หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 13

ลุงวั่นยิ้ม แล้วบอกว่า “ห้องหนึ่งของเจิ้งอี้ถังขอรับ! เป็นชั้นเรียนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปีหนึ่ง!”

“พี่รองเก่งจริงๆ!” อวี๋หวั่นพูดด้วยความตื่นเต้นและดีใจ

ลุงวั่นชื่นชมว่า “ใช่แล้วขอรับ คนในจวนล้วนแต่พูดกันว่าคุณชายรองเป็นหน้าเป็นตาให้ฮูหยินน้อยแล้ว!”

“เป็นหน้าเป็นตาให้ข้าคนเดียวซะที่ไหน? เขาเป็นหน้าเป็นตาให้หมู่บ้านเหลียนฮวาทั้งหมู่บ้านต่างหาก! ลุงใหญ่กับคนอื่นๆ ต้องดีใจมากแน่ๆ!” แม้แต่เธอยังดีใจถึงขนาดนี้ คนที่เป็นพ่อแม่ของพี่รองอย่างลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่จะดีใจขนาดไหน

ด้วยฐานะของอวี๋หวั่นในตอนนี้ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องให้พี่ชายมาเป็นหน้าเป็นตาให้ แต่อวี๋หวั่นก็อดดีใจแทนอวี๋ซงไม่ได้ เมื่อคิดถึงอวี๋ซง ก็คิดถึงพี่ใหญ่ในหมู่บ้านเหลียนฮวา “ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ แล้วก็เถี่ยตั้นน้อยเป็นอย่างไรบ้าง”

“สบายดีขอรับ” แม้ลุงวั่นจะไม่อยู่ในเมืองหลวง แต่จะเขียนจดหมายมายังจวนคุณชายทุกเดือน ทั้งยังส่งคนไปยังสำนักบัณฑิตและบ้านสกุลอวี๋ในหมู่บ้านเหลียนฮวา หลังจากกลับมายังเมืองหลวงก็ยังทำเช่นนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลง

“ข้าอยากเจอพวกเขาเหลือเกิน” โดยเฉพาะเถี่ยตั้นน้อย พ่อ แม่ และพี่สาวไม่อยู่ด้วย เขาคงน้อยใจมากสิท่า

ลุงวั่นยิ้ม แล้วตอบว่า “คุณชายสั่งไว้แล้ว ว่าให้ข้าเตรียมของขวัญ พรุ่งนี้จะกลับหมู่บ้านเหลียนฮวาพร้อมฮูหยินน้อย”

เดิมทีคิดว่าจะไปวันนี้ แต่น่าเสียดายที่อากาศขมุกขมัว เป็นไปได้มากว่าฝนจะตกหนัก เยี่ยนจิ่วเฉาไม่อยากให้อวี๋หวั่นตากฝน

อวี๋หวั่นไม่รู้มาก่อนว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจัดการเรื่องพาเธอกลับหมู่บ้าน หมอนี่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็จัดการเรื่องของเธอเสียเสร็จสรรพ เธอไม่ต้องกังวล และไม่ต้องให้เธอเตือน

“แต่ว่า พวกเราควรจะไปจวนสกุลเซียวสักครั้งก่อนไหม?” ซั่งกวนเยี่ยนมีลูกแล้ว หากว่ากันตามธรรมเนียม เมื่ออยู่ในเมืองหลวงเหมือนกัน ย่อมต้องไปเยี่ยมเยือนก่อน แต่นั่นก็นำมาซึ่งอีกปัญหาหนึ่งให้ขบคิด ซึ่งก็คือความรู้สึกของเยี่ยนอ๋อง

หากไปเยี่ยมซั่งกวนเยี่ยนเพียงอย่างเดียวยังพอเข้าใจได้ ทว่าประเด็นอยู่ที่ซั่งกวนเยี่ยนมีลูกซึ่งถือกำเนิดจากนางและเซียวเจิ้นถิง…

ความรู้สึกที่เยี่ยนอ๋องมีต่อซั่งกวนเยี่ยนยังคงแจ่มชัดไม่จางหาย เขาจะรังเกียจที่พวกเขาไปเยี่ยมน้องชายร่วมมารดาของเยี่ยนจิ่วเฉาไหม?

ขณะที่อวี๋หวั่นกำลังใคร่ครวญอย่างหนัก ก็ได้ยินเสียงคนจากนอกประตูรายงานว่า “แม่ทัพใหญ่เซียวมา!”

เซียวเจิ้นถิง?

