หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 249

เสียงไก่นี้ทั้งดังทั้งแหลมเสียดโสตประสาท ไม่เหมือนกับเสียงนุ่มมีพลังของประมุขหญิง ราวกับว่าประมุขหญิงมีกล่องเสียงงอกออกมาเพิ่มอีกก็มิปาน เสียงไก่นี้ทำให้ประยูรญาติทั้งหลายในนั้น รวมไปถึงนางกำนัล ฮองเฮาและองค์ประมุขตัวสั่นเทิ้ม

ผู้คนต่างมิทันได้สังเกตสีหน้าของคนอื่นๆ ความคิดแรกของพวกเขาล้วนแต่คิดว่าตนเองหูฝาดไป อย่างไรเสียผู้ที่ยืนอยู่ตรงนี้หาใช่ใครอื่น หากแต่เป็นประมุขหญิงแห่งหนานจ้าวผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยปรีชาชาญและคุณธรรม นางจะร้องเสียงน่าขันและน่ากลัวเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร?

นั่นไม่ใช่เสียงแม่ไก่วางไข่หรอกหรือ?

อย่าว่าแต่แขกเหรื่อที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน แม้แต่ตัวประมุขหญิงเองก็ยังไม่เชื่อ

เหมือนครู่เกิดอะไรขึ้น?

นางไม่ได้จะมากล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานวันเกิดหรอกหรือ? เหตุใดเพียงอ้าปาก…กลับมีเสียงประหลาดเช่นนั้นเล่า…

ในใจของประมุขหญิงไม่อยากกล่าวถึงสองคำนั้น

ประมุขหญิงงุนงงไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่มีแม้แต่เวลามาขบคิดว่าเกิดอะไรขึ้น

นางถือกำเนิดในราชวงศ์ เติบโตในราชวงศ์ นางได้รับการฝึกฝนกิริยามารยาทและธรรมเนียมชั้นสูง นางเป็นนักปกครองผู้มีพรสวรรค์ นางเชี่ยวชาญในการแก้ไขสถานการณ์อันซับซ้อน แต่นั่นมิได้หมายรวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้

เหตุการณ์นี้อยู่เหนือจินตนาการโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่เด็ก นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าวันหนึ่งจักต้องมารับมือกับสถานการณ์เช่นนี้

เป็นนางกำนัลด้านหน้าที่ส่งสายตาให้นาง ราวกับกำลังถามว่าเกิดอะไรขึ้น นางจึงได้สติกลับมา

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ กวาดสายตามองฝูงชนซึ่งกำลังตื่นตะลึงด้วยสีหน้าราบเรียบ รวมไปถึงเสด็จพ่อและเสด็จแม่ที่พยายามอดกลั้นความตื่นตระหนก นางยิ้มออกมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมจะกล่าวขอบคุณเสด็จพ่อเสด็จแม่ด้วยความนอบน้อม ขอบคุณเชื้อพระวงศ์ทุกท่านที่เข้าร่วมงานวันเกิด แต่ไม่คาดคิดเลยว่าทันทีที่เอ่ยปาก ก็ยังคงมีเสียงดังเสียดแก้วหู “กกกกะต๊ากกกกก กกกะต๊ากก กกกกกะต๊ากก”

ในครั้งนี้ ผู้คนล้วนมั่นใจแล้วว่าตนไม่ได้หูฝาดไป ประมุขหญิงรัชทายาทแห่งหนานจ้าวเพิ่งจะร้องเสียงไก่ท่ามกลางฝูงชน

ที่แย่ไปกว่านั้นคือในพุ่มไม้เลี้ยงไก่ป่าเอาไว้ เมื่อไก่ป่าได้ยินเสียงร้องของประมุขหญิง มันก็ขานรับกลับมา “กกกะต๊ากกกก”

ประมุขหญิง “กกกะต๊ากกก”

อย่าร้องนะ!

ไก่ป่า “กะต๊ากก”

จะร้อง!

คนหนึ่งไก่หนึ่งส่งเสียงร้องโต้ตอบกัน

ประมุขหญิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง นางรีบร้อนแก้ต่าง แต่ทันทีที่อ้าปากก็ไม่อาจควบคุมเสียงร้อง ‘กะต๊าก’ ของไก่เอาไว้ได้ นางทำได้เพียงปิดปากสนิท แต่ปิดปากแล้วอย่างไร? เรื่องน่าอดสูก็เกิดขึ้นไปแล้ว

สีหน้าของฝูงชนล้วนแลดูราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น เด็กทารกตกใจจนร้องไห้โฮ ทั้งยังมีเด็กใจกล้าซึ่งอดไม่ได้ และระเบิดหัวเราะออกมา

เหล่านางกำนัลก้มหน้างุด อดทนไว้ ห้ามหัวเราะ!

