อวี๋เซ่าชิงถอดชุดเกราะของนางเจียงออก ชุดเกราะหนักอึ้งถึงเพียงนี้เขาจับยังเจ็บมือ แต่เมื่อคิดว่าอาซูสวมไปแล้วจะทรมานเพียงใด อวี๋เซ่าชิงก็ปวดใจเหลือเกิน และตระหนักได้ว่าหลังจากนี้จะต้องปกป้องนางให้ดีกว่าเดิม จะไม่ให้คนชั่วมาแตะต้องนางได้อีก
เห้อเหลียนเป่ยหมิงเดินช้า เมื่อเขามาถึง เหตุการณ์ก็ได้จบลงแล้ว ทว่าดูแล้วน้องสะใภ้ปลอดภัยดี นางเพียงแต่ตื่นกลัวไปบ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“…” อวี๋กังเหลือบมองหน่วยกล้าตายหลายสิบคนที่นอนกองอยู่ เขาคิดในใจว่าข้าว่าท่านโล่งอกเร็วไปสักหน่อย…
เห้อเหลียนเป่ยหมิงนึกอยากถามน้องสะใภ้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่ลักพาตัวนางคือใคร นางเจียงก็หลับตาแกล้งตายอยู่ในอ้อมแขนของอวี๋เซ่าชิงเสียแล้ว
ด้วยข้อมูลและจินตนาการอันมีจำกัด สมองของอวี๋เซ่าชิงก็ทำได้เพียงนึกถึงสิ่งที่อาซูประสบพบเจอ อาซูนั้นไร้เดียงสา อาซูควบคุมตัวเองไม่ได้ อาซูถูกคนวางยา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นเพราะเจ้าพวกนั้นหาเรื่องใส่ตัว
อวี๋กัง “…”
เอ…จริงที่พวกนั้นหาเรื่องใส่ตัวเอง แต่เจ้าแน่ใจหรือว่าคนตรงหน้าเจ้าคือตัวจริง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้…แต่ทว่า ถึงกับทำให้สตรีผอมบางไร้เรี่ยวแรงจัดการกับหน่วยกล้าตายมากถึงเพียงนั้นได้ ตะ…ต้องเป็นยาที่มีฤทธิ์ร้ายกาจเพียงใดกัน? น้องสะใภ้ไม่ร่างแหลกเหลวหรอกหรือ?
เห้อเหลียนเป่ยหมิงเรียกให้องครักษ์พาอวี๋เซ่าชิงและน้องสะใภ้กลับจวนเห้อเหลียน ส่วนเขา อวี๋กัง และองครักษ์อีกส่วนหนึ่งยังคงอยู่ที่ค่ายหน่วยกล้าตายเพื่อตรวจค้นต่อไป
ค่ายหน่วยกล้าตายที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ หากไม่ได้เป็นของราชวงศ์ เห็นทีคงจะมีโทษสถานหนัก
ไม่รู้จริงๆ ว่าผู้ใดใจกล้าถึงเพียงนี้ กล้าทำเรื่องที่มีโทษถึงประหารทิ้ง ยังกล้าทำเช่นนี้อีกหรือ?
“ไปตรวจค้น!” เห้อเหลียนเป่ยหมิงสั่ง
“ขอรับ!” อวี๋กังรับคำสั่ง แล้วนำองครักษ์ออกไปตรวจค้น
หากไม่ตามหาก็ไม่รู้ แต่เมื่อสืบสาวราวเรื่องไป กลับทำให้อวี๋กังตกตะลึง ในค่ายหน่วยกล้าตายแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงหน่วยกล้าตาย แต่ยังมีทรัพย์สินเงินทองและของมีค่าอีกมหาศาล
“ทะ ทะ ทะ ทะ…ท่านแม่ทัพใหญ่ขอรับ!” อวี๋กังเล่าให้เห้อเหลียนเป่ยหมิงฟังถึงสิ่งที่ตนเองพบ
เห้อเหลียนเป่ยหมิงคาดเดาได้ทันใด ที่นี่ไม่ใช่ค่ายหน่วยกล้าตายธรรมดา หากแต่เป็นขุมกำลังสักอย่าง ด้านหนึ่งคอยอุปถัมภ์หน่วยกล้าตายจำนวนมาก อีกด้านหนึ่งก็ใช้หน่วยกล้าตายเหล่านี้ให้คอยปกป้องทรัพย์สมบัติของตนเอง
อวี๋กังตรวจสอบไปจนถึงคลังเก็บทองคำแห่งที่สาม นี่นับว่ามีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของท้องพระคลังทีเดียว ต่อให้เป็นเห้อเหลียนเป่ยหมิงผู้มีชีวิตอยู่บนทรัพย์ศฤงคารก็อดตื่นตะลึงไม่ได้
