ซั่งกวนเยี่ยนตื่นแต่เช้าตรู่ ไปอีกเรือนหนึ่งเพื่ออวยพรฮูหยินผู้เฒ่า แล้วไปนั่งที่เรือนของฮูหยินใหญ่สักพัก จากนั้นจึงกลับไปยังเรือนของตนเอง ในตอนนี้เซียวเจิ้นถิงฝึกวรยุทธ์เสร็จและกลับห้องมาแล้ว
เซียวเจิ้นถิงเป็นบุรุษหยาบกระด้าง ไม่พิถีพิถัน ทว่าซั่งกวนเยี่ยนเป็นคนละเอียดพิถีพิถัน เขากังวลว่าเหงื่อไคลของตนจะทำให้นางไม่ชอบ เซียวเจิ้นถิงจึงมักจะไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมาหานาง
เขาอาบน้ำเย็นเฉียบ เปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าใหม่แล้วจึงไปนั่งกินอาหารเช้าซึ่งถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ซั่งกวนเยี่ยนเก็บของอยู่ในห้อง
“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ต้องรอ” เซียวเจิ้นถิงบอก
ซั่งกวนเยี่ยนยิ้มน้อยๆ “ข้าไม่หิว”
“กำลังเก็บอะไรอยู่หรือ?” เซียวเจิ้นถิงเดินเข้าไปถาม
“เสื้อผ้าที่จะให้พวกต้าเป่ามาถึงแล้ว อยู่ๆ ข้าก็นึกได้ว่าข้าเก็บเสื้อผ้าของฉงเอ๋อร์ตอนเด็กๆ เอาไว้สามสี่ชุด” ซั่งกวนเยี่ยนหยิบชุดยาวตัวเล็กขึ้นมา “เขาเคยใส่ตอนอายุสามขวบ”
เซียวเจิ้นถิงมองไปยังเสื้อผ้าและรองเท้าซึ่งวางอยู่บนเตียง ใบหน้านิ่งก็มีความอ่อนโยนพาดผ่าน ราวกับเด็กคนนั้นกำลังเดินต้อยๆ ตามหลังเขา
“ตอนที่เขายังเด็ก เขาชอบท่านมาก แต่น่าเสียดายที่เขาจำไม่ได้แล้ว” ซั่งกวนเยี่ยนยิ้มขมขื่น
ครั้นเซียวเจิ้นถิงยังหนุ่ม เขาเป็นแม่ทัพที่ฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เขามักเข้าออกวังหลวงอยู่บ่อยครั้ง ครั้งแรกที่เห็นจิ่วเฉาตัวน้อยก็คือในเหมันตฤดูอันหนาวเหน็บ เขาและฮ่องเต้ไปเจาะน้ำแข็งบนสระไท่เยี่ยเพื่อตกปลา
ฮ่องเต้ไปเข้าห้องน้ำ
จิ่วเฉาตัวน้อยวิ่งเตาะแตะเข้ามา ดวงตาของเขากลมโตสีดำขลับ พูดด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูว่า “ท่านกำลังทำอะไรอยู่?”
“เจ้าไม่กลัวข้าหรือ?” เซียวเจิ้นถิงถาม
“เหตุใดข้าต้องกลัวท่าน?” จิ่วเฉาตัวน้อยเอียงคอพลางเอ่ยถาม
เซียวเจิ้นถิงยิ้ม “ไม่มีอะไร เจ้ากล้าหาญมาก”
“ไม่ใช่สักหน่อย!” เยี่ยนจิ่วเฉายืดอกอย่างเย่อหยิ่ง เขาเดินไปที่โพรงบนน้ำแข็ง แล้วชะเง้อมองลงไปด้านล่าง “ในนี้มีปลาหรือเปล่า?”
“มีสิ” เซียวเจิ้นถิงมองดูเด็กน้อยหน้าตาน่ารัก แล้วตอบไปอย่างอารมณ์ดี
“เช่นนั้นท่านตกให้ข้าดูหน่อย” จิ่วเฉาตัวน้อยบอกด้วยท่าทางไร้เดียงสา
เซียวเจิ้นถิงร่างกายใหญ่โตกำยำ ดูประหนึ่งอสูรร้าย ไม่มีเด็กคนไหนกล้าเข้าใกล้เขา องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองเพียงเห็นเขาก็ตกใจกลัวจนร้องไห้ เด็กคนนี้กลับไม่กลัว ทั้งยังกล้าสั่งเขาด้วย เซียวเจิ้นถิงยิ้มออกมา
เดิมทีคิดว่าฮ่องเต้จะทรงตกปลาก็หมายความว่าให้ฮ่องเต้ทรงตกเอง แต่ในครั้งนี้เขากลับมิได้ใส่ใจ ตกปลาขึ้นมารวดเดียวสิบกว่าตัว จิ่วเฉาน้อยร้องลั่นด้วยความตื่นเต้น
ซั่งกวนเยี่ยนไม่รู้เรื่องนี้ แต่นางได้ยินเสียงลูกร้องอย่างร่าเริงมาจากสระไท่เยี่ย นางจึงให้บ่าวไปอุ้มลูกมา จากนั้นจึงเดินทางกลับ
“ที่แท้ก็เป็นท่านหรอกหรือ… ” ซั่งกวนเยี่ยนรำพัน
เซียวเจิ้นถิงพยักหน้า “นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบเจ้า”
เพียงมองเห็นแต่ไกล ก็จดจำได้ชั่วชีวิต หลังจากนั้นไม่ว่าสกุลเซียวจะทาบทามแม่นางคนใดให้เขา แต่ทุกคืนที่ข่มตาลง เขาก็จะเห็นแต่เพียงนาง
ซั่งกวนเยี่ยนทำตาโต “ท่านคิดถึงข้ามานานเท่าใด?”
