อวี๋หวั่นไม่ใช่คนโง่ ชายคนนี้อาจไม่ได้มีความคิดชั่วร้ายในตอนแรก ทว่ายามนี้ทั่วใบหน้าของเขาเขียนไว้ว่าจะกินเธอ อวี๋หวั่นรู้สึกขมขื่น แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรเลย หากเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ จะโทษใคร
“อาหวั่น” เสียงของเยี่ยนไหวจิ่งแหบแห้ง
อวี๋หวั่นกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ฝ่าบาทมีสิ่งใดพรุ่งนี้ค่อยเอ่ย ข้าเหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อน มิใช่ว่าพรุ่งนี้ท่านจะพาข้าออกจากเมืองหลวงหรือ? ท่านกลับไปพักผ่อนที่ห้องเร็วสักหน่อยเถิด!”
ข้าขับไล่อย่างไม่แยแส ท่านก็ควรจะรีบไปสิ!
เยี่ยนไหวจิ่งไม่ขยับ
อวี๋หวั่นมองออกว่าในใจของเขา สวรรค์กับมนุษย์กำลังต่อสู้กัน อวี๋หวั่นหวังให้เหตุผลของเขาเอาชนะแรงกระตุ้นได้ ทว่าไม่ช้า อวี๋หวั่นก็พบว่ามันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะมีคนถูกฆ่าตายด้านนอก
อวี๋หวั่นลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เยี่ยนไหวจิ่งกล่าวอย่างเย็นชา “อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป พวกที่มา หาใช่เยี่ยนจิ่วเฉา!”
ชัดเจนว่าเขาหลุดพ้นจากคนของเยี่ยนจิ่วเฉาได้ เขาไม่เชื่อว่าพวกเขาจะพบที่นี่ได้เร็วถึงเพียงนี้
จวินฉางอันต่อสู้กับคนกลุ่มนั้น
อวี๋หวั่นยิ้มอย่างถ่อมตัว “ฝ่าบาทอย่าเพิ่งภูมิใจเร็วเกินไป พวกที่มาคือสวี่ส้าว”
การแสดงออกของเยี่ยนไหวจิ่งเยือกเย็น
แน่นอนว่าอวี๋หวั่นเดาไม่ออก เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่มาเป็นใคร? แต่เมื่อครู่ผู้ชายคนนี้เกือบจะใช้งานเธออย่างหนัก หากสามารถสร้างความบาดหมางระหว่างเขากับสวี่ส้าวได้ก็ถือว่าดี
ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมาก และมีทักษะการต่อสู้ที่สูงส่ง อาการบาดเจ็บที่ได้รับบนเรือสำราญเมื่อครานั้นของจวินฉางอันยังไม่หายดี ทำให้เขาไม่อาจรับมือได้อย่างใจ ทันใดนั้น มือสังหารสองสามคนก็เข้าไปในบ้าน
เยี่ยนไหวจิ่งชักดาบเข้าสกัดกั้น
มือสังหารกลุ่มนี้วิ่งมาที่อวี๋หวั่น โดยยึดมั่นในแนวคิดที่ว่า จับเป็นได้ดีที่สุด หากจับเป็นไม่ได้ก็ฆ่าทิ้ง และต่อสู้อย่างไร้ความปรานี
อวี๋หวั่นรีบวิ่งไปหลบหลังเยี่ยนไหวจิ่ง
เมื่อเยี่ยนไหวจิ่งเห็นเธอรู้จักพึ่งพาตนในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ก็พลันรู้สึกโล่งใจ ทว่าในวินาทีถัดมา อวี๋หวั่นก็ผลักเขาออกไปรับดาบ
เยี่ยนไหวจิ่ง “…”
เยี่ยนไหวจิ่งคิดว่าตนเองหลบไม่พ้นเป็นแน่ ทว่าบางสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ดาบของนักฆ่าหมายจะแทงทะลุหน้าอกของเขา แต่ทันใดนั้นดาบก็เอียงและปาดโดนไหล่ของเขาแทน
เยี่ยนไหวจิ่งตกใจมาก
อวี๋หวั่นเอ่ย “ตอนนี้ท่านควรเชื่อแล้วกระมัง? นั่นเป็นคนของลุงท่าน! นอกจากลุงท่านแล้ว ใครจะคิดสังหารท่านกัน!”
อวี๋หวั่นเดาว่าสวี่ส้าวจงใจ ที่เธอผลักเยี่ยนไหวจิ่งออกไปรับดาบเมื่อครู่เป็นการปกป้องตัวเองจริงๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้คาดหวังให้อีกฝ่ายปรานี แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเดาถูกจริงๆ นักฆ่ากลุ่มนี้สวี่ส้าวเป็นผู้ส่งมา
อวี๋หวั่นเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “ท่านสนใจป้องกันแต่เยี่ยนจิ่วเฉา จนหลงลืมลุงของท่านไปแล้วกระมัง สมควรแล้วที่ถูกลุงของท่านเฝ้าจับตา!”
สีหน้าของเยี่ยนไหวจิ่งเย็นชา และไม่อาจจัดการความรู้สึกซับซ้อนที่เกิดขึ้นในใจของเขา อวี๋หวั่นจึงถูกนักฆ่าคนหนึ่งจับตัวไป
จวินฉางอันไล่ตามไม่ทัน
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?” เยี่ยนไหวจิ่งถามพร้อมกับกำหมัดแน่น
จวินฉางอันมองไปยังทิศที่พวกเขาหายตัวไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเขาคือหน่วยกล้าตาย”
พวกเขาเป็นหน่วยกล้าตายสีเงินที่กำลังจะเลื่อนขั้น พวกเขาอยู่ห่างจากหน่วยกล้าตายสีทองเพียงก้าวเดียว มาคนเดียวก็สามารถฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด แต่นี่พวกเขามาถึงห้าคน! แทบจะทำลายได้ทั้งค่ายทหารองครักษ์!
หญิงที่เขาแย่งตัวมาอย่างยากลำบาก ในที่สุดก็ถูกชิงตัวไปกลางคัน เยี่ยนไหวจิ่งโกรธจัด กำหมัดชกต้นไม้!
อวี๋หวั่นที่ถูกลักพาตัวไม่อาจสิ้นหวังไปยิ่งกว่านี้
จบเห่ จบเห่ หากอยู่ในเงื้อมมือของเยี่ยนไหวจิ่ง เธอยังพอมีวิธีจัดการ เพราะอย่างไรเสียเยี่ยนไหวจิ่งก็สนใจเธอ ไม่เหมือนกับสวี่ส้าว เขาไม่ได้สนใจว่าเธอจะเป็นหรือตาย ไม่ใช้เธอเพื่อคุกคามเยี่ยนจิ่วเฉา ก็ฆ่าเธอเพื่อกระตุ้นเยี่ยนจิ่วเฉา ต่อจากนี้เธอคงมีชีวิตอยู่ก็ไม่สู้ตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]