หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 13

ในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม ข่าวจากวังหลวงก็ส่งมาถึงจวนคุณชาย เยี่ยนจิ่วเฉาได้เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ อวี๋หวั่นจึงกลายเป็นพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการ

ครั้นขันทีวังนำชุดของพระชายาในผู้สำเร็จราชการมาถึงจวนคุณชายนั้นเอง ปฏิกิริยาของอวี๋หวั่นมิได้ต่างไปจากเยี่ยนไหวจิ่งและขุนนางเหล่านั้นเลย พวกเขาคิดว่าตนเองหูฝาดไป

“ท่านบอกว่าข้าเป็นอะไรนะ?” อวี๋หวั่นถามย้ำเพื่อความมั่นใจ

ขันทีวังยิ้ม ตอบว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปท่านจะเป็นพระชายาในอ๋องผู้สำเร็จราชการ”

อวี๋หวั่นเข่าอ่อน แทบทรุดลงกับพื้น

พระชายาในอ๋องผู้สำเร็จราชการ…ฟังดูยิ่งใหญ่จริงๆ!

สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมเธอตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นพระชายาในอ๋องผู้สำเร็จราชการไปได้ละ?

เมื่อคืนเยี่ยนจิ่วเฉากลับมาดึก เธอไม่อาจต้านทานความง่วงได้ จึงนอนไปก่อน ตกกลางคืนตื่นมาอีกหลายครั้ง แต่ตื่นขึ้นมาเต็มตาจริงๆ ก็เช้าแล้ว ในตอนนั้นเยี่ยนจิ่วเฉาก็ออกไปแล้ว

ดังนั้นเธอจึงสงสัยว่าหมอนั่นไปทำอะไรมา ทำไมอยู่ๆ ฮ่องเต้ถึงอวยยศให้เขาเป็นถึงผู้สำเร็จราชการ

ขันทีวังเล่าที่มาที่ไปของเรื่องนี้ให้อวี๋หวั่นฟังโดยสรุป ทั้งยังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าประตูวังด้วย อวี๋หวั่นจึงได้รู้ว่าในวันแรกที่สามีของเธอกลับมาถึงเมืองหลวง เขาก็ slay คนอื่นจนตายเรียบ

ขันทีวังยิ้ม “ฝ่าบาททรงรักท่านอ๋องมาก”

บัดนี้ในจวนมีอ๋องถึงสองคน ท่านอ๋องที่ขันทีวังกล่าวถึงคือเยี่ยนอ๋องหรือเยี่ยนจิ่วเฉานั้นเดาได้ไม่ยาก

กล่าวตามตรง จากมุมมองของเยี่ยนไหวจิ่งและเหล่าขุนนาง วิธีของฮ่องเต้นั้นประมาทเกินไป อย่างไรเสียเยี่ยนจิ่วเฉาก็มีประวัติไม่ดี เคยล่วงเกินคนมาไม่น้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่สามารถแบกรับงานใหญ่ได้ มีเพียงอวี๋หวั่นที่เข้าใจ เยี่ยนจิ่วเฉาเป็นคนมีความสามารถมาก ทั้งยังมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่

หากไม่นับพลังของเขาเอง เขามีทั้งกองทัพเรือของเมืองเยี่ยน มีทั้งพ่อเลี้ยงเป็นเทพสงครามแห่งต้าโจว มีพ่อตาเป็นผู้สืบทอดสกุลเห้อเหลียน มีแม่ยายเป็นเชื้อพระวงศ์แห่งหนานจ้าว หากสถานะเช่นนี้ของเขาแพร่งพรายออกไป มีหรือที่ใครหน้าไหนจะกล้ามีเรื่องกับเขา?

นี่คือขุมกำลังที่เขามี ยังไม่นับความสามารถในการปกครอง

อันที่จริง เยี่ยนจิ่วเฉาจะมีความสามารถหรือไม่นั้น ฮ่องเต้มิได้สนใจ เพราะมีเยี่ยนอ๋องก็เพียงพอแล้ว!

