หมอเทวะหัตถาศักดิ์สิทธ นิยาย บท 8

ตอนที่ 8 เอกะราชาแห่งเมืองก่วงหยาง

หลินมั่วกลับไปที่ร้านขายยาเซิ่งหยวนอีกครั้ง แม้ผู้อาวุโสเฮ่อจะไม่อยู่ คนในร้านต่างก็ให้ความเคารพหลินมั่วมาก ในห้องพักผู้ป่วย อาการของหลินซีดีขึ้นมาก ผู้อาวุโสเฮ่อจัดเตรียมพยาบาลเฉพาะทางสองคนมาดูแลเธอ นั่งอยู่ไม่นานนัก ก็มีเสียงฝีเท้าวุ่นวายจากด้านนอกดังขึ้น อึดใจเดียว เสี่ยวหลิวคนขับรถของผู้อาวุโสเฮ่อก็วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นหลินมั่ว เขาก็ดีใจมาก และรีบร้อนพูดว่า “คุณหลิน คุณ...คุณมาเสียที!” “มีอะไรหรือครับ” หลินมั่วถามด้วยความสงสัย “เวลามีน้อย คุณไปกับผมก่อนได้ไหมครับ ระหว่างนั้นผมจะเล่าให้ฟัง” เสี่ยวหลิวรีบร้อนพูดต่อ “เกิดเรื่องกับผู้อาวุโสเฮ่อแล้วครับ!” หลินมั่วรีบลุกขึ้น ผู้อาวุโสเฮ่อดีกับเขามาก เรื่องของผู้อาวุโสเฮ่อเขาไม่สนใจไม่ได้ “ไปกันเถอะ!” หลินมั่วออกไปกับเสี่ยวหลิว เสี่ยวหลิวขับรถออกนอกเมืองไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างทาง เสี่ยวหลิวเล่าเหตุการณ์ให้หลินมั่วฟังคร่าวๆ ที่แท้ก็เป็นเฉินเซิ่งหยวนก่อเรื่องนี่เอง เฉินเซิ่งหยวนมีลูกพี่คนหนึ่ง ชื่อหนานป้าเทียน เขาเป็นที่รู้จักในนามเอกะราชาแห่งเมืองก่วงหยาง แม้แต่ผู้นำตระกูลสิบอันดับต้นของเมืองก่วงหยาง ก็ยังต้องก้มศีรษะและยอมจำนนต่อหนานป้าเทียน หนานป้าเทียนมีลูกสาวเพียงคนเดียว เมื่อปีที่แล้วเธอเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หนานป้าเทียนเชิญหมอมามากมาย แต่ไม่มีใครรักษาเธอได้ เฉินเซิ่งหยวนกินยาเม็ดเสี่ยวกุยหยวนที่ผู้อาวุโสเฮ่อจ่ายให้ แล้วเห็นผลดีมาก เขาจึงขอยานี้จากผู้อาวุโสเฮ่อ เพื่อนำไปให้ลูกสาวของหนานป้าเทียน ประสิทธิภาพของยาเสี่ยวกุยหยวนนั้นไม่ต้องพูดถึง หลังจากที่ลูกสาวของหนานป้าเทียนกินเข้าไป ยานั้นเห็นผลอย่างน่าอัศจรรย์ แต่จนบัดนี้เธอก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา เฉินเซิ่งหยวนจึงเชิญผู้อาวุโสเฮ่อมารักษาลูกสาวของหนานป้าเทียนด้วยตัวเอง อาวุโสเฮ่อรู้ในความสามารถของตัวเองดี เดิมทีเขาบอกปฏิเสธ แต่เวลานั้นมีหมออีกคนอยู่ด้วย ฝ่ายนั้นพูดจาสบประมาททำให้ผู้อาวุโสเฮ่อโมโห และฝังเข็มให้ แต่ท้ายที่สุดเขาไม่สามารถทำให้ลูกสาวของหนานป้าเทียนฟื้นได้ ตรงกันข้าม อาการของเธอยิ่งแย่ลงไปอีก หมอคนนี้จึงรีบฉวยโอกาสบอกกับหนานป้าเทียนว่า