จวินฉางอันตั้งใจมาคืนผ้าเช็ดหน้าให้หานจิ้งซู ตั้งแต่พบผ้าเช็ดหน้าของนางในวันนั้น เขาก็ไม่มีโอกาสได้คืนให้นาง และไม่ง่ายที่จะมอบให้เยี่ยนไหวจิ่งตรงๆ ไม่เช่นนั้นหากเยี่ยนไหวจิ่งถามขึ้นมา เขาจะอธิบายเช่นไร?
ให้บอกว่า สตรีของท่านกำลังจะฆ่าตัวตายและถูกข้าหยุดไว้?
หรือ นางอ้อนวอนไม่ให้บอกท่าน ข้าจึงปิดบังท่านมาตลอด?
เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องสามีภรรยา หน้าที่ของเขาคือปกป้องเยี่ยนไหวจิ่ง ทำตามคำสั่งของเยี่ยนไหวจิ่ง ทว่านี่ไม่รวมถึงการกำจัดอิสระของเขาโดยสมบูรณ์ เขารายงานทุกอย่างที่เขาคิดว่าจำเป็นต้องให้เยี่ยนไหวจิ่งรับรู้ มิใช่ต้องรายงานเรื่องเหล่านั้น
จวินฉางอันรู้สถานการณ์ของเยี่ยนไหวจิ่ง ยามนี้เขาอยู่ที่ห้องทรงอักษรเพื่อจัดการกับราชกิจ ใช้โอกาสนี้ไปหาหานจิ้งซูได้พอดี ทว่าไม่คาดคิด ขณะที่จวินฉางอันเดินผ่านสวนเล็กๆ ก็ได้ยินเสียงที่ผิดปกติ
ระฆังใหญ่ถูกตีสนั่นจากก้นบึ้งของหัวใจ เขารีบใช้วิชาตัวเบาเหาะไป
เขาเห็นเงาร่างหนึ่งแวบหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว เขาคิดจะไล่ตามไป ทว่ากลับเหลือบเห็นหานจิ้งซูนอนสลบอยู่บนพื้นหญ้า
อาภรณ์ของหานจิ้งซูนับว่าเป็นที่สะดุดตา ดังนั้นแม้จะเป็นกลางคืนที่มืดสลัว นางก็ยังดูราวกับไข่มุกที่ส่องแสง
จวินฉางอันมองตามทิศที่คนผู้นั้นหนีไป เรียวคิ้วขมวดมุ่น ในที่สุดก็ตามไม่ทัน
“พระชายารัชทายาท!” จวินฉางอันคุกเข่าลง ร้องเรียกแต่ไร้ผล เขายื่นมือออกไปแตะเส้นเลือดแดงที่คอของ หานจิ้งซู เพียงต้องการดูว่านางยังมีชีพจรและอุณหภูมิอยู่หรือไม่ ทว่าด้วยผิวพรรณที่นุ่มนิ่มละลายมือราวกับหยกอุ่นก็ทำให้เขารีบถอนมือกลับราวกับถูกไฟฟ้าดูด!
แน่นอน หานจิ้งซูยังมีชีพจรอยู่แต่อาการก็ไม่ดีนัก
ภายใต้แสงจันทร์ จุดอิ่นถังของนางเปลี่ยนเป็นสีดำ ริมฝีปากก็เริ่มเป็นสีดำ จวินฉางอันมองนิ้วมือของนางอีกครั้ง ยามนี้ปลายนิ้วและเล็บของนางก็ปรากฏเป็นสีดำและสีน้ำเงินจางๆ
นี่เป็นอาการพิษ!
“ล่วงเกินแล้ว พระชายารัชทายาท!” จวินฉางอันคุกเข่าข้างหนึ่ง สอดมือลงใต้หลังและเข่าของหานจิ้งซู อุ้มนางขึ้นมา
พระชายารัชทายาทในเครื่องทรงหรูหรางสง่างาม ประดับปิ่นปักผมลูกปัดหยกในยามทั่วไปนั้น ยามอยู่ในอ้อมแขนช่างบางเบาราวกับไร้น้ำหนัก
สตรีผู้นี้…ไม่ยอมกินข้าวรึ? เหตุใดถึงได้เบาเพียงนี้?
