หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 209

เสี่ยวเป่าถูกท่านพ่อของเขาหลอกเสียสิ้น กลายเป็นเด็กซุกซนเพียงคนเดียวที่ไม่อาจนอนหลับสนิท หัวใจของเสี่ยวเป่าสุดขมขื่น เสี่ยวเป่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เสี่ยวเป่าคับแค้นใจ

เสี่ยวเป่าผู้คับแค้นยื่นก้นให้ท่านพ่อของเขาและหลับไปด้วยความโกรธเคือง

เยี่ยนจิ่วเฉาโอบเด็กน้อยที่บูดบึ้งเข้าสู่อ้อมแขน ผ่อนคลายเปลือกตาหลับไป

ทั้งครอบครัวห้าคนเข้าสู่ห้วงนิทราหลับไหลไปกับฝันดี

ฟ้ายังไม่สาง ฮูหยินผู้เฒ่าตกใจตื่นขึ้นจากฝัน “เหลนของข้าเล่า?!”

“ยังอยู่เจ้าค่ะ ยังอยู่” หญิงรับใช้สวมรองเท้าเดินเข้ามา “ท่านนอนพักต่อสักหน่อย ข้าจะพาพวกเขามา!”

ฮูหยินผู้เฒ่ามองดูท้องฟ้าอันมืดครึ้ม ส่งเสียงอ้อตอบรับและผล็อยหลับไปอีกครา

หญิงรับใช้ที่ตื่นตระหนกเกือบตาย “….”

เมื่อคืน ชิงเหยียนและเจียงไห่ไปช่วยอาเว่ยกับเด็กชายทั้งสามขนย้ายสิ่งของ อาเว่ยไม่ได้บอกว่าเจ้าของบ้านคือใคร ทั้งสองจึงคิดว่าอาเว่ยคงเช่าอยู่ เมื่อนึกถึงความทุกข์ยากที่พวกเขาพบเจอมาตลอดทาง ทั้งสองต่างก็คิดว่าอาเว่ยกับเด็กๆ คงเผชิญความยากลำบากมาไม่น้อย แอบสาบานในใจว่าจะปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมีเรื่องขัดข้องหมองใจกันอย่างไรก็ตาม

อาเว่ยตั้งใจเก็บเสื้อคลุมปรมาจารย์พิษขั้นสูงลงในกล่อง ไม่มีผู้ใดพลิกเปิดกล่องของเขา แต่เพราะไข่ดำทั้งสามเคยชินกับการสวมเสื้อคลุมอันโดดเด่นเป็นที่เชิดหน้าชูตา วิ่งเตาะแตะเข้ามาในห้องของอาเว่ย แล้วหยิบเสื้อคลุมของตนเองออกมาใส่ ถึงทำให้ครูศิษย์ทั้งสี่ตกจากหลังม้า

“ซีเฉิง วันที่สิบเจ็ดเดือนแปด ปรมาจารย์พิษขั้นสูง ปรมาจารย์พิษ ปรมาจารย์พิษ ปรมาจารย์พิษ?”

“อวี่เฉิง วันที่สามสิบเดือนแปด ปรมาจารย์พิษขั้นสูง ปรมาจารย์พิษขั้นสูง ปรมาจารย์พิษขั้นสูง ปรมาจารย์พิษขั้นสูง?”

“วิหารพิษ วันที่สิบห้าเดือนเก้า ปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้ง ปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้ง ปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้ง?”

ชิงเหยียนเค้นเสียงลอดไรฟันขณะที่หยิบกองป้ายหยกมากมายที่สามารถทำให้ขุนนางทั้งกองตกใจตายได้ออกมาจากกล่อง รู้สึกประหลาดใจมาเพียงใดคงไม่ต้องเอ่ย แต่ที่มากกว่านั้นก็คือความโกรธที่ปะทุอยู่ในใจ! ตลอดการเดินทางพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากมายเพียงใด แล้วยังต้องเอาเด็กวัยเยาว์สองคนเข้าคุกใหญ่อีก เดิมทีคิดว่าอาเว่ยคงลำบากมากกว่าพวกเขานัก ทว่าดูสิ เจ้าเด็กคนนี้ได้เป็นถึงปรมาจารย์พิษขั้นสูงจากซีเฉิง! ปรมาจารย์พิษขั้นสูงคืออะไรคิดว่าพวกเขาไม่เข้าใจหรือ? เด็กพวกนี้ได้กินดีอยู่ดี มีคนแบกเกี้ยวทองมารับเข้าเมืองหลวงเลยกระมัง!