อาวุโสเฮ่อเป็นหมอกระจอก ยาก่อนหน้านี้ก็เป็นยาที่ขโมยมาจากเขา หนานป้าเทียนโกรธมาก เขาต้องการฆ่าอาวุโสเฮ่อ ผู้อาวุโสเฮ่อจึงเล่าเรื่องหลินมั่ว หนานป้าเทียนได้ยินดังนั้นก็ให้เวลาอาวุโสเฮ่อสองชั่วโมงเพื่อพาตัวหลินมั่วมา หาไม่แล้ว เขาจะฆ่าอาวุโสเฮ่อเสีย! เสี่ยวหลิวรีบเผ่นกลับมา เขารอหลินมั่วอยู่ครึ่งชั่วโมง เขาจึงไม่มีเวลาอธิบายให้หลินมั่วฟัง ณ ตอนนั้น “คุณหลินครับ หมอคนนั้นชื่อเซี่ยฟังหมิง เป็นคนตระกูลเซี่ย ซึ่งจัดอยู่ในสิบตระกูลอันดับต้นของเมือง นับได้ว่าเป็นหมอเทวดาอันดับหนึ่งในเมืองก่วงหยาง!” เสี่ยวหลิวกดเสียงต่ำลง “อาวุโสเฮ่อบอกว่า หมอคนนี้น่าจะอยากจะได้ใบสั่งยาของคุณ ถึงได้ยืนกรานพวกเราขโมยมา เพราะฉะนั้น เดี๋ยวคุณต้องคอยระวังคนคนนี้ไว้ด้วยนะครับ!” หลินมั่วขมวดคิ้วขึ้น เวลาแบบนี้ เซี่ยฟังหมิงยังมีความคิดอยากจะได้ยานี้อีก คนคนนี้มันน่ารังเกียจจริงๆ เมื่อเล่าเรื่องทั้งหมดแล้ว เสี่ยวหลิวก็พาหลินมั่วมาถึงที่พักของหนานป้าเทียน หนานป้าเทียนอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยหมู่ ภายในอาณาบริเวณเต็มไปด้วยพืชพรรณล้ำค่าหลากชนิด เพดานโถงด้านในตกแต่งได้อย่างวิจิตรงดงามราวกับพระราชวัง บนชั้นสองของอาคาร หลินมั่วเห็นคนกลุ่มหนึ่ง และอาวุโสเฮ่อก็อยู่ในกลุ่มนั้น ข้างอาวุโสเฮ่อมีชายวัยกลางคนหน้าซีดคนหนึ่งยืนอยู่ เขาก็คือเฉินเซิ่งหยวน อีกด้านหนึ่ง เป็นชายวัยกลางคนท่าทางสง่างามและตัวสูงใหญ่ ผมของเขาแซมสีขาว คิ้วรูปดาบตรงยาวไปถึงขมับ มองดูให้ความรู้สึกถึงพลังอำนาจ ไม่ต้องแนะนำหลินมั่วก็รู้ว่า บุคคลผู้นี้คือ เอกะราชาแห่งเมืองก่วงหยาง หนานป้าเทียน! “คุณหลิน...” เมื่อเห็นหลินมั่ว ใบหน้าของอาวุโสเฮ่อเปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นเต้น “คุณ...คุณมาแล้ว...” หนานป้าเทียนพินิจมองหลินมั่ว หลินมั่วดูหนุ่มขนาดนี้ การแต่งกายก็แสนจะธรรมดา จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น “เขาคือหมอเทวดาที่คุณพูดถึงคนนั้นหรือ” “ใช่ครับ!” อาวุโสเฮ่อรีบพยักหน้า “ฮ่าๆ ให้ตายสิ เดี๋ยวนี้หมาแมวที่ไหนก็มาเป็นหมอเทวดาได้!” เวลานี้ ชายชราเคราขาวที่ยืนอยู่ข้างหนานป้าเทียนก็หัวเราะออกมา “คุณเฮ่อ เราสองคนก็ถือเป็นเพื่อนร่วมอาชีพกัน ก็ควรจะรู้ความจริงข้อนี้ดีว่า การศึกษาวิชาแพทย์นั้นไม่มีทางลัด