หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 2

ทุกคนชะงักไป เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ…ถึงได้มี… แกะน้อยตัวหนึ่งมาอยู่บนสนามได้?

แม้ว่าบัณฑิตซึ่งมาดูเหตุการณ์ก่อนหน้านี้จะมีจำนวนไม่น้อยที่เรียนวรยุทธ์ แต่พวกเขาก็เป็นเพียงบัณฑิตผอมแห้งไร้แม้แต่แรงจะเชือดไก่ พวกเขามาที่สนามประลองแห่งนี้เพียงเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และพวกเขานั่งอยู่ห่างจากสนามประลองหลายจั้ง เพื่อความปลอดภัยของตนเอง

แต่เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายเหล่านั้นวิ่งออกมา โดยรอบของสนามประลองก็มีตาข่ายเหล็กสูงขึงเอาไว้ ฝั่งตะวันออกของตาข่ายเหล็กมีช่องใช้เพื่อเป็นทางเข้าสำหรับสัตว์ของต้าโจว ทว่าสัตว์ของเผ่าศักดิ์สิทธิ์กลับถูกขังอยู่ในกรงตรงกลางที่สุดของสนาม

อาจารย์สอนวิชาควบคุมสัตว์อยู่ด้านในตาข่ายเหล็ก อยู่ใกล้กับสนามประลองพอสมควร แต่ก็ไม่นับว่าใกล้มาก

แต่ว่า เมื่อเทียบกับเหล่าเจี้ยนเซิงซึ่งอยู่ไกลออกไปแล้ว เขานับว่าเห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจนกว่ามาก กระนั้นแล้วเขาก็ยังไม่เข้าใจ ว่าเจ้าแกะน้อยตัวนี้คลานเข้ามาได้อย่างไร

คนต้าโจวคงไม่ได้เห็นว่าใช้เสือสู้ยังไม่ชนะ จึงประชดโดยการส่งแกะมาบวงสรวงหรอกใช่ไหม?

แกะตัวเล็กเช่นนี้ คงเป็นลูกแกะกระมัง แต่เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่าลูกแกะตัวนี้แปลกประหลาดเหลือเกิน

อาจารย์สอนฝึกสัตว์กะพริบตาปริบๆ

อันที่จริงสายตาของเขาไม่ค่อยดี มองระยะไกลค่อนข้างพร่ามัว เผ่าศักดิ์สิทธิ์มีแก้วชนิดหนึ่ง ไว้ใช้สำหรับขยายภาพของสิ่งของ แต่น่าเสียดายที่วันนี้เขาไม่ได้นำติดตัวมาด้วย

สิ่งเดียวที่เขามีในตอนนี้คือสายตาที่ออกจะย่ำแย่ไปสักหน่อย ทั้งยังมองจากระยะไกลไปบนสนามประลอง เพราะฉะนั้นผ่านไปพักใหญ่ ก็ยังไม่มีผู้ใดมองออกว่านั่นคือทารกที่สวม ‘ขนแกะ’

แต่ต่อให้ไม่รู้ว่าเป็นทารก อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่านั่นคือลูกแกะ ลูกแกะต่อสู้กับแมวดาวที่ดุร้าย จบกัน จบสิ้นแล้ว

ผู้คนรอบสนามประลองต่างรู้สึกเห็นใจ เสือสู้กับแมวดาว นับเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ที่แข็งแกร่ง แต่แกะน้อยต่อสู้กับแมวดาว ก็ไม่ต่างอะไรกับการยื่นก้อนเนื้อเข้าปากเสือ ผู้คนล้วนทนดูไม่ได้ ในตอนนั้นเอง แมวดาวก็เห็นเยี่ยนเสี่ยวซื่อ

และเยี่ยนเสี่ยวซื่อก็เห็นแมวดาวเช่นกัน!

อาจเป็นเพราะไม่ได้เห็นเหยื่อที่เนื้อนุุ่มน่าลิ้มลองเช่นนี้มานาน แมวดาวจึงน้ำลายสอ

ทว่าสิ่งที่ทำให้แมวดาวสับสนก็คือ เหตุใดเหยื่อของมันก็น้ำลายไหลเล่า?

“อุว้าว้า!”

เยี่ยนเสี่ยวซื่อคลานเข้าไปหาแมวดาวด้วยความตื่นเต้น

แมวดาวกระโดด อ้าปากกว้างพร้อมขย้ำเยี่ยนเสี่ยวซื่อ

ด้านนอกสนามประลอง ผู้คนต่างหน้าซีดเผือด!

ขณะที่ทุกคนคิดว่าเยี่ยนเสี่ยวซื่อกำลังจะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของแมวดาวนั้นเอง ก็พบว่าแมวดาวจอมเหี้ยมโหดตัวนี้ ถูกเยี่ยนเสี่ยวซื่อปัดกระเด็นไปแล้ว!

