เซียวจื่อเยว่คลี่ยิ้มน้อยๆ “พี่สะใภ้”
อวี๋หวั่นตกตะลึงกับคำว่าพี่สะใภ้ แต่ในไม่ช้าก็รู้สึกตัวว่าแท้จริงเธอก็คือพี่สะใภ้ของนาง หากมีใครเรียกเธอเช่นนี้ เธอก็ควรจะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังล้อเลียนเธอ ทว่าเซียวจื่อเยว่ไม่มีทาง
อวี๋หวั่นมองไปด้านหลังเซียวจื่อเยว่
เซียวจื่อเยว่หันมองตามสายตาของเธอ “มีอันใดหรือพี่สะใภ้? ท่านกำลังมองหาสิ่งใด?”
อวี๋หวั่นถอนสายตากลับ พลางส่ายหัว “ไม่มีอันใด”
ในความเป็นจริง ตอนที่เธอเข้ามาในสวนเล็กๆ เธอรู้สึกถึงสายตาที่ตกกระทบร่างของเธอซึ่งไม่อาจละเลยได้ ที่แท้ก็เป็นเซียวจื่อเยว่หรอกหรือ?
หัวใจของอวี๋หวั่นผ่อนคลายลง ริมฝีปากของเธอพลันยกยิ้ม “เมื่อครู่ ข้าไม่เห็นท่านที่โถงด้านหน้า”
เซียวจื่อเยว่ยิ้มและเอ่ยเบาๆ “ข้าไม่ได้ไปร่วมพิธีบวงสรวงสวรรค์ ข้ามาทีหลังกับท่านแม่ ท่านแม่ของข้ากำลังสนทนาอยู่กับสตรีสองสามคนที่ห้องชุนฮุย ข้าเห็นท่านเดินอยู่ที่ทางเดินจึงมาหา คงไม่ได้ทำให้ท่านตกใจหรอกกระมัง?”
อวี๋หวั่นแย้มยิ้ม “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?”
ที่แท้ก็มาหาเธอโดยเฉพาะ พบกันไม่ถึงสองครั้ง แล้วเธอยังเป็นศัตรูหัวใจที่มองไม่เห็น สาวน้อยคนนี้กังวลเกินไปหรือไม่?
“ปีนี้ท่านอายุเท่าใดหรือ?” อวี๋หวั่นถาม
“สิบสี่ อีกสามเดือนจะสิบห้า” ระหว่างพี่สาวน้องสาวที่มีความสัมพันธ์อันดีก็มักจะถามอายุกันและกัน เซียวจื่อเยว่ไม่รู้สึกว่าคำถามนี้ผิดปกติแต่อย่างใด จึงตอบอย่างตรงไปตรงมา
เด็กคนนี้ ไยจึงตอบทุกอย่าง? ตนแค่ถามไปอย่างนั้น มิได้คาดหวังว่านางจะตอบ
อวี๋หวั่นไม่สงสัยเลยว่าหากเธอถามถึงบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของนาง นางก็คงตอบทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา ช่างเป็นเด็กที่โง่เขลาเสียจริง มิน่าถึงได้ถูกจ้าวเหิงหลอก
ทันใดนั้น เซียวจื่อเยว่ก็จับมืออวี๋หวั่น
แขนของอวี๋หวั่นแข็งทื่อ
นอกจากลูกและสามี เธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใกล้ชิดผู้คนนัก ถึงในชนบทเธอจะอาศัยอยู่กับท่านแม่ในห้องเดียวกัน ทว่าเธอก็พยายามไม่แตะต้องท่านแม่ แม้ต่อมาจะได้พบกับไป๋ถัง ไป๋ถังก็ไม่ได้มีนิสัยที่น่ารำคาญ เด็กผู้หญิงคนนี้ทำตัวสนิทสนมเกินไปแล้วใช่หรือไม่?
พี่น้องสตรีต่างก็อยู่ด้วยกันเช่นนี้ เซียวจื่อเยว่คุ้นเคยและรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ปกติมาก
แต่พี่น้องสตรีไม่รู้ว่านางเป็นโรคนั้น พี่สะใภ้รู้ แต่พี่สะใภ้ก็ไม่ได้มองนางด้วยสายตาแปลกประหลาด พี่สะใภ้ไม่รังเกียจนาง นางชอบพี่สะใภ้
อวี๋หวั่นไหนเลยจะรู้ว่าในหัวของเด็กคนนี้ช่างคดเคี้ยว
อวี๋หวั่นกระแอมในลำคอ ขณะที่กำลังจะถอนมือออกอย่างใจเย็น เธอก็เห็นหญิงสาวหน้าตาน่ารัก รูปร่างท้วมเดินมาพร้อมกับสาวใช้สองคน
เดิมทีอวี๋หวั่นไม่ได้สนใจอีกฝ่าย ทว่าอีกฝ่ายกลับตรงเข้ามาหาเธอกับเซียวจื่อเยว่
หญิงสาวเหลือบมองอวี๋หวั่นก่อนจะเมินหน้าหนี และทันใดนั้นก็หันกลับมา ราวกับจำบางสิ่งบางอย่างได้ นางเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา “เจ้า…เจ้าเองรึ?”