หากจะเป็นยอดฝีมือด้านการรักษา จำเป็นต้องสั่งสมความรู้มาอย่างยาวนาน” “คุณไปเอาเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจากที่ไหนมา แล้วกล้าบอกว่าเป็นหมอเทวดา อาวุโสเฮ่อ คุณคิดว่าคุณหนานใจกว้างกับคุณ ก็เลยกล้าหลอกลวงคุณหนานงั้นหรือ” ชายชราเคราขาวคนนี้ก็คือ เซี่ยฟังหมิง ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นหมอเทวดาอันดับหนึ่งแห่งเมืองก่วงหยาง สีหน้าของหนานป้าเทียนเย็นยะเยือก ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นหมอเทวดาได้อย่างไร ทันใดนั้นหลินมั่วก็พูดขึ้นว่า “ถ้าอายุเป็นตัวกำหนดทักษะทางการแพทย์ได้ งั้นก็หาไอ้โง่เง่าสักคน ไม่เจ๋งกว่าคุณหรอกหรือ” “แกพูดอะไร!” เซี่ยฟังหมิงโมโห “ผมบอกว่าคนอย่างคุณ อยู่แบบเสียชาติเกิดมาหลายปี!” หลินมั่วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “บังอาจ!” เซี่ยฟังหมิงคำรามด้วยความโกรธ “แกมันไอ้สิบแปดมงกุฎ กล้าดียังไงมากำเริบเสิบสานที่นี่ เด็กๆ ลากตัวมันออกไป!” หลินมั่วย้อน “ลากผมออกไป แล้วชีวิตของคุณหนูหนาน ให้คุณช่วยงั้นหรือ” “ฉัน...” เซี่ยฟังหมิงหยุดพูด เขาไม่มีความสามารถช่วยชีวิตคนได้หรอก “พูดแบบนี้ นายสามารถช่วยชีวิตลูกสาวของฉันได้หรือ” หนานป้าเทียนเอ่ยถามอย่างเคร่งเครียด “ช่วยชีวิตเธอยากตรงไหนกัน” หลินมั่วเหลือบมองหนานป้าเทียน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ประเด็นสำคัญคือต้องรักษาโรคแฝงของเธอเสียก่อน นี่สิที่ค่อนข้างยุ่งยาก!” “นาย...นายพูดอะไร...” หนานป้าเทียนตกตะลึง หลินมั่ว “ผมพูดอะไรน่ะหรือ คุณเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ! ตอนที่คุณหนูหนานเกิด น้ำหนักตัวน่าจะไม่เกินกิโลครึ่ง นอกจากนี้ แม่ของเธอก็ยังเสียชีวิตเพราะคลอดเธออีกด้วย!” “แกพูดเรื่องอะไรวะ” เซี่ยฟังหมิงหัวเราะเยาะ “นี่ ไอ้หนู แกนี่มันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ น้ำหนักตัวกิโลครึ่งจะคลอดยากจนทำให้เสียชีวิตได้งั้นหรือ แกกำลังพูดถึงหกกิโลครึ่งอยู่หรือไง...” สีหน้าของอาวุโสเฮ่อก็ตื่นตะลึงไปด้วย เป็นไปได้อย่างไร “หุบปาก!” จู่ๆ หนานป้าเทียนก็ตะคอกด้วยความโกรธ ทำเอาเซี่ยฟังหมิงตกใจจนตัวสั่น “คุณหนานครับ ผู้ชายคนนี้เป็นพวกหลอกลวงชัดๆ ยังไม่ทันได้ดูเลยก็บอกว่าคุณหนูหนานมีโรคแฝง จะเป็นไปได้ยังไงกัน” เซี่ยฟังหมิงมองหลินมั่วด้วยสายตาดูแคลน “ไอ้หนุ่ม ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าแกล้งทำเป็นว่าตัวเองเป็นหมอเทวดา เฮอะ พวกสิบแปดมงกุฎสมัยนี้ไม่เป็นมืออาชีพกันเลยหรือไง” หนานป้าเทียนกัดฟันกรอดพลางเหลือบมองเซี่ยฟังหมิงอย่างเย็นชา “คุณหลินพูดไม่มีผิดเลยสักนิด ตอนที่ลูกสาวของผมเกิด น้ำหนักตัวแค่กิโลกว่าๆ เท่านั้น ส่วนแม่ของเธอก็เสียชีวิตเพราะคลอดเธอจริงๆ!” “อะไรนะ” เซี่ยฟังหมิงและ อาวุโสเฮ่ออุทานออกมาพร้อมกัน นี่มันเกินความคาดหมายจริงๆ “เป็นแบบนี้ได้ยังไง” เซี่ยฟังหมิงพูดด้วยความประหลาดใจ หนานป้าเทียนกัดฟันอีกครั้ง แล้วพูดอย่างเคร่งเครียด “ภรรยาของผมเป็นโรคเลือด เธอมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เมื่อเป็นแผล บาดแผลไม่สามารถหายเองได้ จึงทำให้สูญเสียเลือดมาก ตอนนั้นขณะที่คลอดลูกสาว เธอเสียเลือดมาก สุดท้ายก็เคราะห์ร้ายถึงแก่ชีวิต!” เซี่ยฟังหมิงและอาวุโสเฮ่อมองหน้ากัน ทั้งสองตกใจมาก เรื่องนี้หลินมั่วแค่มองปราดเดียว ก็รู้ได้ทันทีเลยหรือ หนานป้าเทียนมองหลินมั่วราวกับมองผู้มาโปรดก็ไม่ปาน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คุณ...คุณสามารถช่วยลูกสาวผมได้จริงๆ หรือ” “ผมบอกไปแล้วว่าช่วยเธอน่ะไม่ยากหรอก!” หลินมั่วพูดน้ำเสียงราบเรียบ “โรคแฝงอาจจะยุ่งยากหน่อย แต่ก็ไม่เท่าไหร่!” หนานป้าเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก้มตัวลงคำนับทันที “ถ้าหากคุณสามารถช่วยลูกสาวผมได้ ทรัพย์สินทั้งหมดของผมหนานป้าเทียนจะแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง” “อะไรนะ!” ผู้คนในที่นั้นต่างอุทานออกมาตามๆ กัน หนานป้าเทียน สมญานามก็คือหนานครึ่งนคร กิจการกว่าครึ่งในเมืองก่วงหยางล้วนเป็นของเขา เขาจะแบ่งให้หลินมั่วครึ่งหนึ่ง นั่นมันเยอะขนาดไหนกันนะ!” “หึๆ” หลินมั่วยิ้มเยาะ “ผมไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้นเสียหน่อย แค่ผมเห็นว่าคุณมีความกระตือรือร้นที่จะช่วยชีวิตลูกสาว ผมจึงช่วยคุณ!” หนานป้าเทียนตะลึง เป็นครั้งแรกที่เขาเจอคนอย่างหลินมั่วที่มองทรัพย์สินเงินทองเป็นเพียงของไร้ค่า! “เสแสร้ง แสร้งต่อไป” ดวงตาของเซี่ยฟังหมิงเปล่งประกาย “ถ้าวันนี้แกช่วยคุณหนูหนานไม่ได้ แกต้องคืนยาของตระกูลเรามารวมทั้งใบสั่งยาด้วย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอเทวะหัตถาศักดิ์สิทธ