อวี๋หวั่นถึงกับตะลึงงัน

ลุงวั่นก็ชะงักไปเช่นกัน แม้ลุงวั่นจะมีความเข้าใจต่อเรื่องราวในเมืองหลวงมากกว่าอวี๋หวั่น แต่อย่างไรเสียเรื่องราวส่วนใหญ่ก็รับรู้ผ่านจดหมาย บางเรื่องหากไม่เห็นด้วยตาตาเอง เขาก็ยากที่จะเชื่อ

“หรือว่า…” ลุงวั่นพึมพำ

“มีอะไรหรือ” อวี๋หวั่นถาม หรือว่าอะไร? หรือว่าเซียวเจิ้นถิงมาถึงที่นี่เพื่อสู้กับเยี่ยนอ๋อง? สุดท้ายแล้วบุรุษอกสามศอกสองคนก็ทนไม่ไหว ต้องเอาชนะกันด้วยพละกำลัง?!

ลุงวั่นตอบ “มีเรื่องหนึ่งที่ข้าลืมบอกฮูหยินน้อยไป พระชายาไปแก้บนที่วัดแล้ว”

“นางขอลูกหรือ?” อวี๋หวั่นถาม

ลุงวั่นส่ายหน้า “นางบนให้คุณชายขอรับ ก่อนหน้านี้พระชายาไปหนานจ้าวมาครั้งหนึ่ง นางรู้ว่าคุณชายไปตามหาตัวยามาถอนพิษ นางกังวลว่าคุณชายจะไม่กลับมา จึงไปบนที่วัดไป๋อวิ๋นซึ่งอยู่นอกเมืองหลวง ว่าขอเพียงคุณชายกลับมาอย่างปลอดภัย นางยินดีใช้ทองคำแท้หล่อองค์พระขึ้นมาใหม่ พระชายาเดินทางไปวัดในคืนนั้น ด้วยกลัวว่าหากนางแก้บนช้าเกินไป พระท่านจะคิดว่านางตระบัดสัตย์ แล้วเอาชีวิตคุณชายกลับคืนไป”

“เอ่อ…” แม้อวี๋หวั่นจะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ แต่เธอก็เข้าใจและเคารพในความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของซั่งกวนเยี่ยน

ซั่งกวนเยี่ยนคลอดลูกราวเดือนเจ็ด หมายความว่านางเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน ออกเดินทางไปเช่นนั้นคงลำบากน่าดู

“ว่าแต่…เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับที่แม่ทัพใหญ่เซียวเดินทางมาจวนคุณชายหรือ” เล่าเรื่องนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ แสดงว่าต้องมีความเกี่ยวข้องกันสินะ? ลุงวั่นไม่ใช่คนที่คิดสิ่งใดก็พูดออกมาพล่อยๆ

ลุงวั่นกระแอมเบาๆ “จากที่คนในจวนพูดกัน ก่อนหน้านี้ในเดือนที่พระชายาต้องพักฟื้น แม่ทัพใหญ่เซียวก็มาที่นี่ครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นพระชายาก็ออกไปข้างนอก”

“ยังอยู่ในระยะพักฟื้น นางออกไปทำไมหรือ” อวี๋หวั่นไม่เข้าใจ

ลุงวั่นถอนหายใจ “ออกไปขอพรให้คุณชายปลอดภัย พระชายาไปวัดทุกเดือนขอรับ”

ลำบากเกินไปแล้ว

อายุไม่น้อยแล้ว หากไม่พักฟื้นอยู่ไฟ ภายหลังอาจทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง

แต่อวี๋หวั่นก็ยังไม่เข้าใจว่าเรื่องที่ซั่งกวนเยี่ยนไม่อยู่ในจวน จะเกี่ยวข้องกับที่เซียวเจิ้นถิงเดินทางมาจวนคุณชาย เขาไม่ควรมาพร้อมกับซั่งกวนเยี่ยนหรอกหรือ?

“พระชายาวิตกเรื่องของคุณชายมาก นางจึงคิดว่าลูกจำต้องมีพ่อแม่คอยอยู่เคียงข้าง นางไม่อยู่ เซียวเจิ้นถิงจำเป็นต้องอยู่” ถ้าหากลูกโตแล้ว ลุงวั่นคิดว่าพระชายาคงจะพาลูกไปวัดด้วยเป็นแน่

คนเรามักจะเดาเหตุการณ์ต่างๆ จากประสบการณ์และความรู้ของตน จากประสบการณ์และความรู้ของอวี๋หวั่น เมื่อภรรยาออกไปข้างนอก ไม่มีสามีที่ไหนจะไปหาอดีตสามีของภรรยาเป็นการส่วนตัวเช่นนี้หรอก

น่าสงสัยจริงๆ!

อวี๋หวั่นยังคงไม่กระจ่างทั้งหมด แต่ในตอนนั้นเองเซียวเจิ้นถิงก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางน่าเกรงขาม

ท่าทางที่เขาเดินเข้ามา…เอ…แปลกยิ่งกว่าการที่เขามาหาเยี่ยนอ๋องเสียอีก!

