หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 24

จวินฉางอันตั้งใจมาคืนผ้าเช็ดหน้าให้หานจิ้งซู ตั้งแต่พบผ้าเช็ดหน้าของนางในวันนั้น เขาก็ไม่มีโอกาสได้คืนให้นาง และไม่ง่ายที่จะมอบให้เยี่ยนไหวจิ่งตรงๆ ไม่เช่นนั้นหากเยี่ยนไหวจิ่งถามขึ้นมา เขาจะอธิบายเช่นไร?

ให้บอกว่า สตรีของท่านกำลังจะฆ่าตัวตายและถูกข้าหยุดไว้?

หรือ นางอ้อนวอนไม่ให้บอกท่าน ข้าจึงปิดบังท่านมาตลอด?

เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องสามีภรรยา หน้าที่ของเขาคือปกป้องเยี่ยนไหวจิ่ง ทำตามคำสั่งของเยี่ยนไหวจิ่ง ทว่านี่ไม่รวมถึงการกำจัดอิสระของเขาโดยสมบูรณ์ เขารายงานทุกอย่างที่เขาคิดว่าจำเป็นต้องให้เยี่ยนไหวจิ่งรับรู้ มิใช่ต้องรายงานเรื่องเหล่านั้น

จวินฉางอันรู้สถานการณ์ของเยี่ยนไหวจิ่ง ยามนี้เขาอยู่ที่ห้องทรงอักษรเพื่อจัดการกับราชกิจ ใช้โอกาสนี้ไปหาหานจิ้งซูได้พอดี ทว่าไม่คาดคิด ขณะที่จวินฉางอันเดินผ่านสวนเล็กๆ ก็ได้ยินเสียงที่ผิดปกติ

ระฆังใหญ่ถูกตีสนั่นจากก้นบึ้งของหัวใจ เขารีบใช้วิชาตัวเบาเหาะไป

เขาเห็นเงาร่างหนึ่งแวบหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว เขาคิดจะไล่ตามไป ทว่ากลับเหลือบเห็นหานจิ้งซูนอนสลบอยู่บนพื้นหญ้า

อาภรณ์ของหานจิ้งซูนับว่าเป็นที่สะดุดตา ดังนั้นแม้จะเป็นกลางคืนที่มืดสลัว นางก็ยังดูราวกับไข่มุกที่ส่องแสง

จวินฉางอันมองตามทิศที่คนผู้นั้นหนีไป เรียวคิ้วขมวดมุ่น ในที่สุดก็ตามไม่ทัน

“พระชายารัชทายาท!” จวินฉางอันคุกเข่าลง ร้องเรียกแต่ไร้ผล เขายื่นมือออกไปแตะเส้นเลือดแดงที่คอของ หานจิ้งซู เพียงต้องการดูว่านางยังมีชีพจรและอุณหภูมิอยู่หรือไม่ ทว่าด้วยผิวพรรณที่นุ่มนิ่มละลายมือราวกับหยกอุ่นก็ทำให้เขารีบถอนมือกลับราวกับถูกไฟฟ้าดูด!

แน่นอน หานจิ้งซูยังมีชีพจรอยู่แต่อาการก็ไม่ดีนัก

ภายใต้แสงจันทร์ จุดอิ่นถังของนางเปลี่ยนเป็นสีดำ ริมฝีปากก็เริ่มเป็นสีดำ จวินฉางอันมองนิ้วมือของนางอีกครั้ง ยามนี้ปลายนิ้วและเล็บของนางก็ปรากฏเป็นสีดำและสีน้ำเงินจางๆ

นี่เป็นอาการพิษ!

“ล่วงเกินแล้ว พระชายารัชทายาท!” จวินฉางอันคุกเข่าข้างหนึ่ง สอดมือลงใต้หลังและเข่าของหานจิ้งซู อุ้มนางขึ้นมา

พระชายารัชทายาทในเครื่องทรงหรูหรางสง่างาม ประดับปิ่นปักผมลูกปัดหยกในยามทั่วไปนั้น ยามอยู่ในอ้อมแขนช่างบางเบาราวกับไร้น้ำหนัก

สตรีผู้นี้…ไม่ยอมกินข้าวรึ? เหตุใดถึงได้เบาเพียงนี้?

