ์สิทธิ์ หากไม่มีเขา ใครจะใช้เข็มเทวนิรมิตได้ คนธรรมดาทั่วไปจะมาเปรียบได้อย่างไรกัน ใบสั่งยาเพียงใบเดียวจากเขาก็ถือเป็นสิ่งล้ำค่ามาก! “ขอบคุณ คุณหลิน!” ผู้อาวุโสเฮ่อขอบคุณเขาอีกครั้ง และรับใบสั่งยามาราวกับได้รับสมบัติล้ำค่า เขารีบวิ่งออกไปทันที ไม่นานนัก ผู้อาวุโสเฮ่อกลับมาพร้อมด้วยกระเป๋าใบใหญ่และใบเล็ก “คุณหลิน นี่คือตัวยาที่คุณต้องการ คุณลองตรวจดูได้” ผู้อาวุโสเฮ่อกล่าว หลินมั่วชำเลืองมองดู ผู้อาวุโสเฮ่อคนนี้จัดการงานได้อย่างเรียบร้อย เขาแยกแยะตัวยาแต่ละชนิดไว้เป็นอย่างดี และยิ่งไปกว่านั้น ดูจากลักษณะของสีและกลิ่นของตัวยาแล้ว บ่งบอกว่าได้เลยว่าเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศทั้งหมด หลินมั่วได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากป้ายหยก นอกจากความรู้ที่อยู่ภายในป้ายหยกแล้ว ยังมีประสบการณ์ทางการแพทย์ของบรรพชนอีกด้วย ตัวยาเหล่านี้ แม้หลินมั่วจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ตอนนี้ แค่เหลือบมองปราดเดียวก็สามารถแยกแยะความแตกต่างได้อย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมาก ผู้อาวุโสเฮ่อ!” หลินมั่วจัดแจงแยกแยะตัวยาเหล่านั้นอย่างละเอียดออกมาห่อหนึ่ง ผู้อาวุโสเฮ่อได้ย้ายเครื่องต้มยาเข้ามาให้เขาด้วย แล้วคอยยืนอยู่ข้างๆ จ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ แน่นอนว่าใบสั่งยามีความสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิธีการต้มยา สูตรยาพิเศษจำนวนมากจำเป็นต้องใช้วิธีปรุงยาแบบพิเศษ ไม่เช่นนั้น ยาจะไร้ประสิทธิภาพ หลินมั่วเองก็ไม่ได้ปิดเป็นความลับ ในเมื่อบอกว่าจะมอบสูตรยานี้ให้แก่ผู้อาวุโสเฮ่อ เช่นนั้นก็จะสอนให้เขาทั้งหมด ตัวยาเหล่านี้ หลินมั่วไม่ได้เทลงไปทั้งหมดในคราวเดียว แต่ทยอยใส่ลงไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ใส่ ก็อธิบายให้ผู้อาวุโสเฮ่อด้วย “ระยะเวลา ระดับความร้อน ขั้นตอน รวมถึงวัสดุของหม้อยา ล้วนเป็นสิ่งที่บกพร่องไม่ได้ ต้องพึงระลึกไว้ทุกย่างก้าว มิฉะนั้น ในอนาคตหากปรุงยาผิดพลาด ประสิทธิภาพของยาก็อาจไม่ดีนัก!” ผู้อาวุโสเฮ่อเป็นเหมือนนักเรียนประถม ถือปากกาและกระดาษ และจดจำทุกสิ่งอย่างไว้ในหัวใจด้วยความเคารพ หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดยาก็สำเร็จ! เมื่อเปิดหม้อยา ก็มีกลิ่นหอมโชยออกมาโดยที่ไม่มีกลิ่นแปลกปลอมแม้แต่น้อย เมื่อสูดดม ผู้อาวุโสเฮ่อรู้สึกได้ถึงความสดชื่นและมีชีวิตชีวา เขาอดจะตกใจไม่ได้ “คุณหลิน นี่มันยาอะไรกัน ทำไม...ทำไมถึงได้หอมเช่นนี้” หลินมั่วพูดด้วยท่าทางสงบนิ่ง “นี่คือยาลูกกลอนเสี่ยวกุยหยวน ประสิทธิผลในการรักษาอาการบาดเจ็บมหัศจรรย์มาก ทั้งยังช่วยยืดอายุและเสริมสร้างสุขภาพอีกด้วย” “ลูกกลอน?” ผู้อาวุโสเฮ่อเขาแปลกใจ ไม่ใช่ยาน้ำหรอกหรือ เมื่อเข้าไปมองใกล้ๆ ที่แท้ ที่ก้นหม้อยังมียาลูกกลอนสีดำมากกว่าหนึ่งโหลนอนอยู่สงบนิ่งอยู่ข้างในนั้น “นี่...