ระหว่างทางมาที่นี่ เห้อเหลียนเป่ยหมิงเล่าให้อวี๋เซ่าชิงฟังถึงความสัมพันธ์ของสกุลเห้อเหลียน นายท่านใหญ่หนิวตั้นล่วงลับไปแล้ว นายท่านรองใหญ่จวนตะวันตกเป็นน้องชายของนายท่านใหญ่หนิวตั้น แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่น้องกัน ทั้งสองกลับแตกต่างกันมาก นายท่านใหญ่หนิวตั้นเป็นคนกระตือรือร้น องอาจและใจกว้าง ส่วนนายท่านรองใหญ่เงียบขรึมและระแวดระวัง กระนั้นสำหรับเห้อเหลียนเป่ยหมิง นายท่านรองใหญ่ผู้นี้เคร่งขรึมต่อหน้าคนอื่น แต่เปี่ยมไปด้วยความเคารพต่อหนิวตั้นและฮูหยินผู้เฒ่า ทั้งยังเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ
นายท่านรองใหญ่มีบุตรชายหนึ่งคน ก็คือเห้อเหลียนฉี
เห้อเหลียนฉีสมรสกับนางหลี่ นางหลี่ให้กำเนิดบุตรชายสามคน ได้แก่เห้อเหลียนเฟิง เห้อเหลียนอวี่ และเห้อเหลียนเฉิง เห้อเหลียนเฟิงอายุเท่ากับ ‘เห้อเหลียนเฉา’ ทั้งคู่อายุเกือบยี่สิบแล้ว ส่วนเห้อเหลียนอวี่และเห้อเหลียนเฉิงอายุน้อยกว่าพวกเขาสองและสามปีตามลำดับ
“เห้อเหลียนฉี? เห้อเหลียนฉีคนไหน?” อวี๋เซ่าชิงอยู่ในต้าโจว จึงมิได้สนใจเรื่องขุนนางของหนานจ้าวเท่าไรนัก แต่ระหว่างทางก็พอจะได้ยินเรื่องราวต่างๆ มาบ้าง เขารู้ว่าหนานจ้าวส่งคณะทูตไปร่วมงานสมรสของเฉิงอ๋องและองค์หญิงแห่งซยงหนู หนึ่งในนั้นมีคนชื่อเห้อเหลียนฉี ได้ยินว่าเขาตายในต้าโจว และถูกส่งร่างกลับหนานจ้าว
เห้อเหลียนเป่ยหมิงพยายามสรุปให้สั้นที่สุด “ก็คือ…ราชทูตที่ตายไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เห้อเหลียนฉี”
“ตายอย่างไร?” อวี๋เซ่าชิงถาม
“…ถูกเฉาเอ๋อร์สังหาร” ด้วยกลัวว่าอวี๋เซ่าชิงจะไปกล่าวโทษเยี่ยนจิ่วเฉา เขาจึงกล่าวเสริมไปว่า “แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของเฉาเอ๋อร์หรอก เขาหาเรื่องใส่ตัวเอง”
อวี๋เซ่าชิงรู้ว่าลูกเขยเส็งเคร็งของเขาไม่มีทางสังหารผู้บริสุทธิ์ จึงกล่าวออกไปว่า “ลูกชายยังกเฬวรากเช่นนี้ พ่อของเขาก็คงไม่ได้ดีไปกว่ากันหรอก!”
