เดี๋ยวก่อนนะ เขาลูกเล็กที่เธอซื้อไปนั้นมีสินแร่ แล้วภูเขาลูกใหญ่ที่ฮ่องเต้พระราชทานให้เหล่านั้นละ?
“ต้าลี่ไม่เป็นอะไรแล้ว พี่เอ้อร์หนิว รบกวนท่านพาเขาไปพักสักหน่อย สามสี่วันนี้เขาไม่ต้องมาทำงาน พี่ใหญ่ ซวนจื่อ พวกท่านมากับข้า” อวี๋หวั่นมอบหมายงานเสร็จก็ถือเสียมไปยังภูเขารกร้างพร้อมกับอวี๋เฟิงและซวนจื่อ เนื่องจากเกรงว่าคนจะไม่พอ อวี๋เซ่าชิง พี่ชายของซวนจื่อ และนายพรานจึงขึ้นเขาไปด้วย
ผลก็คือพวกเขาพบสินแร่ชั้นดี และมีปริมาณมากกว่าบนเขาลูกเล็กเสียอีก
พวกเขาถูกขังอยู่ท่ามกลางภูเขารกร้างมาหลายชั่วอายุคน ถนนไม่ตัดผ่าน ข่าวสารมาไม่ถึง ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านเหลียนฮวาจึงกลายเป็นหมู่บ้านที่แร้นแค้นและยากจนที่สุดในแถบนี้ แต่ใครจะไปคิดว่าด้านหลังของหมู่บ้านยากจนแห่งนี้จะมีสินแร่ล้ำค่าซ่อนอยู่
“เมื่อก่อนไม่มีหินประเภทนี้” พี่ชายของซวนจื่อบอก ก่อนที่เขาจะถูกจับไปเป็นทหาร เขามักจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์ เขาคุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศของภูเขาเป็นอย่างดี เส้นทางที่เขาเดินมาตอนนี้ เขาก็เคยเดินมาก่อน แต่เท่าที่เขาจำได้ ภูเขารกร้างเหล่านี้ไม่ได้เป็นเช่นนี้
อวี๋หวั่นยกยิ้มมุมปาก “พี่ของซวนจื่อ นั่นเป็นเพราะมีแผ่นดินไหว”
แผ่นดินไหวมิได้เพียงทำลายไร่นาของหมู่บ้านเหลียนฮวาเท่านั้น ทั้งยังเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศของภูเขาอีกด้วย สินแร่ซึ่งเคยถูกฝังอยู่ใต้ดินก็โผล่ขึ้นมา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงขุดพบได้อย่างง่ายดาย
ในต้าโจว เหล็กเป็นสินค้าควบคุม นอกจากเพื่อป้องกันการลักลอบทำอาวุธแล้ว หนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือแหล่งแร่ในต้าโจวนั้นมีน้อย ทั้งยังไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ใหม่มาหลายปีแล้ว หากเป็นเช่นนี้นานวันเข้า เกรงว่าพวกเขาคงต้องนำเข้าสินแร่จากดินแดนเพื่อนบ้านในราคาสูง
อวี๋หวั่นดีใจเหลือเกิน หลังจากวันนี้ เธอก็จะเป็นผู้มีแร่ในครอบครองเช่นกัน!
หมู่บ้านเหลียนฮวาประหนึ่งถูกกักขังไว้กลางหุบเขา ไม่เพียงข่าวสารจากภายนอกมาไม่ถึง ข้อมูลจากภายในก็ยากที่จะออกไปเช่นกัน ทว่าฮ่องเต้ทรงปรารถนาที่จะเห็นอวี๋เซ่าชิงทุกข์ทรมาน จึงให้ขันทีวังคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของหมู่บ้านเหลียนฮวาให้ดี
ยามสนธยา ขันทีวังเข้าไปในห้องบรรทมของฮ่องเต้
อันที่จริงเขาได้ข้อมูลมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว ทว่าเขาลังเลอยู่หนึ่งชั่วยามเต็มๆ กว่าจะรวบรวมความกล้าเดินเข้ามา
หลายวันมานี้ ฮ่องเต้ทรงอยู่แต่ในห้องบรรทมเพื่อรอให้ผมขึ้น พระองค์ใช้เหอโส่วอู[1]ชั้นดี พระองค์รู้สึกว่าผมเส้นเล็กเริ่มงอกบนศีรษะโล้นๆ ของพระองค์แล้ว และนั่นทำให้ฮ่องเต้ดีใจเป็นอย่างยิ่ง อีกไม่นานพระองค์ก็จะกลับมามีผมดกดำดังเดิม
“ฝ่าบาท” ขันทีวังเดินอ้อมฉากกั้นเข้ามา ถวายบังคมหนึ่งครั้ง
ฮ่องเต้ถือเหอโส่วอูในมือ แล้วเอ่ยถามว่า “มีอะไร? อวี๋เซ่าชิงมีความเคลื่อนไหวหรือ?”
