นายท่านรองเป็นน้องชายแท้ๆ ของนายท่านใหญ่ นายท่านใหญ่ล่วงลับไปเร็วนัก ฮูหยินผู้เฒ่าก็เสียสติ เขาจึงกลายเป็นผู้ใหญ่ที่คนสกุลเห้อเหลียนต่างนับถือและยกย่อง ทั้งยังเป็นท่านอาที่เห้อเหลียนเป่ยหมิงให้ความเคารพเป็นอย่างมาก
สายตาเฉียบแหลมของนายท่านรองกวาดไปยังเยี่ยนจิ่วเฉาและอวี๋หวั่น
อวี๋หวั่นยอมรับว่าสายตาของเขาน่ากลัวและมีพลังเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาไม่เคยเผชิญโลก เธอเคยพบฮ่องเต้และเทพสงครามของทั้งสองดินแดนมาแล้ว เธอจะตกใจกลัวคนง่ายๆ ได้อย่างไรกัน?
ส่วนเยี่ยนจิ่วเฉานั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้ปกป้องภรรยาด้วยการให้อวี๋หวั่นไปยืนด้านหลังอย่างที่คนอื่นทำด้วยซ้ำไป บางทีอาจเป็นเพราะในความคิดของเขา ลุงเฒ่าคนนี้ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว
นายท่านรองหนังตากระตุกเล็กน้อย
คู่สามีภรรยาจากชนบท ไม่สะทกสะท้านกับความน่าเกรงขามของเขาเลยหรือ?
“ท่านปู่——”
“ท่านพ่อ——”
เห้อเหลียนเฉิงและนางหลี่ร้องห่มร้องไห้ ส่วนเห้อเหลียนอวี่แม้จะไม่ได้ร้องไห้งอแง แต่ใบหน้าเศร้าสร้อยกลับบอกความในใจของเขาได้
หลานของเขาถูกคู่สามีภรรยาที่มาใหม่รังแกจนสะบักสะบอม ในฐานะผู้เป็นที่เคารพนับถือของครอบครัว จะไม่ออกหน้าทวงคืนความยุติธรรมสักหน่อยก็เห็นจะไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่นับเรื่องที่เด็กๆ ทะเลาะกันแล้ว อวี๋หวั่นก็ยังฝากฝ่ามือเอาไว้บนใบหน้าของนางหลี่ด้วย
มีที่ไหนกัน เด็กลงไม้ลงมือกับผู้ใหญ่? ใต้หล้าไม่มีหลักการเช่นนี้!
ทว่านายท่านรองยังไม่ทันได้เอ่ยปากตำหนิ ฮูหยินผู้เฒ่าก็มาถึงแล้ว
“ไอ้หยา!”
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าเห็นสองพี่น้องซึ่งถูกเล่นงานจนหน้าบวมเป็นหัวหมู “พวกเจ้า ทำไมพวกเจ้าถึงเป็นอย่างนี้? ใครทุบตีพวกเจ้า?”
ปกติแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าเอ็นดูหลานๆ เหล่านี้มาก เมื่อสองพี่น้องเห็นว่านางถามเช่นนี้ จึงรีบเข้าไปฟ้อง “เป็นเขาขอรับ!”
“เฉาเอ๋อร์?” ฮูหยินผู้เฒ่าดันสาวใช้ซึ่งกำลังพยุงนางออก แล้วเดินไปหาเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างมั่นคง ปราศจากท่าทางอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง นางคว้ามือของเยี่ยนจิ่วเฉา “ไอ้หยา ทำไมเจ้ายังขยับมืออีกเล่า? เจ็บหรือไม่? ฟู่ๆๆๆ…”
นางเป่าให้เยี่ยนจิ่วเฉา
เห้อเหลียนอวี่อ้าปากค้าง “…”
เห้อเหลียนเฉิงตะลึงงัน “…”
หลังจากนี้ก็เป็นศึกของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว
ฮูหยินผู้เฒ่าชี้ไปยังนายท่านรองและคนอื่นๆ นางร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล “พี่ใหญ่เจ้าจากไปเร็วนัก! เหลือเพียงแต่ลูกๆ และแม่หม้ายอย่างข้า…พวกข้ารังแกง่ายนักใช่ไหม? กว่าข้าจะพาหลานกลับบ้านมาได้นั้นยากแสนยาก เข้าบ้านมาวันแรกก็ถูกพวกเจ้ารังแกเสียแล้ว!”