สายตาของอวี๋หวั่นตกกระทบใบหน้าของอีกฝ่าย ความทรงจำที่อวิ๋นสุ่ยเจียนพรั่งพรูออกมา อวี๋หวั่นก็จำนางได้ “เจ้าเอง”
เซียวจื่อเยว่มองไปที่อวี๋หวั่นสลับกับหญิงสาว “จื่อหลิน พวกเจ้ารู้จักกันหรือ?”
คราวนี้เป็นอวี๋หวั่น อวี๋หวั่นมองไปที่เซียวจื่อเยว่ “พวกท่านรู้จักกันหรือ?”
เซียวจื่อเยว่กล่าว “นางเป็นน้องสาวคนที่สามของข้า เซียวจื่อหลิน”
“จากมารดาคนเดียวกันรึ?” อวี๋หวั่นถาม
สีหน้าของเซียวจื่อหลินเปลี่ยนไป
เซียวจื่อเยว่ไอเล็กน้อยก่อนจะกระซิบ “จื่อหลิน เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเมิ่งอี๋เหนียง[1]”
อวี๋หวั่นอุทานอย่างเข้าใจ บุตรอนุภรรยา คุณหนูที่เกิดจากอนุภรรยาเพียงคนเดียวของจวนเซียว ผู้วางอำนาจบาตรใหญ่ที่อวิ๋นสุ่ยเจียน เธอก็นึกว่าเป็นบุตรีขุนนางที่ใด แต่จวนสกุลเซียวเป็นจวนแม่ทัพ เช่นนั้นหญิงสาวที่เกิดจากอนุภรรยาก็นับว่าเหนือกว่าสามัญชนระดับหนึ่ง
จะว่าไปแล้ว เป็นเวลาเพียงเดือนกว่าๆ ที่ไม่พบกัน คุณหนูสามของสกุลเซียวดูเหมือนเจ้าเนื้อขึ้นกว่าเดิม มิใช่ว่านางอยากใส่เสื้อผ้าที่แม่นางเมิ่งตัดเย็บหรอกหรือ? โตขึ้นทุกวันเช่นนี้จะยัดเข้าไปได้อย่างไร?
เซียวจื่อหลินแยกมือทั้งสองที่จับกันอยู่ออก พลางดึงเซียวจื่อเยว่ และจ้องอวี๋หวั่นอย่างถมึงทึง “พี่รอง ไยท่านมาอยู่กับนางได้? อย่าไปเสวนากับนาง! นางมิใช่คนดี!”
เซียวจื่อเยว่ดุด้วยเสียงเบา “อย่าเสียมารยาท นางเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า”
เซียวจื่อหลินกลอกตา “พี่ใหญ่ของข้าตายไปนานแล้ว ข้าจะมีพี่สะใภ้ได้อย่างไร?”
“ก็คุณชายเยี่ยนไง” เซียวจื่อเยว่กล่าว
เซียวจื่อหลินผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลอกตาสูงกว่าเดิม “เขาก็ไม่ใช่พี่ใหญ่ของข้า! พี่ใหญ่ของข้ามีคนเดียว คือเซียวเหยี่ยน!”
อวี๋หวั่นแอบรู้สึกตลก หากเด็กผู้หญิงคนนี้คิดจะทำเช่นนี้ให้เธออับอาย นางคงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป นางเป็นใครกัน ถูกนางนับว่าเป็นพี่ชายพี่สะใภ้ แล้วมีเรื่องใดน่ายินดีเป็นเกียรติ?
คำว่าพี่สะใภ้ที่เซียวจื่อเยว่เรียก เธอยังไม่รู้สึกอะไรเลย
อวี๋หวั่นคร้านจะใส่ใจกับคนโง่ จึงกลับหลังหันและเดินออกจากสวนขนาดเล็กไป
“พี่…” เซียวจื่อเยว่
“พี่รอง!” เซียวจื่อหลินขัดจังหวะนางได้ทันเวลา พลางจ้องไปด้านหลังของอวี๋หวั่นอย่างไม่พอใจ “เมื่อครู่ท่านไม่เห็นสีหน้าท่าทางของนางรึ? นางไม่สนใจเรา! นางดูถูกคน!”
“นางไม่สนใจเจ้า!” เซียวจื่อเยว่กล่าวอย่างโกรธเคือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]