เจ้าของร้านมองไม่วางตา
สตรีผอมบางในชุดกระโปรงบานแขนกว้างสีม่วงอ่อน พร้อมหมวกสานและผ้าคลุมหน้า ร่างกายดูอ่อนแอเกินกว่าจะต้านแรงลม เดินเพียงหนึ่งก้าวก็หอบถึงสามครั้ง เจ้าของร้านเห็นนางเดินอย่างเชื่องช้า คิดกังวลแทนนาง เกรงว่าสายลมด้านนอกจะพัดนางปลิวไป
“แค่ก แค่ก” ยามที่เดินผ่านเจ้าของร้าน สตรีผู้นั้นก็ไอออกมาอย่างอ่อนแรง เจ้าของร้านแทบจะกล่าวโพล่งออกไปโดยสัญชาตญาณ “เชิญฮูหยิน!”
กลัวไม่ทันระวังไปชนนางเข้า จะทำให้นางตายโดยไม่ตั้งใจเสียนี่
“ขอบใจมาก” นางเจียงกล่าวขอบคุณด้วยท่าทางป่วยออดๆ แอดๆ นางก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปในโรงเตี๊ยมด้วยความช่วยเหลือของสามี อวี๋เซ่าชิง
โรงเตี๊ยมเยว่ไหล สมกับเป็นโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชิงเหอ อย่างน้อยก็น่าเชื่อถือในแง่ของขนาดพื้นที่ ส่วนการตกแต่งภายในอาจไม่ค่อยสมชื่อสักเท่าใดนัก อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นคนในชนบทที่คุ้นชินกับความยากลำบาก จึงไม่ได้ยี่หระต่อเรื่องนี้ อวี๋เซ่าชิงทนไม่ได้ที่จะให้ภรรยาต้องลำบาก จึงเลือกพักที่โรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ทุกครั้ง
“ระวังด้วย” อวี๋เซ่าชิงเอ่ยเตือนภรรยาให้เดินขึ้นบันไดอย่างระมัดระวัง
นางเจียงยิ้มอย่างอ่อนโยน พลางเยื้องย่างขึ้นบันไดอย่างเชื่องช้า
ในโรงเตี๊ยมมีห้องใหญ่ที่สุดเพียงห้องเดียว ซึ่งให้บุรุษฝาแฝดสองคนเข้าพักไปแล้ว เจ้าของร้านจึงจัดให้ทั้งคู่อยู่ห้องที่ขนาดรองลงมา ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามห้องใหญ่
“ท่านลูกค้า นี่เป็นห้องที่ดีที่สุดในโรงเตี๊ยมของเราแล้ว พวกท่านเดินทางมาเหนื่อยแย่แล้ว อีกสักครู่ข้าน้อยจะนำสุราอาหารมาให้พวกท่าน!” ในเมื่อตัดสินใจกลับเนื้อกลับตัวแล้ว ก็ต้องมีท่าทีเช่นคนกลับเนื้อกลับตัวเสียหน่อย เช่นการตั้งใจทำกิจการงานทุกอย่างอย่างจริงจัง
อวี๋เซ่าชิงกล่าวอย่างเข้มงวด “สุราไม่ต้อง ทำอาหารท้องถิ่นของที่นี่มาสักหน่อยก็พอ อย่าใส่กระเทียม ภรรยาของข้าไม่กินกระเทียม”
เจ้าของร้านตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ขอรับ ข้าน้อยจะจัดการให้! ข้าน้อยอยู่ชั้นล่าง หากมีเรื่องอะไรก็ไปเรียกข้าน้อยได้”
อวี๋เซ่าชิงพยักหน้าและพยุงภรรยาเข้าไปในห้อง
เจ้าของร้านเดินลงไปยังห้องครัวชั้นล่าง เมื่อสั่งอาหารเสร็จแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่าแขกห้องใหญ่ยังไม่ได้กินอาหาร
กล่าวไปแล้วว่าจะดำเนินธุรกิจร้านที่ดี ข้านี่ละเลยหน้าที่เสียจริง
เจ้าของร้านรู้สึกผิดอย่างยิ่ง เขาขึ้นไปชั้นบนและเคาะประตูห้องใหญ่ด้วยตนเอง “ข้าเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ อยากถามคุณชายทั้งสองว่าค่ำนี้พวกท่านอยากกินอะไรสักหน่อยหรือไม่? ร้านเรามีห่านย่าง ไก่อบเกลือ เป็ดตุ๋น หมูสามชั้นตุ๋นน้ำแดง…”
เขานำเสนอรายการอาหารทั้งยี่สิบเจ็ดอย่างในคราวเดียว คนด้านในยังไม่ทันตอบ ก็รีบกล่าวต่อ “หากคุณชายไม่อยากกินอาหารร้านเราก็ไม่เป็นไร อาหารว่างท้องถิ่นของเมืองเราก็มีมากมายเช่นกัน หากคุณชายอยากกินสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะไปซื้อมาให้คุณชายเอง!”
เช่นนี้ข้าคงเป็นเจ้าของร้านที่ดีคนหนึ่งแล้วกระมัง!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ มาจากด้านใน
เจ้าของร้านมองดูสีของท้องฟ้า ยังไม่ค่ำ คงยังไม่เข้านอนหรอกกระมัง…นอนไปทั้งที่ท้องหิว?