เด็กน้อยคนหนึ่งชี้ไปยังประมุขหญิงทันใด “ไก่! ท่านแม่ ไก่!”

นี่เป็นฟางเส้นสุดท้าย หลังจากนั้นสถานการณ์ก็อลหม่านไปหมด

องค์ประมุขเห็นว่าสถานการณ์นี้เริ่มจะยุ่งยาก จึงให้นางกำนัลพาประมุขหญิงซึ่งกำลังยืนทึ่งอยู่กับที่ไป

แม้ว่าตัวประมุขหญิงจะไปแล้ว แต่ความร้อนแรงของคำวิพากษ์วิจารณ์กลับยังไม่ดับมอด

หากบอกว่าประมุขหญิงเพียงหยอกเล่น ย่อมไม่มีผู้ใดเชื่อ นางยืนเบิกตากว้างอ้าปากค้าง เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ตนเองก็ยังไม่อาจควบคุมได้

ท่ามกลางฝูงชน ไม่รู้ว่าผู้ใดเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “นี่ พวกเจ้าว่าท่าทางของประมุขหญิงเหมือนถูกหนอนพิษหรือไม่?”

หนานจ้าวเป็นดินแดนแห่งวิชาพิษ แทบทุกสกุลใหญ่ต่างอุปถัมภ์ปรมาจารย์พิษอย่างน้อยหนึ่งคน เพราะฉะนั้นเรื่องการถูกพิษของหนอนนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถยอมรับได้

“ไร้สาระ!” อีกคนหนึ่งตอบ “ประมุขหญิงรัชทายาทมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัว หนอนพิษชั้นต่ำพรรค์นั้นจะทำอะไรนางได้อย่างไร?”

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์คือราชันหมื่นสัตว์พิษ หนอนพิษทั่วไปเมื่อเห็นมันแล้วย่อมต้องเผ่นหนีสุดชีวิต ไหนเลยจะมากัดเจ้าของมันได้? หากเป็นเช่นนั้นจริง จะไม่นับว่าเป็นการท้าทายอำนาจแห่งราชันหมื่นสัตว์พิษหรอกหรือ?

จะว่าไปก็ไม่ผิด ประมุขหญิงมีหนอนพิษในครอบครอง ไม่น่าโดนพิษของหนอนพิษตัวเล็กๆ ได้ แต่หากไม่ได้โดนพิษของหนอน เช่นนั้นที่นางร้องเมื่อครู่เกิดจากอะไร?

แขกคนหนึ่งกล่าวว่า “อย่าเดาไปเรื่อยเปื่อย เรื่องนี้รอใหองค์องค์ประมุขและฮองเฮาอธิบายจะดีกว่า”

งานเลี้ยงวันเกิดยังไม่ทันได้เริ่มต้นก็ล่มเสียแล้ว ในประวัติศาสตร์ของหนานจ้าวไม่มีเรื่องน่าขายหน้าเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน องค์ประมุขทรงกริ้วกว่าผู้ใด

ประมุขหญิงถูกนางกำนัลพาตัวมา ก็โมโหจนหน้ามืดไป กว่าจะตื่นขึ้นมาก็อีกหนึ่งเค่อให้หลัง

บรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเดาได้ หลังจากที่องค์ประมุขระงับโทสะลงก็เดาได้เช่นกัน จึงเรียกปรมาจารย์พิษมา

ปรมาจารย์วิชาพิษตรวจอาการของประมุขหญิงและวินิจฉัยว่านางถูกหนอนพิษเข้าเสียแล้ว กระนั้นหาใช่หนอ

นพิษดำซึ่งมีพิษร้ายแรงไม่ เป็นเพียงหนอนพิษขาวทั่วไป ปรมาจารย์พิษใช้เวลาไปพอสมควรกว่าจะจับหนอนพิษออกมาได้ จากนั้นก็รมควันประมุขหญิงด้วยสมุนไพรเพื่อขับไล่หนอนพิษ เพื่อให้แน่ใจแล้วว่าในร่างของนางไม่มีสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]