เขายังไม่บอกอะไรสักคำ!

ปล่อยให้พวกเขาต้องรู้สึกผิดทั้งคืน!

ช่างน่าโมโหนัก!

ชิงเหยียนที่หัวฟูยุ่งด้วยความโกรธ “ข้าไม่อยากสนใจเจ้าแล้ว!”

เยว่โกวพยักหน้าอย่างโง่เขลา “ข้าก็ไม่อยากสนใจเจ้าแล้ว!”

ชายชรากำกริชไว้แน่น อย่าวู่วาม อย่าชักมีด

แน่นอนไข่ดำไม่เข้าใจว่าพวกผู้ใหญ่กำลังโกรธจนแทบอยากจะฆ่าคนให้ตาย เด็กน้อยเหล่านี้มีเสื้อคลุมสีดำตัวเล็กบนร่างกายที่ทำให้พวกเขาดูน่าทึ่ง ผู้คนบนท้องถนนที่พบเจอพวกเขาต่างก็ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเคารพยำเกรง

เหล่าไข่ดำส่งสายตาที่น่ารักมองคนในห้อง

ทุกคนก็มองพวกเขา

สิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกชื่นใจคือเด็กๆ ไม่ได้ทนทุกข์ทรมาน แต่คิดดูแล้วก็ไม่เหมือนคนที่ต้องทนทุกข์ เพราะอย่างไรเสีย พวกเขาก็อ้วนขึ้นกว่าก่อนมากถึงหนึ่งรอบวงด้วยซ้ำ…

นอกจากเสื้อคลุมกับป้ายหยก ชิงเหยียนยังค้นเจอโฉนดบ้านและที่ดินจำนวนหนึ่งจากในกล่อง และทองคำพริบพราวแวววาวอีกนับไม่ถ้วน

กินดีอยู่ดีก็มากพอแล้ว ยังมีบ้านและทองคำอีก บ้าเอ๊ย อยากฆ่าอาเว่ยให้ตายจริงๆ!

ด้วยความอิจฉาริษยาต่ออาเว่ยที่บดบัง สมองของหลายคนจึงคล้ายกับถูกปิดกั้น ผ่านมาชั่วเวลาหนึ่งก็ยังไม่รู้สึกตัวว่า หากพวกเขามีปรมาจารย์พิษอาวุโสก็ทำให้เข้าไปยังเขาพิษได้แล้ว

เมื่อมองเห็นสายตาทั้งรักทั้งชังของผู้ใหญ่ เหล่าไข่ดำก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไร้เดียงสา

โลกของผู้ใหญ่ช่างซับซ้อนเกินไปแล้ว

ไข่ดำทั้งสามเดินไปหาย่าทวดที่เรือนเก๋อปี้

อวี๋หวั่นพาเยี่ยนจิ่วเฉากลับห้อง พิษในร่างกายของเยี่ยนจิ่วเฉาไม่อาจระงับด้วยการกินยาอีกแล้ว จำต้องทำควบคู่ไปกับวิธีการฝังเข็มของชุยเฒ่า โชคดีที่เทคนิคการฝังเข็มของอวี๋หวั่นถูกฝึกมาจนชำนาญ โดยการอุทิศตนของชายนักรบใจสิงห์แห่งหมู่บ้านเหลียนฮวา ยามฝังเข็มให้เยี่ยนจิ่วเฉา ฝังผิดไปเพียงเจ็ดแปดเก้าสิบจุดเท่านั้น ช่างมีความแม่นยำมากยิ่ง!

มองดูเยี่ยนจิ่วเฉาที่ถูกตนเองฝังเข็มจนสลบไป อวี๋หวั่นเก็บเข็มทองด้วยความขุ่นเคือง แสร้งทำราวกับว่าตนเองไม่ได้ทำ…

ครานี้ ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจว่าป้ายหยกที่วางอยู่บนโต๊ะหมายถึงอะไร แต่คนแรกที่นึกได้ หาใช่จอมความคิดอย่างชิงเหยียน ทว่ากลับเป็นเยว่โกวผู้โง่เขลาแทน

ชิงเหยียนกำลังจ้องตากับอาเว่ยไม่รู้จะจัดการอย่างไร ทันใดนั้นเยว่โกวก็ชี้ไปที่ป้ายหยกปรมาจารย์พิษอาวุโสสามชิ้นที่วางอยู่บนโต๊ะ “ปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้งหมายความว่าอย่างไร? เก่งกาจกว่าปรมาจารย์พิษอาวุโสแห่งจวนประมุขหญิงหรือไม่?”