ฮ่องเต้ยิ้มอย่างเดียดฉันท์ “ให้เราเดา เขาตั้งสติได้แล้ว และรู้ว่าตนถูกหักหน้าอย่างแรง? จงหย่งโหวผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้รับพระราชทานที่ดินแม้แต่แปลงเดียว เราละอยากเห็นเหลือเกินว่าเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”
“…” ขันทีวังกำลังคำนวณโอกาสในการมีชีวิตรอดหลังจากที่กราบทูลเรื่องนี้
“ทำไมไม่พูดเล่า? เขาคงโมโหจนเป็นลมไปแล้วกระมัง?” ฮ่องเต้หัวเราะเยาะเย้ย
ขันทีวังกำแส้ขนหางจามรีในมือแน่น สุดท้ายก็ทำใจกล้า แล้วกล่าวว่า “ข้ามีสองเรื่องจะกราบทูลฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เรื่องแรกเป็นเรื่องดี เรื่องที่สองเป็นเรื่องร้าย”
ฮ่องเต้เพียงนึกถึงอวี๋เซ่าชิงนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง ก็พลันรู้สึกเบิกบานใจ พระองค์ยิ้มพลางบอกว่า “บอกข่าวดีมาก่อน”
ขันทีวังเค้นกำปั้นชุ่มเหงื่อ กล่าวว่า “ข่าวดีก็คือต้าโจวของพวกเราได้ค้นพบแหล่งแร่เหล็กแหล่งใหม่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“อ้อ?” ฮ่องเต้นัยน์ตาลุกวาว ยืดอกขึ้นอย่างองอาจ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง แร่เหล็กในเหมืองของต้าโจวร่อยหรอเต็มที อาวุธยุทโธปกรณ์ก็แทบจะตีออกมาไม่ได้ ราษฎรมิได้พูดกันอยู่หรือว่าราชวงศ์ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ เมื่อมีแหล่งแร่แหล่งใหม่ พระองค์ก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครหน้าไหนจะกล้าพูดว่าพระองค์ไม่ใช่โอรสที่สวรรค์ทรงโปรด
“ข่าวร้ายเล่า?” ฮ่องเต้ยิ้มร่าพลางถามต่อ ในเมื่อมีข่าวดีที่ใหญ่ถึงเพียงนี้ ต่อให้มีข่าวร้ายก็คงไม่เป็นไร
ขันทีวังกัดฟันกล่าวออกไปว่า “ข่าวร้ายก็คือ…แหล่งแร่แหล่งใหม่อยู่ที่ภูเขาซึ่งฝ่าบาทพระราชทานให้อวี๋เซ่าชิงพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ “???”
ฮ่องเต้ “!!!”
ฮ่องเต้กระอักเลือดออกมา แล้วเป็นลมล้มพับลงไป…
ณ หมู่บ้านเหลียนฮวา อวี๋หวั่นและคนอื่นๆ ต่างขึ้นไปบนเขา การค้นพบแหล่งแร่นั้นนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี พวกเขาไม่เพียงดีใจ ชาวบ้านต่างก็ดีใจเช่นกัน ผู้ใดยังจะกล้าหัวเราะเยาะว่าภูเขาที่รายล้อมหมู่บ้านเหลียนฮวาของพวกเขาว่าเป็นภูเขารกร้างไร้ประโยชน์อีก? เหอะๆๆ เห็นชัดๆ ว่าเป็นภูเขาแร่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]