หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 154

แม่ทัพเห้อเหลียนประสบกับโชคร้าย ในฐานะรองแม่ทัพ เมื่อเขากลับไปที่หนานจ้าว เป็นไปได้มากว่าต้องรับโทษด้วยชีวิต หากได้รับการสนับสนุนจากราชครู ต่อไปเมื่อกลับหนานจ้าวก็จะช่วยปกป้องครอบครัวของเขาให้รอดพ้นจากโทสะขององค์ประมุข

รองแม่ทัพหูบอกเล่าเรื่องราวที่เห้อเหลียนฉีไปหอนางโลมและหอจุ้ยเซียน แม้สารถีในวันที่ไปหอจุ้ยเซียนไม่ใช่เขา ทว่าภายหลังเห้อเหลียนฉีก็ไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้กับเขา

หลังจากได้ยินสิ่งที่รองแม่ทัพหูเล่า ใต้เท้าตู้ก็ต้องตกใจจนไม่อาจหุบปาก “เขา…เขา…เขาเอ่ยวาจาสามหาวเช่นนั้นกับคุณชายแห่งเมืองเยี่ยนจริงหรือ?”

อะไรคือ ‘ได้ยินมาว่าฮูหยินเซียวเป็นสาวงามอันดับหนึ่งในต้าโจว…ไยเจ้าไม่ให้นางมาอยู่กับข้าสักคืนเล่า แล้วข้าจะมอบชุดเกราะให้เจ้า’? เขากล้าขึ้นไปเหยียบจมูกมารดาแท้ๆ ต่อหน้าคุณชายแห่งเมืองเยี่ยนรึ?!

“ข้าจะบอกอีกอย่างหนึ่ง” ราชครูดูเหมือนจะคุยกับรองแม่ทัพหู ทว่าแท้จริงแล้วเขากำลังบอกกับใต้เท้าตู้ “สืบพบตัวสตรีที่หอจุ้ยเซียนผู้นั้นแล้ว นางไม่ใช่คนรับใช้ของจวนคุณชาย ทว่าเป็นเพื่อนของฮูหยินคุณชาย นางไม่ใช่กับดักที่เยี่ยนจิ่วเฉาวางไว้เพื่อหลอกล่อแม่ทัพเห้อเหลียน แม่ทัพเห้อเหลียนและนางเพียงพบกันโดยบังเอิญ”

รองแม่ทัพหูตกใจ

ใต้เท้าตู้เบิกตากว้างและกล่าวว่า “หากเป็นเช่นนั้น แม่ทัพเห้อเหลียนดูถูกมารดาของคุณชายเยี่ยนก่อน จากนั้นก็พยายามเหยียดหยามเพื่อนของฮูหยินคุณชาย…” เป็นเช่นนี้แล้ว เขายังมีหน้าไปหาเยี่ยนจิ่วเฉาเพื่อล้างแค้นอีกหรือ?!

เรื่องทั้งหมดเพราะเห้อเหลียนฉีแกว่งเท้าหาเสี้ยนแต่แรก หากจะกล่าวให้ดูแย่เสียหน่อย ความตายยังน้อยไปด้วยซ้ำ ในฐานะทูตแห่งหนานจ้าว พวกเขาสามารถไปโวยวายกับฮ่องเต้แห่งต้าโจวได้ ทว่าเมื่อโวยวายแล้วฝ่ายที่จะดูแย่สุดท้ายก็คือหนานจ้าว แค้นเคืองศัตรูที่ลบหลู่มารดาจนไม่อยากอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน แม้เยี่ยนจิ่วเฉาจะลงมือหนักไปเสียหน่อย ทว่าก็ไม่มีผู้ใดตำหนิเขาได้

ชีวิตของเห้อเหลียนฉีไม่อาจฟื้นคืนกลับเป็นเหมือนเดิม อย่างไรก็ต้องช่วยรักษาหน้าและเกียรติของเขาไว้

ใต้เท้าตู้หุบปาก

ราชครูกวาดสายตามองรองแม่ทัพหู และมองไปในค่ำคืนอันมืดมิดไร้ขอบเขต “มิน่าถึงได้ไว้ชีวิตเจ้า ที่แท้ก็ต้องการยืมปากของเจ้ามาบอกพวกเราว่าฆาตกรคือเขา และเราก็ไม่อาจทำสิ่งใดกับเขาได้!”

