อวี๋หวั่นและคนอื่นๆ ขึ้นรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนอย่างรวดเร็ว
ทว่าหนานกงหลีและราชครูซึ่งอยู่ในสำนักราชครูยังไม่รู้ว่ามีเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี้เกิดขึ้น
ถึงตาราชครูเดินหมาก แต่เขากลับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
หนานกงหลีเข้าใจว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร แต่ยังคงยิ้มน้อยๆ พลางกล่าวว่า “ราชครูกังวลเรื่องใดหรือ”
“ไม่มีอะไร” ราชครูหลุดจากภวังค์ หยิบหมากมาวาง
หนานกงหลีชี้ไปยังที่ว่างด้านข้าง “หากเมื่อครู่ราชครูวางตรงนี้ หมากตานี้ข้าก็คงแพ้ไปแล้ว แต่ท่านพลาดไป ราชครูย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ราชครูยอมให้ข้า หรือว่าแท้จริงแล้วไม่อยากเดินหมากกับข้ากันแน่?”
“องค์ชายคิดมากไปแล้ว” ราชครูตอบ
องค์ชายน้อยกลับมิได้รีบร้อนเดินหมากจนราชครูหมดหนทางรอด เขาวางหมากลงบนตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้อง แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ราชครูกำลังนึกถึงเจ้าโจรนั่นอยู่หรือ?”
ราชครูไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ “ข้าคิดไม่ออกว่าเขาเป็นใคร มาทำอะไรที่สำนักราชครู”
หนานกงหลีแค่นเสียง ‘หึ’ แล้วบอกว่า “หากไม่ได้มาสืบข้อมูลก็ขโมยของ ราชครูมีของอะไรหายไปหรือไม่?”
ราชครูส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่กระจ่าง”
สำนักราชครูใหญ่เพียงนี้ หากไม่ใช่คนหายไป ไหนเลยจะตรวจสอบได้ง่ายๆ?
หนานกงหลีมิได้รบเร้า “ไม่ต้องรีบร้อน รอให้จับโจรได้ก่อนแล้วค่อยตรวจสอบให้ละเอียด”
ทันทีที่พูดจบ ลูกศิษย์สำนักราชครูคนหนึ่งก็วิ่งหัวหกก้นขวิดเข้ามา “ราชครูขอรับ!”
ราชครูเห็นท่าทางร้อนเช่นนี้ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น”
ลูกศิษย์อ้าปากพะงาบ มองไปยังราชครู จากนั้นก็มองไปยังหนานกงหลี เขาไม่รู้ว่าควรบอกว่าอย่างไรดี
หนานกงหลีเอ่ยขึ้นว่า “มีอะไรก็ว่ามาตามตรง พวกเขาถูกจับได้หรือว่าหนีไปได้?”
ลูกศิษย์กัดฟันพูดออกไปว่า “นะ…หนีไปแล้วขอรับ…”
“หนีไปแล้ว?” หนานกงหลีตะลึงงัน
“พวกเจ้าไม่ได้ตามไปรึ?” ราชครูถาม
“ตามแล้วขอรับ! แต่ว่า…” ลูกศิษย์เหลือบมองหนานกงหลีอย่างกล้าๆ กลัวๆ
หนานกงหลีจึงบอกว่า “เลิกอมพะนำสักที มีอะไรก็พูดมาตามตรง”
“ขอรับ!” ลูกศิษย์ก้มหน้างุด “หน่วยกล้าตายที่ส่งไป…ตะ…ตายหมดแล้วขอรับ…”
อีกทั้งยังตายอย่างอนาถอีกด้วย ซากศพก็ไม่สมบูรณ์ เขาไปดูในป่ามาแล้ว สภาพน่าเวทนาจนมิอาจทนดูได้ ลูกศิษย์สำนักราชครูหลายคนกลัวจนอาเจียนออกมา เขายังนับว่าจิตแข็ง แต่เมื่อหวนนึกถึงภาพนั้น เขาก็อดขาสั่นขึ้นมาไม่ได้
“ตายหมดแล้ว? ไม่เหลือเลยสักคน?” ราชครูมีสีหน้าย่ำแย่ หน่วยกล้าตายที่ส่งไปเหล่านั้นล้วนเป็นหัวกะทิของสำนักราชครู เจ็ดแปดคนในนั้นยังเป็นหน่วยกล้าตายหน้ากากทอง ตายง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
“ใครฆ่า?” หนานกงหลีถาม
“เป็น…ใต้เท้าท่านนั้น…ที่องค์ชายพามาขอรับ…” ลูกศิษย์ทำใจดีสู้เสือ
ราชครูมองไปยังหนานกงหลีด้วยสีหน้าเย็นชา หนานกงหลีหยิบหมากเก็บใส่กล่อง ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน “นำทาง”
ลูกศิษย์ตอบว่า “ขอรับ!”
ด้วยการนำทางของลูกศิษย์คนนี้ หนานกงหลีและราชครูก็ควบม้ามาถึงจุดเกิดเหตุ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งระคนกับกลิ่นดินและต้นหญ้าถูกพัดตามลมเหนือแผ่นน้ำมาแตะจมูกของพวกเขา
ทุกคนต่างรู้สึกคลื่นเหียนราวกับอวัยวะภายในกำลังบิดวน ลูกศิษย์บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับไปทันที
ราชครูจับจ้องไปยังเศษซากที่กองอยู่บนพื้นหญ้า ฝ่ามือใหญ่กำแน่น
เขาสูดหายใจเข้าลึก “องค์ชาย…”
หนานกงหลียกมือขึ้น “ข้าเข้าใจ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะข้า หน่วยกล้าตายที่ตายไป ข้า
จะชดใช้ให้ทั้งหมด”
พูดจบ หนานกงกลีก็ไม่สนใจราชครูอีก เขาเพียงเดินไปยังริมน้ำ
ซิวหลัวนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาสีเลือดของเขาจับจ้องไปยังผิวน้ำซึ่งทอประกายใต้แสงจันทร์
“เจ้าเป็นอะไร” หนานกงหลีเดินเข้าไป คำพูดของเขาฟังดูคล้ายกับถามว่าซิวหลัวเป็นอย่างไร แต่ก็ฟังดูคล้ายกับถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ทว่าซิวหลัวไม่ตอบ สายตายังคงจ้องมองผิวน้ำเบื้องหน้า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เขาถูกขังมานาน และยังทนทุกข์ทรมานมานานเหลือเกิน เพิ่งออกมาได้ไม่เท่าไรก็ลงมือสังหารคนที่ไม่ควรสังหาร แต่ต่อมาหนานกงหลีก็สามารถควบคุมซิวหลัวได้ และไม่เกิดปัญหาตามมาอีก
วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หน่วยกล้าตายนับสิบคนถูกเขาสังหารทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]