ทุกคนราวกับถูกฟ้าผ่าลงกลางวง ตกตะลึงไปตามๆ กัน!

ชิงเหยียนคว้าป้ายหยกบนโต๊ะมา หนึ่ง สอง สาม…ปรมาจารย์พิษอาวุโสสามคน? พวกเขามีปรมาจารย์พิษอาวุโสสามคน?

ใช่แล้ว เมื่อครู่เขาเพิ่งอ่านมันไป ทว่าเพราะความโกรธบังตาจึงไม่ได้คิดถึงด้านนั้น

ในการทดสอบปรมาจารย์พิษอาวุโส พวกเขาก็พอได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย มันคือการแสดงฝีมือการใช้วิชาพิษบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยหนอนพิษกู่ ยิ่งเข้าไปลึกเท่าใด หนอนพิษกู่ก็ยิ่งมีความแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น คนธรรมดาเดินถึงสามสี่จั้งก็ถึงขีดสุดแล้ว หากเดินไปถึงเจ็ดจั้งคงมิใช่คนธรรมดาเป็นแน่ แน่นอนพวกเขาไม่เชื่อเรื่องเทพกู่ประทานพร เพราะพวกเขารู้ดีกว่าใครว่าเรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร

อวี๋หวั่นมีของศักดิ์สิทธิ์แห่งหนานจ้าวอยู่ในมือ แปดในสิบส่วนคงเพราะเด็กพวกนี้อยู่ใกล้ชิดกับอวี๋หวั่น ทำให้พวกเขาปนเปื้อนลมหายใจแห่งของศักดิ์สิทธิ์ ลมหายใจพวกนี้บรรดาปรมาจารย์พิษอาวุโสไม่อาจรับรู้ได้ แต่หนอนพิษกู่กลับไม่มีทางไม่รับรู้ หากพวกมันยังกล้าเข้าใกล้ทั้งสามก็คงเป็นเรื่องแปลกประหลาดแล้ว

ในเมื่อมีสถานะตัวตนของปรมาจารย์พิษอาวุโสแล้ว เช่นนั้นแผนที่วางไว้ก็เปลี่ยนได้แล้ว เดิมทีพวกเขาตัดสินใจจะรอให้จวนประมุขหญิงจับคางคกหิมะได้ก่อน จากนั้นก็จะขโมยมาจากมือพวกเขาอีกที การทำเช่นนี้ถึงแม้จะทำได้ ทว่าก็มีความไม่แน่นอนอยู่มาก หากจวนประมุขหญิงซ่อนของไว้อย่างแน่นหนา พวกเขาก็คงหาไม่เจอ หรือหากพวกเขาทำให้คางคกหิมะเลือกนายก่อนจะมาถึง พวกเขาก็คงล้มเหลวในขั้นสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย

ชุยเฒ่าไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อดูแลเยี่ยนจิ่วเฉาที่หลับไหล อวี๋หวั่น เจียงไห่และครอบครัวของอาเว่ยอยู่หารือเกี่ยวกับแผนการครั้งใหญ่ในห้องของชายชรา

อวี๋หวั่นมองชายชรา “อาม่า เรามีป้ายหยกของปรมาจารย์พิษอาวุโสแล้ว เช่นนี้ก็ไปที่เขาพิษได้แล้วใช่หรือไม่?”

ชายชราพยักหน้า “ไม่ง่ายดายเช่นนั้น เขาพิษยังคงเป็นสถานที่ต้องห้ามของหนานจ้าว ไม่ยอมให้ผู้ใดที่ไม่ใช่ปรมาจารย์พิษเข้าใกล้”

อวี๋หวั่นราวกับเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งในทันที “ความหมายของอาม่าคือ มีเพียงพวกอาเว่ยที่สามารถเข้าไปได้หรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]