หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 140

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 140 ชำระมลทิน เรื่องน่ายินดีมาเยือน (2)
นางเจียงเดินมาหาอวี๋หวั่นด้วยสีหน้าอ่อนโยน

อวี๋หวั่นมองสิ่งที่นางเจียงซ่อนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าก็ง้ำงอลงเล็กน้อย “ท่านแม่ให้พวกเขากินอะไรอีกแล้วใช่ไหม?”

นางเจียงส่ายหน้า

อวี๋หวั่นบอกว่า “ข้าได้กลิ่น! น่องไก่ผัดน้ำผึ้ง!”

นางเจียง: แหะๆ

เมื่อคืนฝนไม่ได้ตกแต่อย่างใด ทว่าวันนี้กลับตกลงมากะทันหัน อวี๋หวั่นจำต้องพาเด็กน้อยทั้งสามกลับเข้าบ้าน ก้อนเนื้อจ้ำม่ำวิ่งน้ำลายสอไปหานางเจียง มืออวบอ้วนคว้าน่องไก่มากินอย่างเอร็ดอร่อย

เจ้าลูกจิ้งจอกหิมะก็ได้ส่วนแบ่งของน่องไก่เช่นกัน มันสวมผ้าผืนเล็ก และแบ่งน่องไก่กินกับเจ้าแมวน้อยซึ่งตัวใหญ่กว่ามันหนึ่งเท่า

เมฆฝนยังไปไม่ถึงเมืองหลวง กระนั้นเจียงไห่ก็ฝ่าฝน นำความกลับไปยังเมืองหลวง เยี่ยนจิ่วเฉาพยักหน้า และบอกให้เจียงไห่ออกไป

ฝนห่าใหญ่ไม่หยุดยั้งเขาไว้ได้ แต่เขาก็มีเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ต้องทำ เขารู้ว่าฮ่องเต้ถูกผู้ใดเล่นงาน ถึงแม้เขาจะไม่มีปัญญาไปแบกรับความผิดนี้ แต่ก็ยินดีที่จะช่วยเติมไฟเข้าไป

เยี่ยนจิ่วเฉาให้อิ่งสือซันไปตามใต้เท้าหัวหน้าสำนักดาราศาสตร์มา

หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์เป็นบุรุษวัยกลางคนรูปร่างผอม ไม่สูงนัก ท่าทางคงแก่เรียนเหนือปุถุคนทั่วไป

“ข้าน้อยคำนับคุณชาย” หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์ค้อมกาย

“ท่านพ่อของข้ามีบุญคุณกับเจ้า” เยี่ยนจิ่วเฉามิได้อ้อมค้อม “ไม่รู้ว่าเจ้ายังจดจำได้หรือไม่?”

หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมด้วยความเคารพ “ข้าน้อยกำเนิดมาในครอบครัวชาวบ้านยากจน ในวันสอบ ข้าถูกคนกลั่นแกล้งจนหลงทาง เยี่ยนอ๋องนั้นสูงส่ง หากแต่มิรังเกียจข้าน้อยที่เนื้อตัวสกปรก ให้ข้าน้อยนั่งรถม้าไปถึงสนามสอบด้วย หากไม่มีเยี่ยนอ๋อง ข้าก็คงไม่มีโอกาสเข้ารับราชการ”

เขามีมารดาซึ่งป่วยหนัก มีบุตรยังต้องเลี้ยงดู มีพี่น้องที่ยังต้องพึ่งพาเขา เขาสอบตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะไปสอบ หากสอบไม่ผ่านอีก เขาก็คงต้องกลับชนบทไปช่วยพี่ชายและพี่สะใภ้ทำไร่ไถนา

กล่าวได้ว่า หากไม่มีเยี่ยนอ๋องซึ่งช่วยเขาในวันนั้น เขาก็คงไม่มีวันนี้

เยี่ยนอ๋องหาได้นำเรื่องนี้มาใส่ใจไม่ และเขาเองก็ไม่ควรพูดให้คนคิดว่าเขาไต่เต้าได้ก็เพราะความสัมพันธ์กับเยี่ยนอ๋อง แต่เขาก็รู้สึกซาบซึ้งต่อเยี่ยนอ๋องมาโดยตลอด เพียงแต่ยังไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณ เยี่ยนอ๋องก็ด่วนจากไปเสียก่อน