เซียวเจิ้นถิงกระแอม ไม่กล้าตอบ
ซั่งกวนเยี่ยนมิได้เคืองโกรธ หากไม่ใช่เพราะเขาผู้นี้ยังคงถวิลหานาง ดึงนางไว้ในยามคับขัน นางคงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ เดิมทีแต่งงานกับเขาก็ไม่อยากติดค้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังติดค้างเขาอยู่ดี
ในตอนนั้นฮ่องเต้ตรงคัดค้านการแต่งงานเป็นอย่างมาก หนึ่งก็เพื่อรักษาหน้าของเยี่ยนอ๋องผู้ล่วงลับ สองก็เพราะกังวลว่าบุตรของนางและเซียวเจิ้นถิงจะทำให้ตำแหน่งของเยี่ยนจิ่วเฉาสั่นคลอน…จนสุดท้ายแล้วมาช่วงชิงทุกสิ่งที่เป็นของเยี่ยนจิ่วเฉา เพราะฉะนั้นจึงทรงพระราชทานยาขับลูกให้กับนาง
ซั่งกวนเยี่ยนไม่ได้นึกเสียใจที่ไม่มีลูก ชั่วชีวิตของนางมีฉงเอ๋อร์เป็นลูกเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้ว นางไม่เคยคิดจะมีลูกสืบสกุลให้เขา เขาชื่นชอบร่างกายของนาง นางก็มอบร่างกายให้เขา ส่วนเรื่องลูกนั้น…นางคิดว่าคงจะมีสตรีคนอื่นที่ยินดีให้กำเนิดบุตรสืบสกุลให้เขา
ไหนเลยจะรู้ว่าเขาไม่ต้องการ
ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านางให้กำเนิดบุตรไม่ได้…ก็ยังไม่ต้องการ
……
ณ จวนคุณชาย เยี่ยนจิ่วเฉาตื่นนอนแล้ว เมื่อลืมตาตื่นก็พบว่าอวี๋หวั่นยังคงนอนอยู่ข้างกายเขา ศีรษะหนุนอยู่บนแขนข้างหนึ่ง มองมายังเขาอย่างไม่รีบร้อน
วันนี้ ตื่นสายกว่าวันอื่นๆ
เยี่ยนจิ่วเฉาถูกสายตาของอวี๋หวั่นทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง เขากระแอม ลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ทำไมมองข้าอย่างนั้น?”
อวี๋หวั่นหรี่ตา “เยี่ยนจิ่วเฉา เมื่อคืนท่านฝันร้ายใช่ไหม?”
“เปล่า” เยี่ยนจิ่วเฉาตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
อวี๋หวั่นมองเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ดึงจนคนหลับลึกอย่างเธอสะดุ้งตื่น ถ้าไม่ใช้ฝันร้ายแล้วจะเรียกว่าอะไร?
เยี่ยนจิ่วเฉาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เขาก้มสวมรองเท้าแล้วบอกว่า “องค์ชายที่เหลือก็จะได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องแล้วเช่นกัน เจ้าเตรียมของขวัญไว้ให้พร้อม มีราชโองการลงมาเมื่อไรก็นำของขวัญส่งไปได้”
“แล้วท่านละ?” อวี๋หวั่นเท้าคางพลางเอ่ยถาม
เยี่ยนจิ่วเฉาชะงักไปครู่หนึ่ง
อวี๋หวั่นมองแผ่นหลังของเขา “พวกเขาได้รับการแต่งตั้ง ฝ่าบาทก็คงไม่ทรงละเลยท่าน ครั้งนี้ท่านยังคิดจะปฏิเสธอยู่ไหม?”
ผู้อื่นได้อ้อนวอนขอตำแหน่งของเยี่ยนอ๋อง เขากลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่ตำแหน่งผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์เขาก็ไม่ต้องการ คนที่รู้เรื่องราวก็จะบอกว่าเขายังคงโกรธฮ่องเต้ แต่คนที่ไม่รู้จักก็จะคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้ตอบ
อวี๋หวั่นลงจากเตียง หยิบเสื้อให้เขาเปลี่ยน “เยี่ยนจิ่วเฉา ท่าน…ท่านยอมรับเรื่องการจากไปของเยี่ยนอ๋องไม่ได้มาตลอดใช่หรือไม่?”
เยี่ยนจิ่วเฉาชะงัก แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ข้าจะลองคิดดู”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]