ความคิดนี้แล่นผ่านไป จากนั้นจวินฉางอันก็ไม่มีความคิดที่รบกวนสมาธิอีก เขาอุ้มหานจิ้งซูมุ่งหน้าไปที่เรือนนายหญิง

เขาคือองครักษ์ของเยี่ยนไหวจิ่ง การทำเช่นนี้อาจไม่เหมาะสมนัก เขาควรเรียกขันทีหรือนางข้าหลวงให้ไปส่งหานจิ้งซูกลับเรือนของตน ทว่าหานจิ้งซูถูกคนวางยาพิษ ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นจะจากไปไกลแล้วหรือยัง หากยังซุ่มอยู่ในจวนและเกิดอะไรขึ้นกับหานจิ้งซูในขณะที่เขาไม่อยู่ ผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินกว่าจะจินตนาการ

ระหว่างชื่อเสียงกับความปลอดภัยของหานจิ้งซู จวินฉางอันเลือกอย่างหลัง

หลังจากที่เขาส่งหานจิ้งซูกลับเรือน เขาก็รีบแจ้งเยี่ยนไหวจิ่งทันที

เยี่ยนไหวจิ่งยังใส่ใจหานจิ้งซูอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าการใส่ใจนั้นมาจากความรู้สึกหรือผลประโยชน์ของราชสำนักก็ไม่อาจรู้ได้

“เกิดอะไรขึ้น? ไยถึงเป็นเช่นนี้?” เยี่ยนไหวจิ่งนั่งขอบเตียง มองลวี่เอ้อที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างเย็นชา

หลังจากลวี่เอ้อถวายแกงไก่ตุ๋นโสมให้เยี่ยนไหวจิ่งเสร็จ ก็ไม่รอคุณหนูมาและกลับไปตามหานาง ทันทีที่เข้าไปในเรือนก็เห็นจวินฉางอันอุ้มคุณหนูของตนเข้ามาแล้ว…

ลวี่เอ้อตกใจมาก “บ่าวก็ไม่รู้เจ้าค่ะ…บ่าวนำแกงไปถวายให้ฝ่าบาท…”

เยี่ยนไหวจิ่งเอ่ยเสียงเย็นชา “เจ้าปล่อยให้นายของเจ้าอยู่ด้านนอกตามลำพังได้อย่างไร?”

“เพราะ…เพราะพระชายาสั่งให้บ่าวนำแกงไปถวายฝ่าบาทก่อนเจ้าค่ะ…พระชายาเอ่ยว่า…นางยังมีของที่จะนำมาให้ฝ่าบาท ทว่าลืมไว้ที่ห้อง จึงไปหยิบด้วยตนเอง ไม่ยอมให้บ่าวตามไปด้วยเจ้าค่ะ…” ลวี่เอ้อน้ำเสียงสั่นเครือ หากรู้ก่อนว่าพระชายารัชทายาทจะถูกทำร้าย ไม่ว่านางจะเอ่ยอย่างไรตนก็จะไม่ยอมทิ้งพระชายาไว้ลำพังแน่

สีหน้าเยี่ยนไหวจิ่งไม่ดีขึ้นจากคำอธิบายของนาง

จวินฉางอันเอ่ย “ช่างเถอะ นางเป็นเพียงสาวใช้ที่ไร้เรี่ยวแรงแม้จะผูกไก่ ถึงนางจะอยู่กับพระชายาในเวลานั้นก็คงช่วยอะไรไม่ได้”

“หมอหลวงเล่า?” เยี่ยนไหวจิ่งถามอย่างเย็นชา

ทันทีที่สิ้นเสียง ขันทีผู้ดูแลก็นำหมอหลวงเดินเข้ามาด้วยความร้อนรน

หมอหลวงกำลังจะทำความเคารพเยี่ยนไหวจิ่ง เยี่ยนไหวจิ่งก็รีบยกมือปราม “ไม่ต้อง รีบดูอาการพระชายา!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงเดินไปพร้อมกับล่วมยา วางผ้าคลุมสะอาดบนข้อมือของหานจิ้งซู ตรวจชีพจรของหานจิ้งซูอย่างละเอียด

เมื่อเห็นการตรวจชีพจรที่หลีกเลี่ยงการสัมผัสของเขา จวินฉางอันก็นึกถึงการกระทำที่เขาล่วงเกินหานจิ้งซูเมื่อครู่ ก็เหลือบมองเยี่ยนไหวจิ่งอย่างเคร่งขรึม โชคดีที่เยี่ยนไหวจิ่งค่อนข้างชัดเจนในเรื่องนี้ การช่วยคนสำคัญที่สุด เรื่องอื่นเขาไม่ได้ถามอะไร