“ท่านแม่ทัพใหญ่ขอรับ!” องครักษ์คนหนึ่งออกไปสำรวจกลับมา เขาค้นพบอะไรบางอย่าง
การสำรวจค่ายหน่วยกล้าตายแห่งนี้กินเวลาหนึ่งวันเต็มๆ ทันทีที่หลักฐานทั้งหมดถูกนำมาสำแดงเบื้องหน้าของเห้อเหลียนเป่ยหมิง สีหน้าของเขาก็พลันดูเยียบเย็นในทันที
ยามอันธการมาเยือน เห้อเหลียนเป่ยหมิงจึงเดินทางกลับจวน
ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้ล่วงรู้ ‘เรื่องราว’ ที่เกิดขึ้น เมื่อนางตื่นนอน อวี๋เซ่าชิงกับนางเจียง รวมไปถึงเยี่ยนจิ่วเฉาและอวี๋หวั่นก็ทยอยเดินทางกลับถึงจวน พวกเขากำลังงีบอยู่ คนหนุ่มสาวไหมเล่า กลางคืนก็คงจะเล่นสนุกกันสักหน่อย จะได้มีหลานให้นางเพิ่ม ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ปลุกพวกเขา ทว่าเล่นกับเด็กน้อยทั้งสามอย่างสนุกสนาน
เมื่อเห้อเหลียนเป่ยหมิงกลับมาถึงจวน พวกเขาทั้งสี่ก็ตื่นนอนแล้ว ไม่เพียงตื่นนอน แต่ยังเปิดการประชุมเล็กๆ กันอีกด้วย หัวข้อสำคัญของการประชุมในครั้งนี้คือคนร้ายที่ลักพาตัวนางเจียงในครั้งนี้
“แปดในสิบส่วนคือทรัพย์สินของจวนตะวันตก หลายวันก่อนเขายังส่งคนมาลอบสังหารท่านลุงใหญ่ ท่านลุงใหญ่บาดเจ็บหนัก ต้องใช้เห็ดหลินจือแดงในการรักษา ตัวยาที่หาได้มาอย่างยากลำบาก ถึงถูกเจ้าแก่นั่นทำลายได้”
นี่เป็นสิ่งคำพูดของอวี๋หวั่น
นางเจียงหรี่ตา กล้ารังแกลูกเขยของนางเชียวหรือ…
“น้องสะใภ้? สภาพร่างกายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เห้อเหลียนเป่ยหมิงมองไปยังนางเจียงซึ่ง ‘ตกใจกลัว’
นางเจียงนั่งอยู่ที่หัวเตียง จับผ้าเช็ดหน้าพร้อมกับทำท่าซีซือกุมหทัย “ท่านหมอชุยตรวจและออกใบสั่งยาให้ข้าแล้ว ข้ากำลังจะกินยา ไม่เป็นอะไรมาก”
ชุยเฒ่าซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างกระแอม ยาดับร้อน ไม่เป็นอะไรแน่หรือ?
เห้อเหลียนเป่ยหมิงพยักหน้า “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ลำบากท่านหมอชุยแล้ว”
ชุยเฒ่าตอบอย่างหน้าชื่นอกตรมว่า “เป็นสิ่งที่ข้าสมควรทำ”
“ข้ามีเรื่องใคร่อยากถามน้องสะใภ้สักหน่อย ตอนที่น้องสะใภ้ถูกจับตัวไป เจ้าเห็นรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายชัดเจนหรือไม่?”
“ข้าเห็นชัดเจน!” นางเจียงตอบ “เป็นคนในจวน!”
เห้อเหลียนเป่ยหมิงชะงักไป “เป็นคนในเรือนหรือ?” น้องสะใภ้เพิ่งเข้ามาอยู่ นอกจากคนในเรือนแล้ว ก็ยังไม่ได้พบคนอื่น
อวี๋หวั่น: ทะ…ท่านแม่ ท่านสร้างข้อมูลเท็จให้แนบเนียนหน่อย
นางเจียงกะพริบตาสีดำขลับ “เขาพูดเอง! เขาบอกว่านายท่านใหญ่ของเขาต้องการจับข้า ให้ข้าเชื่อฟัง ไม่เช่นนั้นเขาจะฆ่าข้า!”
น้ำชาที่เพิ่งดื่มเข้าไปแทบจะพุ่งออกจากปากของอวี๋หวั่น ขะ…ข้อมูลเท็จของท่านออกจะโจ่งแจ้งไปหน่อยแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]