หากรองแม่ทัพหูตายไปด้วย พวกเขาคงไม่รู้ความจริง และพยายามไปหาคำอธิบายจากฮ่องเต้แห่งต้าโจวเป็นแน่ และหลังจากล่วงรู้ความจริง หน้าตาของแม่ทัพเห้อเหลียนก็คงไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป การสังหารของเยี่ยนจิ่วเฉาก็ละเมิดกฎหมายต้าโจวเช่นกัน ผู้คนอาจเห็นอกเห็นใจเขา ทว่ากฎหมายไม่อาจช่วยอะไรเขาได้

ไม่ได้เป็นผลดีกับผู้ใดทั้งสิ้น

ยามนี้กลับแตกต่างออกไป ตราบใดที่พวกเขาเลือกที่จะเงียบ ไม่เพียงแต่จะรักษาหน้าตาของแม่ทัพเห้อเหลียนไว้ ทว่าเยี่ยนจิ่วเฉาก็ยังไม่ต้องรับโทษใดๆ แม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันคือทางเลือกเดียวที่จะทำให้ชนะทั้งสองฝ่าย

ครานี้ไม่ต้องรอให้ราชครูเอ่ยทัก ใต้เท้าตู้ก็เข้าใจได้ด้วยตนเอง เขาคร่ำครวญว่า “การใช้อุบายหลอกล่อให้อีกฝ่ายติดกับ ทั้งยังทำให้คนอื่นอยากจะรู้สึกขอบคุณในการกระทำของเขา…มันทำให้ข้านึกถึงผู้ใดบางคนขึ้นมา”

ราชครูมองไปที่เขา

ใต้เท้าตู้ส่งสายตากลับเป็นนัยว่าท่านไม่มีทางเดาถูกเป็นแน่

ราชครูกล่าวว่า “ราชบุตรเขย”

อาณาจักรหนานจ้าวมีตี้จีอยู่สองพระองค์ ตี้จีองค์โตได้แยกตัวออกจากหนานจ้าวไปนานแล้ว ราชบุตรเขยที่ใต้เท้าตู้หมายถึงคือพระสวามีของตี้จีองค์เล็ก เขาไม่ใช่คนหนานจ้าว ในคราแรกองค์ประมุขทรงไม่เห็นด้วยที่จะให้เขาอภิเษกกับตี้จีองค์เล็ก ตี้จีองค์เล็กยืนกรานจะอภิเษกกับเขาต่อให้ต้องสละบัลลังก์ องค์ประมุขจึงทรงไม่พอพระทัยอย่างยิ่ง พระองค์ไม่ได้เอ่ยถึงการแต่งตั้งว่าที่กษัตริย์มานานกว่าสิบปี จนกระทั่งตี้จีองค์เล็กได้รับของศักดิ์สิทธิ์มา พิสูจน์ว่าตนเองเป็นคนแห่งสวรรค์ ในที่สุดองค์ประมุขก็ทรงแต่งตั้งให้ตี้จีองค์เล็กเป็นประมุขหญิง

ราชบุตรเขยเป็นทั้งพระสวามีของตี้จีองค์เล็ก และยังเป็นที่ปรึกษาของเขา เยี่ยนจิ่วเฉาล้อมกรอบพวกเขาไว้ในวันนี้ ช่างคล้ายคลึงกับวิธีการของราชบุตรเขยในยามนั้นอย่างอธิบายไม่ได้

ใต้เท้าตู้ใช้วิธีการของราชบุตรเขยจนกลายมาเป็นคนสนิทของตี้จีองค์เล็ก แต่ไม่รู้ว่าราชครูจะใช่หรือไม่ เขาเองก็ไม่รู้ และไม่กล้าถามเช่นกัน