อนิจจังหนอ

เยี่ยนจิ่วเฉาพูดตามตรง “ที่ข้าเรียกเจ้ามาวันนี้มิได้ต้องการรื้อฟื้นความหลังแต่อย่างใด”

หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์ยกมือขึ้นประสานกัน “น้อมรับคำสั่งของคุณชาย”

……

ไม่กี่วันต่อมา ในเมืองหลวงก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นไม่น้อย เริ่มตั้งแต่อยู่ๆ ตะเกียงซึ่งไม่มีวันดับในวัดผู่จี้ก็มอดลง จากนั้นเทียนและธูปในหอบูชาบรรพชนของราชวงศ์ก็หายไป ตามมาด้วยม้าเหงื่อโลหิตของสวนในวังหลวงก็ไม่อยากอาหาร และนกหายากก็บินชนกรงจนสภาพดูไม่ได้

เรื่องร้ายเหล่านี้ได้แพร่สะพัดไปในหมู่ราษฎร ว่ากันว่ามีคนในราชวงศ์กระทำการซึ่งขัดต่อลิขิตสวรรค์ เทพเจ้าจึงเริ่มพิโรธ

ฮ่องเต้ทรงรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่อาจบอกได้อย่างแน่ชัด แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความเชื่อของราษฎรได้ หากไม่ควบคุมความเชื่อเหล่านี้เอาไว้ เห็นทีมีแต่รังจะถูกหนานจ้าวและซยงหนูหัวเราะเยาะเอาได้

วันนี้ ฮ่องเต้จึงเรียกหัวหน้าสำนักดาราศาสตร์มาเข้าเฝ้า

ฮ่องเต้นั่งอยู่หลังฉากกั้น ครานี้ไม่อาจให้ผู้ใดพบเห็น

หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์จึงทำตามและยืนอยู่ด้านหน้าฉากกั้น

ฮ่องเต้ขบคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตรัสว่า “เจ้าคงได้ยินเรื่องที่ราษฎรพูดกันมาบ้าง?”

หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์กล่าวว่า “ฝ่าบาททรงหมายถึง…งานสมรสของเฉิงอ๋องและองค์หญิงซยงหนูหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว

หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์กล่าวต่อ “ชาวบ้านพูดกันว่า สวรรค์กำลังลงโทษราชวงศ์ เพราะไม่พอใจในพิธีสมรสครั้งนี้ สายเลือดของราชวงศ์แห่งต้าโจวไม่อาจระคนกับสายเลือดอื่น ราษฎรต่างอยากให้ทรงยกเลิกพิธีสมรสระหว่างสองดินแดนพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้กระแอมเล็กน้อย เรื่องนี้เกี่ยวอันใดกับความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดนกัน? เรื่องนี้ประกาศออกไปทั่วทั้งใต้หล้าตั้งแต่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน หากสวรรค์จะลงโทษเพราะเรื่องนี้ก็คงจะลงโทษไปตั้งแต่แรกแล้ว เหตุใดต้องรอให้ตนฉีกหลักฐานของโจวไหวก่อนด้วย?

“เจ้าก็คิดเช่นนั้นหรือ?” ฮ่องเต้ตรัสถาม

หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์ส่ายหน้า “กระหม่อมลองคำนวณดวงชะตาวันเกิดของเฉิงอ๋องและองค์หญิงซยงหนูแล้ว นับว่ามีดวงชะตาต้องกัน การที่ทั้งสองได้เกี่ยวดองกันอาจเป็นลิขิตสวรรค์อย่างหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ตรัสว่า “เช่นนั้นก็หมายความว่าการลงโทษจากสวรรค์เป็นเรื่องไร้สาระหรือ?”

“มิใช่พ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์ส่ายหน้าอีกครั้ง “กระหม่อมได้ดูลักษณะของดวงดาว เห็นว่าดาวจื่อเวยเปลี่ยนตำแหน่ง ดาวจื่อเวยเป็นดาวซึ่งควบคุมดาวราษฎร ซึ่งก็คือดาวแห่งกษัตริย์”

ฮ่องเต้หน้าถอดสี “เจ้าหมายถึง…สวรรค์ลงโทษข้าอย่างนั้นหรือ?”

“กระหม่อมมิกล้า” หัวหน้าสำนักดาราศาสตร์จับชายเสื้อแล้วรีบร้อนคุกเข่าลงอย่างอกสั่นขวัญแขวน

ฮ่องเต้มองเขา “หากข้า…ไม่สนใจแล้วจะเป็นอย่างไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]