“อาม่า!”
อาเว่ยกลับไปที่บ้านของเขา
การสัมผัสรู้ของอิ่งสือซันนั้นไม่น้อยเลย เมื่อครู่เขาเกือบจะรู้ว่าอาเว่ยอยู่ที่นั่น แน่นอนว่าอาเว่ยไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง เขาแค่มาส่งลูกศิษย์กลับบ้าน ผู้ใดจะคิดว่าจะได้ยินข่าวเด็ดเช่นนี้
“อาม่า อาม่า ฟังข้านะ!” อาเว่ยเดินเข้าไปในห้องของชายชรา ขัดจังหวะเขาที่กำลังเตรียมบทเรียน
ชายชราวางตำราอาขยานจีนโบราณลงอย่างไม่แยแส พลางเหลือบมองอาเว่ย “เจ้าคิดจะทำสิ่งใดอีก?”
ตั้งแต่เด็กคนนี้มาที่หมู่บ้านเหลียนฮวาก็ไม่เคยทำเรื่องดีสักเรื่อง ให้ไปจับคนมาก็จับไม่ได้ (อวี๋หวั่น) ทุบคนที่ไม่ควรขยับจนเป็นหัวหมู (ราชครู) ชายชรานึกเสียใจที่พาเขาออกมาด้วย
อาเว่ยรู้ว่าตนเองก่อปัญหา จึงมักมองหาโอกาสมาชดเชยสิ่งที่เขาทำ และเขาก็พบแล้วมิใช่หรือ?
“อาม่า ข้าได้ยินข่าวใหญ่!”
อาเว่ยยืดอก เล่าเรื่องที่เขาได้ยินมาจากบ้านสกุลอวี๋ “…ที่แท้เขาก็ถูกพิษตู๋โจ้วแห่งหนานเจียง ไม่แปลกใจที่เชิญปรมาจารย์พิษไปถอนพิษ แล้วยังถูกพิษไป๋หลี่เซียงอีก…ฟังน้ำเสียงของคนผู้นั้น ดูเหมือนว่าพิษตู๋โจ้วจะถูกรักษาไปแล้ว…แปลกจริง ปรมาจารย์พิษเส็งเคร็งนั่นยังสามารถถอนพิษตู๋โจ้วที่ทรงพลังได้…”
อาเว่ยพยายามหาคำมาพูด
ชายชราต้องจับประเด็นสำคัญจากคำพูดของเขามารวมกับการคาดเดา จึงทราบคร่าวๆ ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เยี่ยนจิ่วเฉาถูกพิษตู๋โจ้วและไป๋หลี่เซียง พิษทั้งสองยับยั้งกัน หลายปีมานี้จึงไม่มีอาการใดๆ แต่ก่อนหน้านี้ไม่นานพิษตู๋โจ้วได้ถูกถอนออกไปแล้ว อาการพิษของไป๋หลี่เซียงจึงระเบิดออกมา
พิษตู๋โจ้วต้องแก้อย่างไร ชายชรารู้ดีกว่าอาเว่ย
หากบอกว่าครั้งแรกเขาคิดผิด เช่นนั้นหลังจากติดต่อกับอวี๋หวั่นมาหลายครั้ง ความรู้สึกของเขาย่อมไม่มีทางผิดพลาด บวกกับการถอนพิษตู๋โจ้วแห่งหนานเจียง ชายชราก็เกือบจะสรุปได้ว่าราชันสัตว์พิษในมือของอวี๋หวั่น คือของศักดิ์สิทธิ์แห่งหนานจ้าวที่พวกเขามอบเป็นของขวัญหมั้น
ดังนั้นโชคชะตาจึงเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมาก เพื่อให้ได้มาซึ่งของศักดิ์สิทธิ์ ราชวงศ์หนานจ้าวก็ไม่ลังเลที่จะขายตี้จีองค์โต แต่ผลที่ได้กลับแปรเปลี่ยน ของศักดิ์สิทธิ์กลับมาตกอยู่ในมือบุตรสาวของตี้จีองค์โตเสียแทน
บางทีนี่อาจเป็นกรรมสนองกรรมจริงๆ
จู่ๆ ชายชราก็อยากเห็นสีหน้าของคนเหล่านั้นหลังจากรู้ความจริง
“อาม่า ท่านฟังข้าอยู่หรือไม่?” อาเว่ยถามเขา
ชายชราไม่ตอบคำถาม แต่กลับเรียกชิงเหยียนเข้ามา
“อาม่า ท่านเรียกข้ารึ” ชิงเหยียนเดินเข้ามาในห้อง
ชายชราถามเขาว่า “เราได้เงินมาเท่าใดแล้ว?”