หลังจากหมอหลวงตรวจพบชีพจร สีหน้าเขาก็ไม่ดีนัก

“กระหม่อมต้องการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอีกสักหน่อย” เขาขออนุญาตเยี่ยนไหวจิ่ง

เยี่ยนไหวจิ่งพยักหน้า

ลวี่เอ้อรู้ความ นำข้ารับใช้ในห้องออกไป

หมอหลวงตรวจดูนิ้ว จุดอิ่นถัง กระทั่งพับแขนเสื้อตรวจดูแขนของหานจิ้งซู

เพื่อไม่ให้เห็นสิ่งที่ไม่สมควร จวินฉางอันรีบหันหน้าไปทางอื่น

ลึกไปกว่านี้ หมอหลวงไม่อาจตรวจดูด้วยตนเองแล้ว จึงกล่าวกับเยี่ยนไหวจิ่ง “ต้องรบกวนฝ่าบาทปลดกระดุมพระชายา เพื่อตรวจดูว่ามีรอยช้ำบนหน้าอกของนางหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าจะออกไปก่อน” จวินฉางอันกล่าว

“อื้ม” เยี่ยนไหวจิ่งตอบรับ

จวินฉางอันออกจากห้องด้วยสีหน้าว่างเปล่า

เขาเฝ้าอยู่นอกห้อง แม้ไม่เห็นด้วยตาตนเอง แต่ด้วยพลังหู จึงทำให้เขาได้ยินเสียงปลดกระดุมและอาภรณ์ที่เลื่อนลงมา…

เขาสูดหายใจ มองดวงจันทร์ที่สว่างไสวบนท้องฟ้า

“มี” เยี่ยนไหวจิ่งกล่าว

หมอหลวงเอ่ย “กระหม่อมขอวินิจฉัยว่าพระชายาอาจถูกวางยาพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าถอนพิษได้หรือไม่?”

หมอหลวงยกมือคำนับ “โปรดประทานอภัย กระหม่อมไม่อาจแก้ได้พ่ะย่ะค่ะ”

เยี่ยนไหวจิ่งไม่ใช่เผด็จการ เขาไม่ได้เอ่ยว่าหากรักษานางไม่หาย ก็ฝังร่างไปพร้อมกับนาง และอนุญาตให้หมอหลวงออกไป

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ออกจากห้องของหานจิ้งซูและบอกกับลวี่เอ้อที่อยู่ข้างๆ ว่า “ไปแจ้งจวนมหาเสนาบดีว่าพระชายาล้มป่วย”

“เจ้าค่ะ” ลวี่เอ้อตอบรับสะอึกสะอื้น หันหลังกลับไปแจ้งข่าวต่อจวนมหาเสนาบดี

เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบังจวนมหาเสนาบดี แน่นอน เขาจะพยายามรักษาหานจิ้งซูสุดความสามารถ ทว่าหากเรื่องราวไม่เป็นอย่างที่หวัง อย่างน้อยครอบครัวของหานจิ้งซูก็ควรมาพบนางเป็นครั้งสุดท้าย

“องค์รัชทายาท” จวินฉางอันมองมาที่เขา

“ยามเจ้าไปถึงที่เกิดเหตุ สถานการณ์เป็นเช่นไร?”

ที่ที่เกิดเรื่องกับหานจิ้งซูอยู่ใกล้กับเรือนของนางเอง ตามหลักแล้ว จวินฉางอันไม่ควรไปอยู่ที่นั่น จวินฉางอันไม่สะดวกบอกเยี่ยนไหวจิ่ง ว่าตนมีบางอย่างต้องไปพบหานจิ้งซู จึงผ่านไปทางนั้น

เขาไตร่ตรองคำพูดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ระหว่างทางกลับเรือน ข้าได้ยินการเคลื่อนไหวจึงเดินตามไป และเห็นเงาดำร่างหนึ่ง ดูจากรูปลักษณ์แล้วน่าจะเป็นบุรุษ คล้ายว่าเขาจะเห็นข้า ก่อนข้าจะปรากฏตัว เขาก็โยนพระชายาไว้แล้วหนีไป”

เยี่ยนไหวจิ่งพูดอย่างครุ่นคิด “มีมือสังหารลอบเข้ามาในจวนจริงๆ หรือ? แต่เหตุใดต้องวางยาพิษพระชายา? เพื่อทำลายความสัมพันธ์ของข้ากับจวนมหาเสนาบดีหรือ? เป็นเยี่ยนจิ่วเฉาหรือ? หรือว่าฮองเฮา?”