ความคิดนี้แล่นผ่านไป จากนั้นจวินฉางอันก็ไม่มีความคิดที่รบกวนสมาธิอีก เขาอุ้มหานจิ้งซูมุ่งหน้าไปที่เรือนนายหญิง
เขาคือองครักษ์ของเยี่ยนไหวจิ่ง การทำเช่นนี้อาจไม่เหมาะสมนัก เขาควรเรียกขันทีหรือนางข้าหลวงให้ไปส่งหานจิ้งซูกลับเรือนของตน ทว่าหานจิ้งซูถูกคนวางยาพิษ ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นจะจากไปไกลแล้วหรือยัง หากยังซุ่มอยู่ในจวนและเกิดอะไรขึ้นกับหานจิ้งซูในขณะที่เขาไม่อยู่ ผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินกว่าจะจินตนาการ
ระหว่างชื่อเสียงกับความปลอดภัยของหานจิ้งซู จวินฉางอันเลือกอย่างหลัง
หลังจากที่เขาส่งหานจิ้งซูกลับเรือน เขาก็รีบแจ้งเยี่ยนไหวจิ่งทันที
เยี่ยนไหวจิ่งยังใส่ใจหานจิ้งซูอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าการใส่ใจนั้นมาจากความรู้สึกหรือผลประโยชน์ของราชสำนักก็ไม่อาจรู้ได้
“เกิดอะไรขึ้น? ไยถึงเป็นเช่นนี้?” เยี่ยนไหวจิ่งนั่งขอบเตียง มองลวี่เอ้อที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างเย็นชา
หลังจากลวี่เอ้อถวายแกงไก่ตุ๋นโสมให้เยี่ยนไหวจิ่งเสร็จ ก็ไม่รอคุณหนูมาและกลับไปตามหานาง ทันทีที่เข้าไปในเรือนก็เห็นจวินฉางอันอุ้มคุณหนูของตนเข้ามาแล้ว…
ลวี่เอ้อตกใจมาก “บ่าวก็ไม่รู้เจ้าค่ะ…บ่าวนำแกงไปถวายให้ฝ่าบาท…”
เยี่ยนไหวจิ่งเอ่ยเสียงเย็นชา “เจ้าปล่อยให้นายของเจ้าอยู่ด้านนอกตามลำพังได้อย่างไร?”
“เพราะ…เพราะพระชายาสั่งให้บ่าวนำแกงไปถวายฝ่าบาทก่อนเจ้าค่ะ…พระชายาเอ่ยว่า…นางยังมีของที่จะนำมาให้ฝ่าบาท ทว่าลืมไว้ที่ห้อง จึงไปหยิบด้วยตนเอง ไม่ยอมให้บ่าวตามไปด้วยเจ้าค่ะ…” ลวี่เอ้อน้ำเสียงสั่นเครือ หากรู้ก่อนว่าพระชายารัชทายาทจะถูกทำร้าย ไม่ว่านางจะเอ่ยอย่างไรตนก็จะไม่ยอมทิ้งพระชายาไว้ลำพังแน่
สีหน้าเยี่ยนไหวจิ่งไม่ดีขึ้นจากคำอธิบายของนาง
จวินฉางอันเอ่ย “ช่างเถอะ นางเป็นเพียงสาวใช้ที่ไร้เรี่ยวแรงแม้จะผูกไก่ ถึงนางจะอยู่กับพระชายาในเวลานั้นก็คงช่วยอะไรไม่ได้”
“หมอหลวงเล่า?” เยี่ยนไหวจิ่งถามอย่างเย็นชา
ทันทีที่สิ้นเสียง ขันทีผู้ดูแลก็นำหมอหลวงเดินเข้ามาด้วยความร้อนรน
หมอหลวงกำลังจะทำความเคารพเยี่ยนไหวจิ่ง เยี่ยนไหวจิ่งก็รีบยกมือปราม “ไม่ต้อง รีบดูอาการพระชายา!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงเดินไปพร้อมกับล่วมยา วางผ้าคลุมสะอาดบนข้อมือของหานจิ้งซู ตรวจชีพจรของหานจิ้งซูอย่างละเอียด
เมื่อเห็นการตรวจชีพจรที่หลีกเลี่ยงการสัมผัสของเขา จวินฉางอันก็นึกถึงการกระทำที่เขาล่วงเกินหานจิ้งซูเมื่อครู่ ก็เหลือบมองเยี่ยนไหวจิ่งอย่างเคร่งขรึม โชคดีที่เยี่ยนไหวจิ่งค่อนข้างชัดเจนในเรื่องนี้ การช่วยคนสำคัญที่สุด เรื่องอื่นเขาไม่ได้ถามอะไร
หลังจากหมอหลวงตรวจพบชีพจร สีหน้าเขาก็ไม่ดีนัก
“กระหม่อมต้องการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอีกสักหน่อย” เขาขออนุญาตเยี่ยนไหวจิ่ง
เยี่ยนไหวจิ่งพยักหน้า
ลวี่เอ้อรู้ความ นำข้ารับใช้ในห้องออกไป
หมอหลวงตรวจดูนิ้ว จุดอิ่นถัง กระทั่งพับแขนเสื้อตรวจดูแขนของหานจิ้งซู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]