เห้อเหลียนอวี่และเห้อเหลียนเฉิง “!!”
ใครรังแกใครกันแน่?!
“พวกเขาเพียงแค่ประจบประแจงข้าใช่ไหม? หนิวตั้น…” ฮูหยินผู้เฒ่าทรุดลงกับพื้น “ทำไมเจ้าไม่พาข้าไปด้วยให้รู้แล้วรู้รอด…ทิ้งข้าไว้ในจวนให้ขวางหูขวางตา…แม้แต่หลานยังถูกรังแก…พวกเขารังแกหลานข้า…ก็เหมือนกับรังแกข้า…ข้าอายุมากแล้ว…ถูกพวกเขารังเกียจ…”
อวี๋หวั่นรู้สึกงงเพราะคำว่าหนิวตั้น หากเธอเดาไม่ผิด บิดาของเห้อเหลียนเป่ยหมิง…คงจะมีชื่อเล่นว่าหนิวตั้นสินะ…
เมื่อได้รู้ชื่อเล่นอันแสนไพเราะเช่นนี้ เธอก็รู้สึกได้ทันทีว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวได้พัฒนาไปอีกขั้น!
ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้แสดงละครเสแสร้งแต่อย่างใด นางจริงจัง นางรู้สึกว่าหลานของนางถูกรังแก อันที่จริงสองพี่น้องเห้อเหลียนอวี่และเห้อเหลียนเฉิงทำเช่นนี้ ก็เพียงเพื่อประกาศศักดาให้เยี่ยนจิ่วเฉารู้เท่านั้น
นางหลี่ไม่อาจทนดูต่อไปได้ จึงเตือนฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านดูสิเจ้าคะ อวี่เอ๋อร์และเฉิงเอ๋อร์บาดเจ็บ…”
ฮูหยินผู้เฒ่าตวาดลั่น “ข้าไม่สนๆๆ! พวกเจ้ารังแกหลานชายคนเก่งของข้า!”
นางบ้าไปแล้วจริงๆ!
นางสนใจแต่เรื่องนี้เนี่ยนะ!
นางไม่เห็นด้วยซ้ำไป!
นางหลี่อยากจะกระอักเลือด
ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นภรรยาของนายท่านใหญ่ อายุมากแล้ว สติเลอะเลือน นางโวยวายก็ย่อมมีเหตุผลอธิบาย แต่พวกเขาทำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ก็จะกลายเป็นพวกเขารังแกคนชราที่อ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นหลายปีมานี้เห้อเหลียนเป่ยหมิงเสียสละให้แผ่นดินมามาก พวกเขาไม่อาจทำให้มารดาบังเกิดเกล้าของเขาต้องชอกช้ำ อย่างน้อยต่อหน้าย่อมไม่อาจทำได้
นายท่านรองสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความโกรธซึ่งทำให้เส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบๆ เขาบอกกับฮูหยินผู้เฒ่าว่า “พี่สะใภ้พูดถึงอะไร? ข้าจะไปคิดเช่นนั้นได้อย่างไร? เป็นเพราะอวี่เอ๋อร์และเฉิงเอ๋อร์ไม่รู้ความเองไม่ใช่หรือ? ข้ากำลังคิดว่าจะขอโทษเฉาเอ๋อร์พอดี”
“ท่านปู่!” เห้อเหลียนอวี่และเห้อเหลียนเฉิงร้องขึ้นพร้อมกัน พวกเขาแทบไม่เชื่อหูตนเอง
“เงียบ!” นายท่านรองตวาดให้ทั้งสองหยุด “ยังไม่ขอโทษลูกพี่ลูกน้องพวกเจ้าอีก? หรือจะให้ข้าใช้กฎของตระกูล?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]