เวลานี้ ลูกน้องของชายสวมชุดคลุมไม่รู้ว่าตนได้ทิ้งเบาะแสไว้ หากเขาสืบทราบว่าหานจิ้งซูจะมาที่หอวั่งเยว่แต่แรก เขาคงไม่เลือกฆ่านางตายที่สวนเล็กแห่งนั้น
แต่พวกเขาก็ห่างจากการรับรู้ถึงข้อบกพร่องของตนอีกไม่ไกลแล้ว
ตกกลางคืน เยี่ยนไหวจิ่งไปที่หอวั่งเยว่
“ฝ่าบาท” ชายสวมชุดคลุมพยักหน้าเบาๆ โค้งคำนับอย่างไม่เป็นทางการ
ชายสวมชุดคลุมเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เยี่ยนไหวจิ่งได้พบที่หนานจ้าว ยามนั้นเขาจ่ายไปมากมาย หากบอกว่าไปเชื้อเชิญผู้มากความสามารถพิเศษมาก็ไม่ถือว่ามากเกินไป ดังนั้นเยี่ยนไหวจิ่งจึงนับถืออีกฝ่ายมาก มากเกินกว่าจินตนาการของคนทั่วไป
หากกล่าวเกินจริงสักหน่อย เยี่ยนไหวจิ่งอุ้มอีกฝ่ายไว้ เพราะเกรงว่าหากอีกฝ่ายไม่พอใจจะไม่ยอมช่วยเหลือตน
“ดึกดื่นเช่นนี้ ฝ่าบาทเสด็จมาพบข้า มีเรื่องอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ชายสวมชุดคลุมถามอย่างใจเย็น
“ฝ่าบาท เชิญ” เขาชี้ไปที่เก้าอี้นั่งด้านหน้า
เยี่ยนไหวจิ่งไม่นั่งแต่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “กล่าวตามตรง ค่ำมืดเช่นนี้มารบกวนท่าน เพราะข้าหมดหนทางจริงๆ”
“อ้อ? ฝ่าบาททรงมีเรื่องร้อนใจอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ชายสวมชุดคลุมถามอย่างอดทน
เยี่ยนไหวจิ่งทอดถอนใจ “มีมือสังหารเข้ามาในจวนและใช้หนอนพิษกับพระชายา หมอหลวงไม่อาจแก้พิษกู่ของนางได้ ข้ารู้ว่าท่านมีปรมาจารย์พิษ ข้าจึงอยากขอให้ท่านพาปรมาจารย์พิษไปตรวจอาการนางดูสักหน่อยว่าสามารถคลายกู่ให้นางได้หรือไม่”
ลูกน้องลอบเหลือบมองชายสวมชุดคลุม
ชายสวมชุดคลุมมั่นคงดุจเขาไท่ซาน ใบหน้าไม่ปรากฏความรู้สึกผิดหรือตื่นตระหนกใดๆ “คนของข้าไม่มีผู้ใดเป็นปรมาจารย์พิษ มีเพียงสตรีพิษ หนอนพิษที่ข้ามอบให้ท่านคราวนั้นก็มาจากนาง นางสามารถฝึกฝนและควบคุมหนอนพิษได้ด้วยตนเอง แต่หากพูดถึงการคลายกู่…ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นหนอนพิษชนิดใด ข้าไม่แน่ใจว่านางจะแก้ไขมันได้ เลี่ยเฟิง”
ลูกน้องก้าวไปข้างหน้า คำนับชายสวมชุดคลุม “นายท่าน”
ชายสวมชุดคลุมเอ่ยว่า “ไปตามอีม่านมา ให้นางไปดูอาการพระชายา”
“ขอรับ!” เลี่ยเฟิงออกจากห้องด้วยสายตามองตรงไม่วอกแวก และเรียกสตรีชุดดำคนหนึ่งเข้ามาในห้อง
เยี่ยนไหวจิ่งเคยพบสตรีผู้นี้ นางไม่ช่างพูดและไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ เขาคิดว่านางเป็นเพียงสาวใช้ธรรมดา แต่ไม่คาดคิดว่านางก็คือสตรีพิษที่ไม่เปิดเผยตัวตน
เยี่ยนไหวจิ่งพาสตรีนามว่าอีม่านไปที่ห้องของหานจิ้งซู
หลังจากตรวจหานจิ้งซูแล้ว สตรีผู้นั้นก็ส่ายหัวด้วยความสลด “ขออภัย ฝ่าบาท พิษชนิดนี้เป็นพิษกู่แห่งหนานเจียงที่ร้ายแรงยิ่ง หากเป็นท่านอาจารย์ของข้าอาจยังพอมีหวัง ทว่าข้าไม่อาจแก้ได้”
“เช่นนั้นอาจารย์ของเจ้า…” เยี่ยนไหวจิ่งไม่เอ่ยสิ่งใดต่อ เพียงมองสตรีผู้นั้นนิ่ง ราวกับวางความหวังทั้งหมดไว้กับสิ่งที่นางจะเอ่ยต่อจากนี้
นางทอดถอนใจ “อาจารย์ของข้าตายแล้ว ฝ่าบาทโปรดหาผู้มีความสามารถคนอื่นเถอะเพคะ”
เยี่ยนไหวจิ่งรู้สึกเพียงว่าท้องฟ้าถล่มลงมา
นี่เป็นครั้งแรกที่เยี่ยนไหวจิ่งขอความช่วยเหลือจากชายสวมชุดคลุม แต่กลับไม่มีทางออกที่ดี ผู้อาวุโสท่านนั้นมีความสามารถน่ามหัศจรรย์ไม่ใช่หรือ? เหตุใดแม้แต่กู่ก็ยังแก้ไม่ได้?