เจ้าของร้านเคาะประตูอีกครั้ง “คุณชาย คุณชาย คุณ…”
ปัง-
ประตูถูกกระแทกเปิดจากด้านใน
ใบหน้าเย็นชาของพี่ชายปรากฏต่อหน้าเจ้าของร้าน
ยามแรกเจ้าของร้านตกใจกับแววตาสังหารของเขา ก่อนจะยิ้มและกล่าวว่า “คุณชาย ต้องการทานอาหารเย็นหรือไม่?”
เนื่องจากละทิ้งหน้าที่จนปล่อยให้อีกฝ่ายท้องหิว เพื่อเป็นการขอโทษ เจ้าของร้านจึงกล่าวว่ามื้อนี้เขายินดีเลี้ยง และหลังมื้ออาหาร เจ้าของร้านยังยกน้ำชาและน้ำมาให้ทั้งสองอย่างสุภาพนอบน้อม บริการอย่างทั่วถึงและครบครัน
ในที่สุดหลังจากเจ้าของร้านกลับไปพักผ่อนที่ห้อง ฝาแฝดผู้น้องจึงปิดประตูลง
พี่ชายฝาแฝดนำนกพิราบสื่อสารออกมาจากกล่อง ฝ่าบาทผูกกระดาษข้อความติดมากับขาข้างหนึ่งของมัน เขามองดูมันอย่างละเอียด
นกพิราบธรรมดาจะกลับไปที่เพาะเลี้ยงได้เท่านั้น ทว่านกพิราบของจวนประมุขหญิงเรียนรู้วิธีติดตามลมหายใจ เมื่อครู่นกพิราบตัวนี้ก็เพิ่งมาถึง แต่เจ้าของร้านมาขัดจังหวะซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ยามนี้พวกเขาเพิ่งได้อ่านข้อความของประมุขหญิง
“ฝ่าบาทบอกว่าอย่างไร?” น้องชายฝาแฝดถาม
พี่ชายฝาแฝดกล่าวว่า “ฝ่าบาทถามว่าเราอยู่ที่ใดแล้ว ให้ข้ารีบลอบเข้าต้าโจวโดยเร็ว ขั้นแรกให้จับตัวคนสนิทของเยี่ยนซื่อจื่อแห่งเมืองเยี่ยนมาสักสองสามคน จากนั้นเค้นถามที่อยู่ของเยี่ยนซื่อจื่อกับพวกเขา”
“เรื่องนี้ไม่ยาก” แฝดน้องกล่าว
เมืองเยี่ยนอยู่ไม่ไกล เพียงตอนใต้ของต้าโจว ซึ่งเดินทางจากเมืองชิงเหอไปถึงได้ภายในหนึ่งวันหนึ่งคืน
น้องชายฝาแฝดกล่าวว่า “เราเพียงต้องค้นหาที่อยู่ของเขาให้พบ จึงจะสามารถกลับไปรายงานต่อฝ่าบาท”
“ใช่” พี่ชายฝาแฝดพยักหน้า “ฝ่าบาทยังทรงตรัสอีกว่า เรื่องนี้ไม่อนุญาตให้เกิดความผิดพลาด หากพบบุคคลที่น่าสงสัย ให้ฆ่าโดยทันที”
ทันทีที่สิ้นเสียง ประตูห้องก็ถูกเคาะอีกครั้ง
“ข้าเอง!” เจ้าของร้านกล่าว “ข้าคิดว่าคุณชายทั้งสองคงจะเดินทางมาเหนื่อย จึงต้มน้ำร้อนมาให้คุณชายโดยเฉพาะ”
ทั้งสองสบตากันอย่างเข้าใจ พี่ชายฝาแฝดกำกริชไว้ในมือ เดินไปเปิดประตู เจ้าของร้านยิ้มและถือถังน้ำเข้ามาจากนั้นก็เดินออกไปด้วยรอยยิ้ม
ประจวบเหมาะที่ประตูฝั่งตรงข้ามก็เปิดออกเช่นกัน อวี๋เซ่าชิงกล่าวกับเจ้าของร้านว่า “ขอถามหน่อย ที่นี่มีผลไม้เคลือบน้ำตาลขายหรือไม่?”
เจ้าของร้านรีบตอบ “เดินออกประตูไปทางทิศตะวันออก ตรงไปก็จะเห็นร้านใหญ่ๆ! ป่ะ ป่ะ ข้านำท่านไปเอง!”
“ลำบากท่านแล้ว” อวี๋เซ่าชิงปิดประตูและเดินลงไปชั้นล่างพร้อมกับเจ้าของร้าน
พี่ชายฝาแฝดกำกริชไว้ในมือและปิดประตูลงอย่างเย็นชา
ไม่นานหลังจากอวี๋เซ่าชิงและเจ้าของร้านออกไป นางเจียงก็เปิดประตูอย่างเงียบๆ แท้จริงแล้วนางหาได้อยากกินขนม หากแต่อยากแอบเข้าไปกินเนื้อหมูสามชั้นอวบอ้วนพร้อมทั้งหัวหอมและกระเทียมในห้องครัวเท่านั้น!
ซู้ด!
ทันทีที่นางเจียงออกมาจากห้อง ก็มีเสียงการเคลื่อนไหวแปลกๆ ดังออกมาจากห้องใหญ่
นางเดินไปแนบหูกับประตูอย่างเงียบเชียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]