แมวดาว “…”

ทุกคน “…”

เยี่ยนเสี่ยวซื่อ “…”

“แอ้?” เยี่ยนเสี่ยวซื่อนั่งอยู่ที่พื้น เงยหน้าขึ้นมองหาแมวดาว

เมื่อครู่มีแมลงมาบินอยู่ข้างหู นางยกมือขึ้นปัด จากนั้นก็เผลอไปปัดแมวดาวจนลอยหายไปแล้ว!

“อุแอ๊?” เยี่ยนเสี่ยวซื่อแบมือด้วยความตกใจ

เยี่ยนเสี่ยวซื่อหันหลังให้สนามประลอง จึงไม่มีผู้ใดเห็นหน้าของนาง แต่นั่นก็มิได้มีผลกระทบต่ออารมณ์ ของพวกเขา ทุกคนล้วนหายใจเข้าเฮือกหนึ่งด้วยความตกใจ!

เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกัน?

แมวดาวตัวนั้นจัดการเสือสามตัวในคราวเดียว แต่กลับถูกลูกแกะตัวหนึ่งปัดจนกระเด็นเนี่ยนะ?

“แต่ว่า พวกเจ้าเห็นไหม นั่นไม่ใช่ลูกแกะ พวกเจ้าเคยเห็นลูกแกะคลานเช่นนี้หรือ?” เจี้ยนเซิงคนหนึ่งพูดสิ่งที่ตนเองคิดออกมา

เจี้ยนเซิงซึ่งอยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล นั่นสินะ ลูกแกะคลอดออกมาก็เดินได้แล้ว พวกมันยืนได้ แต่เจ้าลูกแกะบนเวทีกลับคลาน

“ข้าๆๆ…ข้าคิดว่ามันเหมือนเด็กทารก” เจี้ยนเซิงอีกคนหนึ่งพูด

เดิมทีผู้คนต่างคิดว่า ‘ลูกแกะคลาน’ นั้นน่าขันสิ้นดี แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของเขา ก็เข้าใจทันทีว่าสิ่งที่น่าขันนั้นคืออะไร

ทารกที่ไหนกันจะปัดแมวดาวกระเด็นได้ในฝ่ามือเดียว เมื่อเทียบกับเรื่องนี้ พวกเขายอมเชื่อว่าบนโลกนี้มีลูกแกะที่คลานแทนการเดินยังจะดีเสียกว่า

เพียงแต่ว่าทุกคนลืมคิดไปว่า ลูกแกะคลาน ก็ยังเป็นแกะ แกะที่ไหนจะมีพลังแข็งแกร่งเช่นนี้เล่า

ฝูงชนต่างรู้สึกราวกับถูกสะกดอยู่ในมนตร์เสน่ห์ของเยี่ยนเสี่ยวซื่อ

เยี่ยนเสี่ยวซื่อคลานต่อไป ก้นอ้วนๆ ของนางดูราวกับเป็นหางของลูกแกะ เดินไปขยับไปมาก น่ารักน่าเอ็นดูจนหัวใจแทบละลาย

“ไม่ไหวแล้ว! น่ารักเหลือเกิน!” เจี้ยนเซิงคนหนึ่งยกมือกุมหน้าอก เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กินตั้งแต่นี้ไป ลูกแกะน่ารักอย่างนี้ จะกินลงได้อย่างไร

หลังจากนั้น ทุกคนก็เห็นว่าลูกแกะน้อยตัวนี้คลานเข้าไปในกรงของเสือดาว และทำให้เสือดาวกลัวจนกระโดดโหยง ขึ้นไปเกาะบนลูกกรงไม่ยอมลงมา จากนั้นพวกเขาก็เห็นลูกแกะน้อยคลานเข้าไปในกรงของหมีดำ จัดการหมีดำซึ่งทำโบว์ของนางพัง จนพ่อหมีแม่หมีคงจำลูกของตัวเองไม่ได้

“ว้าาา!”

หลังจากกำราบเจ้าหมีดำเรียบร้อย เยี่ยนเสี่ยวซื่อก็คำรามใส่มันครั้งหนึ่ง แล้วจึงหยิบโบว์ของตนกลับมา

ผู้ชมนอกสนามตัวแข็งเป็นหินไปตามๆ กัน

ไม่รูู้ว่าเป็นเพราะสัมผัสได้ว่ามีสายตาของผู้คนจับจ้องหรือเปล่า เยี่ยนเสี่ยวซื่อยกมือขึ้นปิดหน้าในทันใด นางคลานอยู่กับพื้น ก้นเล็กๆ จึงโก่งขึ้นมา ดูคล้ายกับนกกระจอกเทศซึ่งมุดศีรษะลงไปบนพื้นทรายเพื่อไม่ให้ใครเห็น แล้วค่อยๆ ขยับออกไปด้านนอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]