แน่นอนถึงจะบ่นในใจ แต่เยี่ยนไหวจิ่งก็ไม่ได้โยนความผิดไปที่อีกฝ่ายทั้งหมด แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญต่างกัน ยอดฝีมือท่านนั้นชำนาญการฝึกพลังและการสงคราม ต่อให้ขงเบ้งคลานออกจากหลุมศพก็ยังไร้หนทางจะคลายพิษกู่
หลังจากสตรีพิษผู้นั้นจากไป เยี่ยนไหวจิ่งก็ตกอยู่ในสภาพอับจนหนทาง
อย่างไรก็เป็นสตรีของตน หากกล่าวว่าไม่รู้สึกอะไรคงไม่ใช่ ในฐานะบุรุษ เขามีหน้าที่ปกป้องภรรยา และในแง่ของการเป็นภรรยาหรือสะใภ้ หานจิ้งซูนั้นไร้ที่ติ เขาต้องการสตรีเช่นนี้เป็นพระชายาของเขา
เขาไม่อยากเห็นหานจิ้งซูตายไปต่อหน้าต่อตา
…แล้วก็ไม่ต้องการสูญเสียการสนับสนุนจากจวนมหาเสนาบดี
“คนจากจวนมหาเสนาบดีคงใกล้มาถึงแล้วกระมัง” เยี่ยนไหวจิ่งยืนอยู่ที่ประตู ทอดสายตามองความมืดมิดในราตรีอันไร้ขอบเขต
จู่ๆ จวินฉางอันก็เอ่ยขึ้น “องค์รัชทายาท ข้ามีบางอย่างที่ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยดีหรือไม่”
“เจ้าว่ามาเถอะ” เยี่ยนไหวจิ่งเอ่ย มาถึงขั้นนี้คงไม่มีเรื่องใดเลวร้ายไปกว่านี้แล้ว
จวินฉางอันเอ่ยอย่างครุ่นคิด “จวนของเรามีการคุ้มกันแน่นหนา ต่อให้วรยุทธ์อีกฝ่ายแข็งแกร่ง สามารถบุกเข้ามาได้ ทว่าก็ไม่น่าคุ้นเคยกับสถานที่ภายในจวนถึงเพียงนี้ในคราวเดียว ดูจากสวนดอกไม้ที่เขาเลือกทำการสังหารพระชายาแล้ว เขารู้ถึงที่อยู่และลักษณะนิสัยของพระชายา กระทั่งพื้นที่ภายในสวนดอกไม้ได้เป็นอย่างดี”
เยี่ยนไหวจิ่งขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เจ้าต้องการจะบอกสิ่งใด?”
จวินฉางอันไม่อ้อมค้อม “ข้าอยากบอกว่า บางทีจวนของเราอาจมีหนอนบ่อนไส้”
“หนอนบ่อนไส้?” เยี่ยนไหวจิ่งหัวเราะเยาะ “เจ้าคงไม่ได้หมายถึงพวกผู้อาวุโสกระมัง?”
จวินฉางอันไม่ได้ยอมรับตรงๆ แต่ในคำพูดของเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ “นอกจากพวกเขาแล้ว ในจวนนี้ก็ไม่มีผู้ใดเข้าใจวิธีการใช้หนอนพิษ”
เยี่ยนไหวจิ่งเอ่ย “แต่เมื่อครู่เจ้าบอกว่า คนที่ต้องการทำร้ายพระชายาเป็นบุรุษ สตรีพิษผู้นั้นดูเหมือนบุรุษนักหรือ?”
ร่างกายของอีม่านก็ไม่ต่างจากสตรีทั่วไปแม้แต่น้อย ถึงจะขาดความน่ารักอ่อนช้อยไปสักหน่อย ทว่าในร่างกายอีม่านไม่มีคลื่นกำลังภายใน หรือก็หมายความว่าอีม่านไม่รู้วรยุทธ์ แต่เงาที่จวินฉางอันพบในคืนนั้นเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว
สิ่งนี้สรุปได้ว่ามือสังหารไม่มีทางเป็นอีม่าน
จริงๆ แล้วจวินฉางอันสามารถพูดได้ว่า บางทีพวกเขาอาจมิได้มีเพียงสตรีพิษ แต่ยังมีปรมาจารย์พิษคนอื่นอีก? หรือบางทีพวกเขาเอาหนอนพิษจากอีม่านไปมอบให้ยอดฝีมือเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ?
ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดออกไป เขารู้นิสัยของเยี่ยนไหวจิ่งดี ใช้คนอย่าระแวง หากระแวงก็อย่าใช้เขา เช่นเดียวกันกับหลายปีมานี้ เยี่ยนไหวจิ่งไม่เคยสงสัยในความภักดีของเขา เยี่ยนไหวจิ่งไม่มีทางสงสัยผู้มีความสามารถรอบด้านที่ตนเป็นคนเชิญกลับมาแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]