นี่เป็นวิธีการกลั่นยาหรอกหรือ!” ผู้อาวุโสเฮ่อเบิกตากว้าง วิธีแบบนี้ เขาเคยได้ยินมาก่อน แต่เขาไม่เคยเห็น หลินมั่วหยิบยาออกมาเม็ดหนึ่ง เติมน้ำลงไป แล้วค่อยๆ ป้อนให้หลินซี ผู้อาวุโสเฮ่อเบิกตามอง เขาเห็นว่าบาดแผลบนร่างของหลินซีค่อยๆ จางลงจนหายเป็นปกติ “นี่...นี่มันอัศจรรย์จริงๆ!” ผู้อาวุโสเฮ่อร้องอุทานออกมา เรื่องแบบนี้ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ เขามองไปที่หม้อยา ยาเม็ดหนึ่งหากนำไปขาย ราคาจะต้องสูงลิบลิ่วแน่นอน! เมื่อเห็นบาดแผลดีขึ้น หลินมั่วก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เวลานี้ ถือว่าชีวิตของหลินซีได้พ้นขีดอันตรายแล้ว เขาหยิบออกมาสามเม็ดแล้วมอบให้ผู้อาวุโสเฮ่อ “สามเม็ดนี้ ขอมอบให้คุณ” “ขอบคุณมากครับ คุณหลิน!” ผู้อาวุโสเฮ่อไม่เกรงใจแล้ว เขายื่นมือออกไปรับด้วยความนอบน้อม เขาไม่ใช่คนละโมบโลภมาก แต่ยาแบบนี้ ต่อให้ร่ำรวยแค่ไหนก็ไม่สามารถหาซื้อได้! เขาเก็บยาสามเม็ดลงในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง ผู้อาวุโสเฮ่อมองหลินมั่วด้วยความเคารพ ความศรัทธาผุดขึ้นบนใบหน้า อายุน้อยๆ เช่นนี้ แต่กลับมีฝีมือทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศ ผู้อาวุโสเฮ่อไม่แปลกใจเลยหากความสำเร็จของหลินมั่วในวันข้างหน้าจะไม่หยุดอยู่แค่เมืองก่วงหยาง! แม้ว่าหลินซีจะได้รับการช่วยเหลือให้พ้นจากขีดอันตรายแล้ว แต่ลมหายใจของเธอก็ยังคงไม่สม่ำเสมอ หลินมั่วนั่งลงที่ข้างเตียงและจ้องเธออย่างไม่วางตา เขามีญาติเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไร เขาจะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้! ในช่วงระหว่างเวลานั้น ผู้อาวุโสเฮ่อแวะเวียนเข้ามาดูอยู่สองถึงสามครั้ง เขาได้ให้คนจัดหาอาหารส่งให้หลินมั่ว แต่ทว่า หลินมั่วไม่มีกะจิตกะใจจะกินอะไรเลย จวบจนเวลาสี่ทุ่มกว่า ลมหายใจของหลินซีค่อยๆ คงที่ ในที่สุด หลินมั่วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้เสียที คราวนี้ ชีวิตของหลินซีได้รอดพ้นจากประตูนรกอย่างสมบูรณ์แล้ว! เวลานี้เองที่ หลินมั่วเพิ่งจะรู้สึกหิว เขาหยิบอาหารที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมา แม้จะเย็นหมดแล้ว แต่เขาก็กินจนเกลี้ยง หลินมั่วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและครุ่นคิดอยู่นาน และในที่สุดก็ตัดสินใจโทรหาสวี่ปั้นซย่าอีกครั้ง แม้ว่าสวี่ปั้นซย่าจะไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อเขาเลย แต่อย่างไรเสียก็เป็นสามีภรรยากันมาสามปีแล้ว หากตัดกันไปแบบนี้ มันช่างน่าเศร้าเหลือเกิน! โทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้งและในที่สุดก็โทรติดเสียที