เห้อเหลียนเป่ยหมิงที่ถึงกับสะอึกโดยไม่ทันตั้งตัว “…”
“เข้าไปกันเถอะ” เห้อเหลียนเป่ยหมิงบอก
อวี๋เซ่าชิงเข้าไปในห้อง
ในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นของยาสมุนไพร อวี๋เซ่าชิงแทบจะขมวดคิ้วในทันใด
เขาไม่ชอบสถานที่แห่งนี้ และไม่ชอบผู้ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ด้วย
อวี๋เซ่าชิงเป็นคนเยือกเย็น คล้ายกับหนิวตั้น เพียงแต่เขาถูกเหยียนฉงหมิงกลั่นแกล้งในทัพใหญ่ซีเป่ยอยู่หลายครั้ง ในใจของเขาจึงเกิดความย้อนแย้งอยู่บ้าง
“ไม่ต้องกลัว ท่านอารองหมดสติไป ไม่ได้ป่วยหนักแต่อย่างใด” เห้อเหลียนเป่ยหมิงหันไปมองสีหน้าของอวี๋เซ่าชิง และทึกทักไปว่าน้องชายกำลังเป็นห่วงอาการป่วยของอารอง
อวี๋เซ่าชิงกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาปีนขึ้นมาจากกองซากศพในสนามรบ ยังจะต้องกังวลเรื่องอาการป่วยอีกหรือ?
อวี๋เซ่าชิงกำลังจมอยู่ในภวังค์แห่งความคิดที่ว่า ‘ตื่นมาข้าก็มีพี่ชายกับแม่เพิ่มมาได้อย่างไร’ เขายังไม่ทันได้ตั้งสติ แต่ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ก็ไม่ได้อยู่กับเขานานนัก สักพักก็หายไป
เขาและเห้อเหลียนเป่ยหมิงเข้าห้องไป
สาวใช้ต่างรีบคำนับทั้งสอง
เห้อเหลียนเป่ยหมิงสั่งว่า “พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านอารอง”
“เจ้าค่ะ” สาวใช้เหลือบมองอวี๋เซ่าชิงอย่างรวดแล้ว แล้วเดินก้มหน้าออกไป
เห้อเหลียนเป่ยหมิงดันรถเข็นไปข้างเตียง “ท่านอารอง พบอวี้เอ๋อร์แล้วขอรับ เขายังไม่ตายจริงๆ ข้าพาเขามาหาท่าน”
นายท่านรองใหญ่หมดสติฉับพลันและรุนแรง ร่างกายไม่อาจขยับได้ ปากไม่อาจพูดได้ สิ่งเดียวที่ขยับได้ก็คือลูกตา ดวงตาของเขาเบิกกว้าง มองไปยังเห้อเหลียนเป่ยหมิงและอวี๋เซ่าชิงอย่างตื่นตระหนก
“ท่านอารอง” เห้อเหลียนเป่ยหมิงอ่านออกว่าเขาอยากพบอวี๋เซ่าชิง จึงหันไปกวักมือเรียกอวี๋เซ่าชิงซึ่งยืนอยู่ห่างออกไป “อวี้เอ๋อร์ เจ้ามานี่”
ในตอนแรกอวี๋เซ่าชิงยังไม่ยอมรับชื่อนี้ เขายืนอยู่ที่เดิมอยู่ชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างไม่เต็มใจสักเท่าไร
เห้อเหลียนเป่ยหมิงกระซิบว่า “เจ้าขยับเข้ามาใกล้หน่อย ท่านอารองจะได้เห็นเจ้า”
อวี๋เซ่าชิงถลึงตามองนายท่านรองใหญ่ ดูซะสิ ให้เจ้าดูแล้วเนี่ย!
นายท่านรองใหญ่ถูกดวงตาคู่นั้นทำให้ตกใจกลัวแทบแย่
หนิวตั้นและนายท่านรองใหญ่เติบโตมาด้วยกัน เขามองดูพี่ชายเจริญเติบโตมาตลอด เขารู้ถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของพี่ชาย นี่มันหนิวตั้นตอนอายุสามสิบดีๆ นี่เอง แต่เป็นไปไม่ได้
แต่หนิวตั้นน้อยไม่ได้ตายไปแล้วหรอกหรือ?
เขาสั่งฆ่าด้วยตนเอง!
เป็นเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายตายแล้ว เพราะฉะนั้นทันทีที่เห็นอีกฝ่ายมาปรากฏตัวต่อหน้า นายท่านรองใหญ่ก็รู้สึกประหนึ่งกำลังเห็นผีก็มิปาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]