บุรุษกำยำล่ำสัน สูงใหญ่ดุจขุนเขา ยื่นแขนออกมากอดตะกร้าใบหนึ่งซึ่งคลุมด้วยผ้าผืนบาง สีหน้าของเขาวิตกกังวลและระแวดระวัง ราวกับกำลัง…เข้าใกล้ศัตรู!

เยี่ยนอ๋องมองดูท่าทางเงอะๆ งะๆ ของเขา มือของเขาขยับ แต่สุดท้ายก็หยุดตนเองไว้

เซียวเจิ้นถิงทำอะไรไม่ถูก “ข้าไม่ไหวแล้วๆๆ!”

แค่ทารกคนหนึ่ง แต่น่ากลัวยิ่งกว่ากองทัพซึ่งมีทหารและอาชาศึกนับพันนับหมื่นเสียอีก เซียวเจิ้นถิงโตมาจนป่านนี้ เขาไม่เคยหวาดกลัวแม้แต่ยามอยู่ท่ามกลางกองซากศพโดยลำพัง แต่การเลี้ยงลูก…แค่วินาทีเดียวเขาก็แทบเข่าอ่อนแล้ว!

สุดท้ายแล้วเยี่ยนอ๋องก็ต้องรับทารกมาอย่างอดไม่ได้

“พวกต้าเป่าหลับอยู่ ข้ากลัวพวกเขาตื่น” เยี่ยนอ๋องพูดอย่างไม่ยี่หระ

“อื้มๆๆ!” เซียวเจิ้นถิงพยักหน้าหงึกๆ ราวกับเป็นสัตว์ร้ายซึ่งถูกเลี้ยงจนเชื่อง

จะว่าไปก็น่าแปลก เด็กที่เมื่อครู่ร้องไห้โยเยเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเซียวเจิ้นถิง แต่กลับไม่ร้องเมื่ออยู่กับเยี่ยนอ๋อง

เด็กคนนี้อายุครบเดือนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนที่ตั้งท้อง ซั่งกวนเยี่ยนกังวลมากเกินไปหรือไม่ เมื่อเขาคลอดออกมา มีน้ำหนักเพียงห้าจิน ร่างกายผอมแห้ง ร้องไห้ไร้เรี่ยวแรง เมื่อคนแข็งกร้าวปราศจากความอ่อนโยนอย่างเซียวเจิ้นถิงอุ้มเขา จึงกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป

อันที่จริงซั่งกวนเยี่ยนก็ไม่ค่อยได้เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เยี่ยนจิ่วเฉามีแม่นมและสาวใช้ แน่นอนว่าจวนสกุลเซียวก็มีเช่นกัน กระนั้นแล้ว คนเราเมื่อถูกงูกัดครั้งหนึ่ง ก็จะกลัวเชือกไปสิบปี ซั่งกวนเยี่ยนคิดว่าตนเองไม่ควรประมาท นางเลือกแม่นมครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งที่ทำได้ด้วยตนเองก็ทำด้วยตนเอง

เยี่ยนอ๋องเป็นคนละเอียดรอบคอบ ตอนที่เยี่ยนจิ่วเฉาเกิด เขายังอายุไม่มาก ซั่งกวนเยี่ยนไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เยี่ยนจิ่วเฉา ทั้งหมดจึงเป็นหน้าที่ของเยี่ยนอ๋อง เขาเป็นบุรุษที่เอาใจใส่ แม้ว่าจะเจอปัญหาในราชสำนักมากเพียงใด เมื่อกลับมาถึงบ้านก็จะทิ้งความแข็งกร้าว และเปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยน

เจ้าตัวเล็กจับปลายนิ้วของเยี่ยนอ๋อง พ่นน้ำลายเป็นฟอง และไม่ร้องไห้งอแงอีกต่อไป

ดวงตากลมโตราวกับผลองุ่นมองเยี่ยนอ๋องด้วยความงุนงง

“เอาละ เขาไม่เป็นไรแล้ว คราวหลังเจ้าอย่าเอาอะไรไปคลุมเขาสิ เด็กมักไม่ชอบอากาศร้อน” เยี่ยนอ๋องถอดเสื้อให้ทารกน้อย แล้ววางเขากลับไปในตะกร้า

ทารกน้อยมองเขาเงียบๆ ว่าง่ายเป็นที่สุด

เซียวเจิ้นถิงเดินเข้ามามองทารกน้อยในตะกร้า แล้วขู่ด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้าเป็นพ่อของเจ้า! ถ้าร้องไห้อีก! ข้าจับเจ้าตีแน่!”

ทารกน้อยมองเขา ทันในนั้นก็เบะปากร้องไห้ออกมา!

เซียวเจิ้นถิง “…”

……………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]