จวินฉางอันครุ่นคิด “เกรงว่าฮองเฮาจะไม่อาจเช่นนั้น ส่วนเยี่ยนจิ่วเฉา ข้าไม่คิดว่าเขามีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น”

เยี่ยนจิ่วเฉาอยู่ในตำแหน่งผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ได้อย่างมั่นคงแล้ว จากอำนาจที่มีก็บดขยี้จวนมหาเสนาบดีและเยี่ยนไหวจิ่งแล้ว แล้วเหตุใดต้องจัดการกับหานจิ้งซูอีก?

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จวินฉางอันไม่ได้เอ่ย คือเยี่ยนจิ่วเฉาบ้าก็นับว่าบ้าอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ฆ่าคนเป็นผักปลาเช่นนี้ มิใช่ไม่อยากทำ ทว่าต่ำช้าน่ารังเกียจเกินไป

จวินฉางอันเอ่ย “หรือว่า…อีกฝ่ายใช้หนอนพิษกับพระชายาเพื่อข่มขู่องค์รัชทายาท?” นี่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เยี่ยนไหวจิ่งไม่อาจเพิกเฉยต่อความเป็นความตายของหานจิ้งซู ดังนั้นเพื่อหายาถอนพิษให้นาง เขายอมแลกเกินกว่าที่จะจินตนาการได้

เยี่ยนไหวจิ่งก็คิดถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ และเห็นด้วยกับการคาดเดาของจวินฉางอันอยู่บ้าง แต่จู่ๆ เขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นได้และถามจวินฉางอันว่า “เจ้าได้ฟังลวี่เอ้อกล่าวเมื่อครู่หรือไม่?”

จวินฉางอันคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “องค์รัชทายาทหมายถึงเรื่องที่พระชายากลับห้องไปหยิบของหรือ?”

เยี่ยนไหวจิ่งมองไปทางสะพานข้ามบึง พลางเอ่ยช้าๆ “จากสะพานไปที่เรือนของนาง ต้องเดินไปทางทิศตะวันออก ทว่าสวนดอกไม้อยู่ทางทิศตะวันตก กล่าวอีกอย่างคือ นอกจากนางจะเดินอ้อม ไม่เช่นนั้นอย่างไรก็ไม่มีทางผ่านสวนแห่งนั้นได้”

จวินฉางอันขมวดคิ้ว “องค์รัชทายาทหมายความว่า…พระชายาถูกพาไปที่สวนหรือ?”

เยี่ยนไหวจิ่งทอดถอนใจ “ข้าเพียงแค่คาดเดาเช่นนี้ หรืออาจจะเป็นความคิดชั่ววูบที่อยากไปเก็บดอกไม้ที่สวนขึ้นมา”

เก็บดอกไม้? เกรงว่าคงมีเพียงต่อหน้าเยี่ยนไหวจิ่งที่สตรีผู้นั้นจะแสร้งเป็นสตรีทรงคุณธรรมกระมัง? จวินฉางอันมั่นใจว่านางไม่ได้ชื่นชอบการเด็ดดอกไม้

เมื่อเป็นเช่นนี้ การไปที่สวนของนางจึงดูแปลกนัก

จวินฉางอันไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าหาก… ข้าหมายถึงถ้าหาก นางถูกพาไปที่สวน เช่นนั้นก็ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะเลือกทำร้ายนางที่สวน แต่การใช้หนอนพิษต้องเลือกสถานที่หรือ? ใช้ที่ใดก็เหมือนกัน เว้นเสียแต่ว่า…คนผู้นั้นไม่ได้คิดจะใช้หนอนพิษกับพระชายาตั้งแต่แรก”

เยี่ยนไหวจิ่งขมวดคิ้ว “เช่นนั้นเขาคิดจะ…”

“สังหารพระชายา!” จวินฉางอันกล่าว

เยี่ยนไหวจิ่งม่านตาหดแคบ!

จวินฉางอันกล่าวต่อ “อำพรางให้เหมือนพระชายาฆ่าตัวตาย”

ในสวนมีศาลามีบันได หากล้มหัวกระแทกเลือดออกจนตายก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

นี่เป็นเพียงการคาดเดาของจวินฉางอัน แต่เยี่ยนไหวจิ่งกลับรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากกว่าอย่างแรก “เช่นนั้น ก็ตัดประเด็นที่จะใช้พระชายามาข่มขู่ข้าไปได้ พวกเขาต้องการฆ่าพระชายา แต่เหตุใดพวกเขาต้องทำเช่นนี้? พวกเขาเป็นใครกัน?”

………………………

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]