หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 18

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 18.1 พ่อลูกพบหน้า (1)
บทที่ 18 พ่อลูกพบหน้า (1)
โดย
Ink Stone_Romance

อย่างนั้นก็หมายความว่าท่านพ่อของเธอจะกลับมาใช่ไหม?

ครั้งก่อนส่งของไปให้เขา ก็ไม่ได้รับข่าวคราวกลับมาแต่อย่างใด ไม่รู้ว่าเขาได้รับแล้วหรือไม่ คนสกุลอวี๋แม้จะไม่มีใครเอ่ยปาก แต่อวี๋หวั่นก็ดูออกว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าพ่อของเธอจะยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรเสียชายฉกรรจ์ที่ถูกจับจากหมู่บ้านนี้ไปเข้ากองทัพ นอกจากสามีของแม่หม้ายหลิวและลูกชายของป้าหลัวแล้ว ก็เหลือแค่พ่อของเธอเพียงคนเดียวที่ยังไม่เคยมีข่าวคราวส่งมา

ไม่ว่าอย่างไร ตราบใดที่ยังไม่เห็นป้ายเหล็กของพ่อ อวี๋หวั่นก็เชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่

นายท่านฉินพูดประโยคสุดท้ายจบก็นั่งรถม้าออกไป

อวี๋หวั่นยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับท่านแม่และคนสกุลอวี๋ เธอคิดว่าเธอจะต้องเข้าเมืองหลวง ไปสืบความด้วยตัวเองสักหน่อยว่าเรื่องนี้จริงหรือเท็จ

ประจวบเหมาะกับที่เธอตกลงธุรกิจกับนายท่านฉินเป็นที่เรียบร้อย ภาชนะที่ใช้บรรจุเต้าหู้เหม็นและเต้าหู้ยี้มีไม่เพียงพอ เธอจึงถือโอกาสเข้าตำบลไปซื้อ

“ลุงใหญ่ ท่านอย่าลืมกินยานะ” ก่อนออกมาจากบ้านเดิม อวี๋หวั่นแวะไปเตือนลุงใหญ่ในครัวรอบหนึ่ง

ลุงใหญ่ซึ่งกำลังศึกษาสูตรอาหารอย่างคร่ำเคร่งก็พยักหน้า “ข้าไม่ลืมหรอก!”

“ข้าจะออกไปข้างนอก” อวี๋หวั่นบอก

“จะกินข้าวแล้ว เจ้าจะไปไหนหรือ?” ลุงใหญ่เอ่ยถาม

อวี๋หวั่นหลบเลี่ยงเหตุผลหลัก และบอกเหตุผลรองไป “ไปซื้อโหลในตำบล ที่บ้านมีโหลไม่พอใช้แล้ว ข้าว่าจะไปสั่งเพิ่มสักห้าร้อยใบ”

พูดถึงตรงนี้ ลุงใหญ่ก็นึกได้ “ที่ลานบ้านไม่พอใช้แล้ว ให้บ้านป้าหลัวยืมไปหมด ข้ากำลังคิดว่า ขายสินค้าชุดนี้ให้หมดก่อน แล้วเจ้าจะขยายลานบ้านหรือไม่?”

โรงงานของพวกเขามีอาหารกลางวันเลี้ยง ป้าหลัวเป็นคนทำ และกินที่บ้านป้าหลัว แต่ว่าทุกวันนี้ไม่ได้มีเพียงปัญหาเรื่องอาหารเท่านั้น เครื่องโม่แค่สี่เครื่องก็กินพื้นที่ลานบ้านจนแทบขยับตัวไม่ได้แล้ว

อวี๋หวั่นก็สังเกตเห็นเช่นกัน เพียงแต่ว่าวันนี้ชาวบ้านล้วนแต่พักผ่อน ในบ้านก็ว่างเปล่า เธอยังไม่ได้คิดเรื่องนี้จริงจัง “ข้าจะขยายออกไป ท่านลุงใหญ่มีความคิดดีๆ หรือไม่?”

ลุงใหญ่ยิ้มพลางกล่าวว่า “พี่ใหญ่เจ้ารู้จักคนเยอะ หากจะขยาย ประเดี๋ยวก็ให้เขาไปหาคนมา”

“ได้เจ้าค่ะ”

ลุงใหญ่พูดต่อ “กินข้าวกลางวันก่อนแล้วค่อยไปเถิด”

“ไม่ได้หรอก” อวี๋หวั่นหยิบอัวอัวโถวที่เมื่อเช้ากินเหลือ “ข้าจะรีบไปรีบกลับ!”

ลุงใหญ่ยังพูดไม่ทันจบ อวี๋หวั่นก็แวบหายไปราวกับควันจนลุงใหญ่ตกใจ “แกล้งข้าที่ขาแข้งไม่ดีใช่ไหมเนี่ย? เถี่ยตั้น!”

“ขอรับ! ท่านลุงใหญ่!” เถี่ยตั้นน้อยที่กำลังนั่งยองแอบกินขนมอยู่ที่พื้น ปัดเศษขนมที่ปาก แล้ววิ่งมาอย่างแนบเนียน “มีอะไรหรือขอรับ?”