ชิงเหยียนครุ่นคิดสักพักและเอ่ยว่า “ห้าสิบตำลึง”
อาเว่ยได้มาสามสิบตำลึง อีกยี่สิบตำลึงที่เหลือพวกเขาสามคนช่วยกันหา
เงินเดือนของพวกเขาคือสามตำลึง เงินเดือนของอาเว่ยคือสิบตำลึง รวมกับที่พวกเขาขุดเหมืองนอกเวลา (อาเว่ยขุดมากที่สุด)
ชิงเหยียนกล่าวว่า “อาม่า หากหาได้อีกสองเดือน นั่นน่าจะเพียงพอให้เราได้กลับบ้าน”
ชายชรากล่าวว่า “ไม่ต้อง ข้าคิดวิธีที่ดีกว่านี้ออกแล้ว”
หนึ่งในแปดชั่วยามต่อมา อวี๋หวั่นได้รับคำเชิญจากอาเว่ย
ครอบครัวของอาเว่ยทำงานให้สกุลอวี๋ ชายชราเป็นครูประจำหมู่บ้าน อาเว่ยเป็นอาจารย์ของไข่ดำทั้งสาม ชิงเหยียนเป็นนักบัญชีและเยว่โกวชำนาญด้านการขุดเหมือง อวี๋หวั่นเชื่อใจครอบครัวนี้มาก เมื่ออาเว่ยเชิญเธอไป เธอก็ไปโดยไม่ถามหาเหตุผล
เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าประโยคแรกที่ชายชราเอ่ยกับเธอคือ “พิษของไป๋หลี่เซียงมิใช่จะถอนได้ง่ายๆ”
อวี๋หวั่นถึงกับผงะและมองไปที่คนทั้งสี่ด้วยความแปลกใจ
อาเว่ยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แค่เสียงของพวกเจ้าดังเกินไป!”
การสัมผัสรู้ของอิ่งสือซันไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล ยามนั้นมิได้มีเพียงบุตรชายของเธอที่อยู่ด้านนอก ทว่ายังมีอาเว่ยด้วย
แต่อีกฝ่ายก็แสนซื่อจนอวี๋หวั่นไม่รู้จะพูดเช่นไรดี
ชายชราเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “กล่าวตรงๆ แบบไม่ปิดบัง พวกเราหาใช่คนในจงหยวน เราแอบเข้ามาที่จงหยวนเพราะมีภารกิจ โปรดยกโทษให้ข้าที่ไม่อาจเปิดเผยภารกิจได้ ข้ารู้วิธีล้างพิษไป๋หลี่เซียง หากเจ้าไม่รังเกียจ ข้าช่วยเจ้าได้ ทว่าพวกเราต้องการเงินตอบแทนจำนวนหนึ่ง”
อวี๋หวั่นมองออกตั้งแต่แรกว่าครอบครัวนี้ไม่ใช่คนธรรมดา แต่พวกเขาเป็นคนดี เธอจึงไม่ได้ใส่ใจกับที่มาของพวกเขา เช่นเดียวกับเยี่ยนจิ่วเฉา เมื่อเทียบกับความตกใจที่พวกเขามาสารภาพเช่นนี้ อวี๋หวั่นประหลาดใจกับสองประโยคสุดท้ายมากกว่า “ท่านสามารถถอนพิษไป๋หลี่เซียงได้จริงหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]