เยี่ยนจิ่วเฉามองไปยังอิ่งสือซัน
อิ่งสือซันรู้สึกเย็นสันหลังวาบ เหตุใดต้องมองข้าด้วย?
เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัย “ลองก็รู้แล้วมิใช่หรือ?”
…………
ย่างเข้ายามราตรี เยี่ยนจิ่วเฉาให้ครัวเล็กทำขนมเกาลัดราดน้ำอิงเถา อิงเถาเตรียมเอาไว้แล้ว ส่วนขนมเกาลัดก็เตรียมเอาไว้บางส่วน พ่อครัวราดน้ำอิงเถาลงบนขนมแล้วจึงยกไปให้คุณชายบ้านตน
ไหนเลยจะรู้ว่าคุณชายชิมไปเพียงหนึ่งคำก็ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วพูดออกมาตามตรงว่าไม่อร่อยเท่าวันก่อน
พ่อครัวกลับไปทำอีกหลาายครั้ง ทว่าเยี่ยนจิ่วเฉาก็ยังไม่พอใจ
“อาจารย์ ท่านจำได้หรือไม่ว่าน้ำอิงเถาในวันนั้นแม่นางซูเป็นคนทำ?” ลูกศิษย์เอ่ยปากบอกพ่อครัว
พ่อครัวสูดหายใจเข้าเบาๆ “หากเจ้าไม่บอก ข้าก็คงลืมไปแล้ว เร็ว ไปเชิญแม่นางซูมา!”
“ขอรับ” ลูกศิษย์ตรงไปยังเรือนจู๋เยวี่ย แล้วเชิญซูมู่ซึ่งกำลังจัดเตียงอยู่มา
“วันนั้นเจ้าทำอย่างไร วันนี้เจ้าก็ทำอย่างนั้น ทำเสร็จแล้วยกไปให้คุณชายด้วย” พ่อครัวเป็นคนสูงวัย ภายนอกคุณชายอาจพูดถึงน้ำอิงเถา ใครจะสามารถยืนยันได้ว่าคุณชายไม่ได้หมายถึงคนทำน้ำอิงเถาเล่า? หากคุณชายมิได้มีความคิดเช่นนั้น แม่นางก็จะสามารถออกมาจากห้องได้ทันทีหลังจากยกขนมไปส่ง แต่หากมี ตนก็ไม่นับว่าทำให้เวลาอันมีค่าของคุณชายต้องล่าช้า
ซูมู่ทำน้ำอิงเถาเสร็จ นางและพ่อครัวก็ลองชิมดู เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีพิษหรือสิ่งแปลกปลอมใด จึงให้นางยกไปยังห้องหนังสือของคุณชาย
ตอนนี้ก็มืดแล้ว บรรดาบ่าวล้วนแต่กลับเข้าห้องกันแล้ว ไม่มีผู้ใดเห็นซูมู่เข้าไปในห้องของเยี่ยนจิ่วเฉา
“คุณชาย” ซูมู่คำนับที่หน้าห้องครั้งหนึ่ง
ในห้องมิใช่เยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว อิ่งสือซันกระแอมเบาๆ แม้ว่าเขาจะทำท่าทางให้เหมือนเยี่ยนจิ่วเฉาได้ แต่สีหน้าของเขานิ่งกว่า เสียงก็ไม่คล้ายกัน เพื่อให้ไม่ผิดสังเกต เขาจึงหรี่แสงตะเกียงให้เหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ซูมู่วางขนมที่ทำเสร็จแล้วลงบนโต๊ะ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “คุณชายเชิญรับประทานเจ้าค่ะ”
อิ่งสือซันเหลือบมองซูมู่
หน้าตาของซูมู่นับว่าโดดเด่น รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ยิ่งเมื่อสวมอาภรณ์ยาวสีชมพูอ่อนมีผ้าคาดเอว เนื้อผ้าทำให้มองเห็นส่วนโค้งส่วนเว้า หากเป็นบุรุษทั่วไปเห็นสตรีที่งดงามเพียงนี้ย่อมต้องมีเลือดลมเดินกันบ้าง ทว่าอิ่งสือซันหาได้รู้สึกอะไรไม่