หลินมั่วตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะออกมาเต้นอยู่ข้างนอกแล้ว “ปั้นซย่า...” หลินมั่วกำลังจะพูดบางสิ่ง แต่จู่ๆ กลับมีเสียงของผู้ชายดังขึ้นจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์ “ฉันไม่ใช่ปั้นซย่าหรอก!” สีหน้าของหลินมั่วพลันเปลี่ยน นี่มันเกือบจะห้าทุ่มอยู่แล้ว ทำไมถึงมีผู้ชายมารับโทรศัพท์ของภรรยาล่ะ “คุณเป็นใครกัน!” หลินมั่วถามอย่างเคร่งเครียด “ปั้นซย่าล่ะ” “ปั้นซย่าน่ะหรือ อ่อ เมื่อกี้นี้พวกเราออกกำลังกายกันเหงื่อออกเต็มไปหมด เธอกำลังอาบน้ำน่ะ!” ชายคนนั้นพูดอย่างภาคภูมิใจ “ส่วนฉันเป็นใครน่ะหรือ แกเดาสิ” “ทำไมโทรศัพท์มือถือของปั้นซย่าถึงอยู่กับคุณล่ะ เธอ...เธออาบน้ำอยู่ที่ไหนกันเนี่ย” หลินมั่วถามด้วยความร้อนใจ ชายหนุ่มหัวเราะร่า “พวกเราอยู่ในห้องเดียวกัน เธอกำลังอาบน้ำ แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือต้องอยู่กับฉันสิ” “อาบน้ำ แน่นอนว่าต้องอาบในห้องน้ำ หรือจะให้อาบน้ำในห้องครัวล่ะ” หลินมั่ว “ทำไมพวกคุณถึงอยู่ในห้องเดียวกันล่ะ!” “ดึกดื่นเที่ยงคืน ชายหญิงอยู่ในห้องเดียวกัน ปกติจะตาย” ชายหนุ่มหัวเราะ “เฮ้ แกโทรมาดึกดื่นป่านนี้ ไม่กลัวจะรบกวนเรื่องดีๆ ของชาวบ้านหรอกหรือ” “แก...แก...” หลินมั่วหงุดหงิดแล้ว “แกเป็นใครกันแน่!” “แกไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าฉันเป็นใคร แต่...ฉันรู้ว่าแกเป็นใคร” ชายหนุ่มยิ้มเยาะ “แกก็คือไอ้หลินมั่ว สามีสวะคนนั้นของสวี่ปั้นซย่า ใช่ไหม” “ฮ่าๆๆ ได้ยินมาว่าแกแต่งงานกับสวี่ปั้นซย่ามาสามปีแล้ว ยังไม่เคยได้ขึ้นเตียงของสวี่ปั้นซย่าเลย จุ๊ๆ งั้นแกคงไม่รู้หรอกว่า ผิวพรรณและเรือนร่างของเมียแกน่ะมันดีขนาดไหน ฮ่าๆๆๆๆ...” หลังจากที่ชายคนนั้นพูดจบก็วางสายไปเลย หลินมั่วแทบจะเป็นบ้า เขาโทรศัพท์ไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีคนรับสาย เขายังคงโทรศัพท์ต่อไปอีก แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่มีใครรับสาย หลินมั่วไม่รู้เลยว่าเขาโทรศัพท์ไปกี่ครั้ง จนกระทั่งแบตเตอรี่หมด เขาจึงหยุด ตอนนี้หลินมั่วดูเหมือนจะกลายเป็นซากศพเดินได้ เขายืนงงอยู่ตรงที่เดิม เหมือนคมมีดกรีดกลางหัวใจของหลินมั่ว เขาคิดถึงว่าภรรยาที่ตนเองแต่งงานมาสามปี จะทรยศหักหลังเขาได้! มิน่าเล่าที่เธอไม่รับโทรศัพท์จากตน มิน่าเล่าที่คนในตระกูลสวี่ปฏิบัติต่อตนเช่นนั้น ที่แท้ พวกเขาได้ตัดสินใจทั้งหมดนี้ไว้แล้ว! หลังจากที่มึนงงและนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน ไฟโกรธก็ปะทุขึ้นที่กลางอกของเขา เขาลุกขึ้นยืนและกัดฟันกรอด “ตระกูลสวี่ เรื่องนี้ ฉันจะไม่ยอมแน่ๆ! ฉันจะต้องแกร่งขึ้น ฉันจะทำให้พวกคุณเสียใจ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอเทวะหัตถาศักดิ์สิทธ
อยากอ่านต่อ ถ้าจะสนับสนุนต้องทำอย่างไรบ้างครับ...