เห้อเหลียนฉีถูกซุ่มโจมตีจากสัตว์ร้ายในเขตล่าสัตว์ แม้ว่าทูตแห่งหนานจ้าวจะไม่ได้ถามหาความรับผิดชอบจากราชวงศ์ต้าโจว ทว่าฮ่องเต้ก็ยังทรงรู้สึกผิดและเสียพระทัยอยู่บ้าง พระองค์เสด็จไปยังตำหนักรับรองเพื่อเยี่ยมเยียนเห้อเหลียนฉีที่อยู่ในสภาพน่าเวทนาด้วยองค์เอง และให้หมอหลวงที่เชี่ยวชาญสองสามคนคอยอยู่ดูแล และยังสัญญากับทูตแห่งหนานจ้าวว่า พระองค์จะพยายามหายามารักษาเห้อเหลียนฉีอย่างเต็มที่ ไม่ว่าต้องใช้ยามากเพียงใดก็ตาม

ไม่ใช่ว่าฮ่องเต้ไม่สงสัยว่าเหตุการณ์นี้อาจมีเรื่องภายในบางอย่าง ทว่าทหารรักษาพระองค์สืบไม่พบเบาะแสใดๆ ในป่าแห่งนั้น

มีข่าวมาถึงพระกรรณว่าเห้อเหลียนฉีเคยไปก่อเรื่องวุ่นวายที่หอจุ้ยเซียน และมีใครบางคนทำร้ายเขา เขาเดาว่าคงเป็นเยี่ยนจิ่วเฉา และยังได้ยินมาอีกว่าเยี่ยนจิ่วเฉาเคยไปตามหาเห้อเหลียนฉีที่หอนางโลม ไปตามหาด้วยเหตุใด? แน่นอนว่าคงเป็นเพราะชุดเกราะของเซียวเจิ้นถิง ฮ่องเต้คิดว่าเยี่ยนจิ่วเฉาหาได้มีความรู้สึกอันใดกับเซียวเจิ้นถิงนอกจากความคับแค้นใจ ทว่ายามนี้เขาขัดแย้งกับทูตหนานจ้าวเพราะชุดเกราะของเซียวเจิ้นถิง จิตใจของฮ่องเต้พลันรู้สึกริษยาเล็กน้อย

แน่นอนสิ่งเหล่านี้หาได้หมายความว่าการบาดเจ็บของเห้อเหลียนฉีเกิดจากบิดาเลี้ยงกับบุตรชาย วันนี้เซียวเจิ้นถิงไม่ได้มาที่เขตล่าสัตว์เสียด้วยซ้ำ และต่อให้มาเขาก็ไม่มีทางใช้วิธีลอบกัดทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้ ทว่าหากเป็นเจ้าเด็กตัวเหม็นผู้นั้นก็ไม่แน่ แต่เห็นชัดเจนว่าเขาเลือกม้าซูบผอมตัวนั้น จะไล่ตามผู้ใดทัน? แล้วองครักษ์มืดสองคนข้างกายของเขา ก็ได้ยินมาว่าเป็นหน่วยกล้าตายที่ยอมแพ้กลางคัน แมวสามขาเช่นนี้หรือจะเอาชนะแม่ทัพแห่งหนานจ้าวได้?

แต่ต้องบอกว่า ครึ่งหน่วยกล้าตายก็ยังเป็นหน่วยกล้าตายอยู่ดี หากพวกเขาไม่อาจเอาชนะเห้อเหลียนฉีได้ สัตว์เพียงไม่กี่ตัวจะทำร้ายเห้อเหลียนฉีได้อย่างไร?

ต่อให้ฮ่องเต้คิดใคร่ครวญอย่างไรก็ไม่อาจเดาได้ว่าเห้อเหลียนฉีถูกบุตรชายตะกร้าสานสองคนของเขาทำร้าย

ในเมื่อทูตหนานจ้าวเชื่อว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ฮ่องเต้จึงไม่ต้องการหาเหาใส่หัวเพิ่ม กล่าวตำหนิตนเองเป็นพิธีรีตอง ก่อนจะนั่งราชรถกลับตำหนักไป

คืนนั้นราชครูมาที่ห้องของเห้อเหลียนฉี

“ท่านอาจารย์ ยาอายุวัฒนะที่ท่านต้องการ” หวั่นเฟิงถือยาอุ่นๆ ไปที่หน้าของราชครู

ราชครูมองเห้อเหลียนฉีด้วยสีหน้าว่างเปล่าและเอ่ยว่า “ป้อนยาเขา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]