อิ่งสือซันกินขนมเกาลัดเข้าไปหนึ่งคำ รสชาติไม่เลว
“คุณชายจะฝนหมึกหรือไม่เจ้าคะ?” ทันใดนั้นเอง ซูมู่ก็เอ่ยถามขึ้น
อิ่งสือซันพยักหน้าด้วยสีหน้านิ่ง
ซูมู่เดินไปด้านหน้า อ้อมไปด้านหลังโต๊ะหนังสือและไปหยุดอยู่ข้างอิ่งสือซัน มือหนึ่งของนางจับแขนเสื้อ อีกมือหนึ่งจับแท่งหมึก ค่อยๆ ฝนเบาๆ บนแท่นฝนหมึก
ท่าทางของนางสงบนิ่งและสง่างาม เสียงขูดเบาๆ ดังมาจากแท่นฝนหมึก
โดยรอบเงียบสงัด ลมพัดมาจากด้านนอก นำพากลิ่นหอมมาจากกายของนาง กลิ่นหอมนี้ลอยไปแตะจมูกของอิ่งสือซัน อิ่งสือซันรู้สึกราวกับหัวใจของตนเต้นเร็วขึ้น
อิ่งสือซันเค้นกำปั้นแน่น “เจ้าออกไปก่อน”
ซูมู่กะพริบตาปริบๆ นางวางมือ แล้วคำนับ “เจ้าค่ะ”
ซูมู่ออกไปแล้ว
เมื่อมั่นใจว่าอีกฝ่ายออกไปจากเรือนชิงเฟิงแล้ว อิ่งสือซันก็ค่อยๆ เปิดประตูกลออก เผยให้เห็นห้องลับด้านหลังชั้นหนังสือ
อ่านนิยาย
อวี๋หวั่นดันเยี่ยนจิ่วเฉาออกไป อิ่งลิ่วก็อยู่ด้านข้าง ทั้งสามรีบเข้ามาดูอิ่งสือซันซึ่งใบหน้าแดงก่ำ
อิ่งสือซันหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “นางวางยา”
นางไม่ได้วางยาเพียงที่เดียว นางแบ่งใส่น้ำอิงเถา อีกส่วนหนึ่งใส่ไว้ในถุงหอมที่นางพกติดตัว กินน้ำอิงเถาเข้าไปเพียงอย่างเดียวจะไม่รู้สึกผิดปกติ แต่เมื่อได้กลิ่นหอมเข้าไปด้วย ยาปลุกกำหนัดก็จะออกฤทธิ์ทันที
นัยน์ตาของอวี๋หวั่นกระตุกวูบ ดูแล้วผู้หญิงคนนี้ต้องการแย่งทุกอย่างของเธอ ทั้งตำแหน่งของเธอ ลูกๆ ของเธอ หรือแม้แต่สามีของเธอ
“คุณชาย ฮูหยินน้อย ข้าขอไปกำจัดพิษก่อนนะขอรับ” อิ่งสือซันรีบออกไปอย่างรวดเร็ว
การทนต่อพิษเป็นขั้นตอนหนึ่งในการฝึกหน่วยกล้าตาย อิ่งสือซันมิได้คิดมาก เขาเพียงทนให้ผ่านไปก็เท่านั้น ในตอนนั้นเอง อิ่งลิ่วก็วิ่งหัวหกก้นขวิดตามมา
ใบหน้าหล่อเหลาของอิ่งลิ่วเข้ามาในสายตาของอิ่งสือซัน
“มาทำไม?” อิ่งสือซันถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
อิ่งลิ่วกระแอมเบาๆ “ทำไมน่ะรึ…เจ้าให้เงินข้ามามาก เราสองคนนับว่าเป็นพี่น้องร่วมตายกัน เจ้าโดนยาปลุกกำหนัดมา ในฐานะพี่น้องร่วมตายกัน ข้าไม่อาจเพิกเฉย…ให้ข้าช่วยเถิด”
อิ่งสือซันหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง “เจ้า…เจ้าจะช่วยอย่างไร? เป็นบุรุษ…เหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]