ลุงใหญ่ตัดเนื้อสามชั้นต้มพะโล้ แล้วใช้กระดาษไขห่อ “เอาไปให้พี่สาวเจ้าเร็ว!”

“อ้อ” เถี่ยตั้นน้อยรับเนื้อชิ้นนั้น มาแล้ววิ่งเตาะแตะออกจากบ้านไป “ท่านพี่ๆ! ”

อวี๋หวั่นซึ่งกำลังงับหมั่นโถวอยู่หันหลังกลับมา “มีอะไรหรือ? ”

“ท่านลุงใหญ่ให้ข้าเอามาให้” เถี่ยตั้นน้อยส่งเนื้อสามชั้นไปตรงหน้าของอวี๋หวั่น “ท่านจะออกไปข้างนอกอีกแล้วหรือ? ไม่พาข้าไปด้วยอีกแล้ว!”

เด็กน้อยเอ๊ย ชอบเดินทางมากหรือไง?

อวี๋หวั่นใช้ปลายนิ้วจิ้มหน้าผากของเขา “พี่ไปทำธุระ ไม่ได้ไปเที่ยว”

“ข้าอยากไป” เถี่ยตั้นน้อยบอก

อวี๋หวั่นจึงขู่ว่า “พี่ไม่ได้นั่งเกวียนไป เจ้าเดินไหวหรือ?”

เถี่ยตั้นน้อยเหยียดหลังตรง ตอบว่า “เดินไหวซี่! ข้าเดินไหวแน่นอน!”

สิบหลี่เชียวนะเจ้าเด็กบ๊อง!

ไม่ใช่งานใหญ่ พาเถี่ยตั้นน้อยไปด้วยไม่นับว่าเป็นปัญหา เพียงแต่เธอออกจะรู้สึกผิดกับน้องชายไปสักหน่อย จึงเช่าเกวียนจากบ้านซวนจื่อให้เขา

เกวียนเทียมวัวนั้นช้ากว่าความเร็วที่เธอเดิน กว่าจะถึงตัวตำบลเหลียนฮวาก็ย่างเข้าช่วงบ่ายแล้ว ไม่มีเวลาแวะซื้อโถ อวี๋หวั่นจึงตรงไปเช่ารถม้าเข้าเมืองหลวง

วันนี้เมืองหลวงคึกคักกว่าที่ผ่านมา บนถนนสายหลักมีผู้ตรวจการจำนวนมาก ในร้านอาหารเต็มไปด้วยลูกค้า ดูแล้วคล้ายกับว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

“รู้หรือยัง? ซยงหนูแพ้แล้ว!”

เมื่อเดินผ่านโรงน้ำชาโรงหนึ่ง อวี๋หวั่นก็ได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกันดังออกมาจากด้านใน

อวี๋หวั่นหยุดฝีเท้าลง แล้วดึงเถี่ยตั้นน้อยไปยืนอยู่ริมหน้าต่าง

“ท่านพี่?” เถี่ยตั้นน้อยเงยหน้ามองด้วยความสงสัย

อวี๋หวั่นยกนิ้วชี้ขึ้นมาทำท่าทางบอกให้เขาเงียบ เถี่ยตั้นน้อยก็เงียบอย่างรู้ความ

“แพ้จริงๆ หรือ?”

“จะเป็นข่าวปลอมไปได้อย่างไร? แม่ทัพใหญ่เซียวออกโรงเองเชียว! ฉายาเทพแห่งสงครามไม่ใช่เพียงคำโอ้อวด!”

เซียวเจิ้นถิงแม่ทัพใหญ่ในแห่งใต้หล้า อยู่ในสนามรบมาครึ่งค่อนชีวิต แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยพบกับรสชาติของความพ่ายแพ้ จนผู้คนให้สมญานามว่า ‘เทพสงครามเซียว’ อวี๋หวั่นไม่ได้มาเมืองหลวงหลายครั้งโดยเปล่าประโยชน์ เรื่องของเทพสงครามเซียว เธอย่อมรู้มาบ้าง ได้ยินว่าเขาเป็นลูกของภรรยาคนที่สอง แต่งงานกับพระชายาของเยี่ยนอ๋อง ผู้ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของเยี่ยนจิ่วเฉา

มิน่าเล่า ครั้งก่อนในจวนจิงจ้าว พระชายาให้เธอพาเด็กน้อยสามคนไปที่จวนสกุลเซียวอะไรสักอย่าง

จากนั้นก็มีเสียงดังมาจากชั้นสองของโรงน้ำชา

“แต่ข้าได้ยินมาว่า ที่ชนะซยงหนูได้รวดเร็วเช่นนี้ เป็นเพราะมีคนจับสายลับที่โยวโจวได้ จึงโต้กลับกองทัพซยงหนูได้ทันควัน”

“ไม่ใช่สักหน่อย มีรายชื่อสายลับต่างหากเล่า หลังจากแม่ทัพใหญ่เซียวได้รายชื่อนั้นมา จึงคะเนดู แล้วปล่อยแผนปลอมให้สายลับ ทัพซยงหนูจึงพ่ายแพ้ยับเยิน”

“ไม่เหมือนกันหรืออย่างไร!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]