ในช่วงเวลาหลายปีที่เป็นราชบุตรเขยในหนานจ้าว เยี่ยนอ๋องจัดการขุนนางที่ต่อต้านหนานกงเยี่ยนอย่างไร จนแม้แต่ราชครูแห่งหนานจ้าวก็ยังต้องยำเกรงเยี่ยนอ๋อง! นอกจากนั้น วิธีของเยี่ยนอ๋องไม่เพียงสยบความขัดแย้งในราชสำนัก หากแต่ยังมีการปฏิวัติ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ของหนานจ้าว

เพียงแต่ว่า หากจะให้เยี่ยนอ๋องไปบริหารราชกิจโดยตรง เยี่ยนอ๋องไม่มีทางยอม แต่เมื่อเป็นปัญหาของเยี่ยนจิ่วเฉา เยี่ยนอ๋องย่อมไม่อาจนิ่งดูดาย

เพราะฉะนั้น แม้ฮ่องเต้จะดูคล้ายกับเลอะเลือน แต่ใครจะกล้าพูดเล่าว่าพระองค์ตัดสินใจโดยปราศจากการไตร่ตรอง

เดิมทีอวี๋หวั่นคิดว่าสถานะของตนนั้นสูงมากแล้ว เป็นถึงคุณหนูแห่งจวนเทพสงคราม เป็นองค์หญิงแห่งหนานจ้าว และอาจได้เป็นตี้จีแห่งหนานจ้าวเสียด้วยซ้ำ แต่สถานะเหล่านี้ ก็ไม่อาจเทียบเท่าพระชายาแห่งผู้สำเร็จราชการ

“ก็เหมือนฮองเฮาที่ไร้มงกุฎสินะ!”

ระหว่างฮองเฮากับพระชายาของผู้สำเร็จราชการ อย่างหลังฟังดูเท่กว่าตั้งเยอะ!

อวี๋หวั่นมอบซองแดงซึ่งมีเงินอยู่ไม่น้อยให้แก่ขันทีวัง หลังจากที่ขันทีวังกลับไป อวี๋หวั่นก็เดินกอดชุดใหม่เข้าไปชื่นชมในห้อง

เยี่ยนจิ่วเฉายังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าเขาไปเล่นอะไรแผลงๆ ที่ไหนอีก ข่าวว่าคุณชายเยี่ยนกลับเมืองหลวง ต้องโหมกระพือไปทั่วแล้วเป็นแน่!

อวี๋หวั่นคาดเดาได้อย่างแม่นยำ เยี่ยนจิ่วเฉาหายไปนานเช่นนี้ก็เพราะเขาเพิ่งจะกวนประสาทเยี่ยนไหวจิ่งและเหล่าขุนนางเสร็จ จึงไปกวนประสาทตระกูลใหญ่อื่นๆ ในเมืองหลวงต่อ

ทุกคนแทบจะเป็นลม สวรรค์! นรก! เจ้าปีศาจนี่ยังไม่ไปแล้วไปลับอีกรึ? กลับมาทำไมกัน รีบพาเขากลับไปเดี๋ยวนี้!!!

ขณะที่คนพ่อไปสร้างเรื่องนอกจวน ลูกๆ ก็กำลังแผลงฤทธิ์อยู่ในจวน องครักษ์จวนคุณชายล้วนแต่รู้สึกว่าพวกเขาแทบจะหัวใจวายตายอยู่แล้ว พวกเขาเคยเห็นเด็กปีนต้นไม้ แต่ไม่เคยเห็นเด็กเวรที่ปีนขึ้นไปถึงยอดต้นไม้อย่างนี้ ปีนขึ้นไปได้อย่างไรกัน ทั้งยังกางแขนออกอีก เหล่าองครักษ์หัวใจแทบหยุดเต้น?!

“นั่นคืออะไรหรือ” เสี่ยวเป่าชี้ไปยังยอดต้นพุทรา

องครักษ์ตอบว่า “เรียนคุณชายน้อย พุทราขอรับ”

เด็กทั้งสามกลืนน้ำลาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]