รุ่งอรุณฟ้าสาง อวี๋หวั่นค่อยๆ ตื่นขึ้นจากการหลับฝัน
เมื่อคืนคนทั้งสองดื่มด่ำกันจนดึก อวี๋หวั่นจำไม่ได้ว่าเธอหลับไปตอนไหน ลืมตาอีกทีก็เช้าเสียแล้ว
อวี๋หวั่นมองท้องฟ้าที่สว่างโล่ง แล้วก็แอบถอนหายใจ เฮ้อ ตื่นสายอีกแล้วสิ
ยามที่อยู่จวนคุณชายเมื่อก่อนนั้นยังปลอบใจตัวเองได้ว่า สามารถนับเงินจนมือเป็นตะคริวหรือนอนหลับแล้วตื่นเองตามธรรมชาติเพราะไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ในจวน แต่ตอนนี้ละจะอ้างอย่างไรได้? ผู้ใหญ่ก็อยู่กันมากมาย แถมยังนอนตื่นสายขึ้นทุกวัน
“เฮ้อ ข้านี่ชักเหลวไหลจริงๆ!”
อวี๋หวั่นเอามือปิดตากล่าวด้วยความละอายใจ
โชคดีที่ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เคยใส่ใจ
ฮูหยินผู้เฒ่ามีหลานแสนดีผู้งดงามและเหล่าไข่ดำตัวน้อย จึงไม่ยี่หระกับหลานสะใภ้อัปลักษณ์เพียงคนเดียว…
อวี๋หวั่นยกผ้านวมและลุกขึ้นนั่ง เมื่อเอื้อมมือเปิดม่านก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ที่ชวนให้รู้สึกชื่นใจ
เธอมองไปเห็นดอกซานฉาฮวาสีขาวบริสุทธิ์บ้างก็สีชมพูสองสามดอกในแจกันบนโต๊ะข้างเตียง ดอกไม้บานสะพรั่งเต็มที่แต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีหม้อข้าวหม้อแกงลิงไล่ยุงไล่แมลงอีกสองดอกในแจกัน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเข้ากับความงามของเธอ
ไม่จำเป็นต้องเดาว่าใครเป็นคนทำ
เมื่อนึกถึงภาพเขาไปเก็บดอกไม้และหม้อข้าวหม้อแกงลิงจากสวนในยามเช้าเพื่อมาใส่แจกันให้เธอ อวี๋หวั่นก็รู้สึกอบอุ่นจากก้นบึ้งของหัวใจ
เยี่ยนจิ่วเฉาอาบน้ำยาเสร็จแล้ว ในยามนี้เขากำลังนั่งอยู่หน้าเตียงอย่างเงียบสงบ พลิกเปิดอ่านหนังสือในมือด้วยความตั้งใจ แสงอาทิตย์ทอประกายสีทองกระทบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เขาจมอยู่ในโลกของตัวเอง ทั่วทั้งร่างกายคล้ายกับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของหนังสือเศรษฐศาสตร์การเมือง
สามีของข้านี่…ทั้งหล่อเข้มทั้งน่ารักเสียจริง…
อวี๋หวั่นอดยกยิ้มมุมปากไม่ได้ เมื่อสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตา
หลังจากล้างหน้าล้างตากลับมาถึงโต๊ะเครื่องแป้งก็จัดแจงหวีผม เมื่อเปิดลิ้นชักออกมาก็เห็นปิ่นปักผมมุกด้ามใหม่
นับดูแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกเขาทำให้ประหลาดใจ แม้เขาจะไม่ใช่คนช่างพูด แต่ภายในห้องบางครั้งบางคราวก็มีสิ่งของที่เขาตั้งใจเตรียมไว้อย่างดี
อวี๋หวั่นรู้สึกว่าสามีของเธอกำลังจะทำให้เธอลุ่มหลงจนตายแล้วเป็นแน่!
อวี๋หวั่นเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มกริ่ม มือสองข้างไพล่อยู่ด้านหลัง ค่อยๆ ย่อตัวลงและพุ่งไปข้างหน้าเขา “เยี่ยนจิ่วเฉา หากวันหนึ่งท่านถูกวางยา ท่านจะลืมข้าหรือไม่?”
“ลืมอะไรกัน? ขี้เหร่ขนาดนี้น่ะรึ?” เยี่ยนจิ่วเฉาครุ่นคิดอย่างจริงจัง “อื้มม น่าจะลืมไม่ลง”
อวี๋หวั่นใบหน้ามืดหม่น
ไม่ซาบซึ้งอะไรมันแล้ว คิดแต่อยากตีบุรุษผู้นี้ให้ตายนัก!
ช่วงนี้จวนเห้อเหลียนนับว่าสงบลงพอสมควร ฮูหยินผู้เฒ่าได้บุตรชายคนเล็ก ทั้งยังได้สะใภ้ที่งามดั่งบุปผาล้ำค่าดั่งหยก ไม่กล่าวว่าทุกวันนี้เบิกบานใจเพียงใด บุตรชายคนเล็กยุ่งกับงานราชการ ไม่ได้มาที่ห้องของนางบ่อยนัก แต่เพราะสะใภ้กตัญญูอย่างไรละ! ทุกๆ วันนางจะไปเล่นไพ่ใบไม้กับฮูหยินผู้เฒ่าผู้นี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งยังสอนให้นางเล่นทุยไผจิ่ว ทอยลูกเต๋าและพนันสูงต่ำ(ไฮโล)!
ฮูหยินผู้เฒ่าสดใสร่าเริงราวกับเทพเซียน!
เมื่อเทียบกันแล้ว ชีวิตของไข่ดำทั้งสามช่างน่าสังเวช
เมื่อสองวันก่อนอากาศไม่ดีนัก ไข่ดำเล็กทั้งสามป่วยไข้เพราะลมหนาว เริ่มจากเสี่ยวเป่าจามตลอดทั้งคืน จากนั้นเอ้อร์เป่าก็เริ่มไอและสุดท้ายต้าเป่าก็ตัวร้อนมึนงงตลอดทั้งวัน
จนกระทั่งเช้า จมูกน้อยๆ ของเด็กทั้งสามก็พ่นฟองน้ำมูกกันหมด
เด็กน้อยที่ไม่สบายเปลี่ยนมาติดคนงอมแงม
พวกเขาทั้งสามนั่งบนธรณีตูประอย่างน่าเวทนา เมื่อเห็นอวี๋หวั่นเดินมา เสี่ยวเป่าก็ยื่นมือน้อยๆ ออกไปด้วยแววตาน่าสงสาร “ท่านแม่ กอด”
อวี๋หวั่นอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมากอดและลูบหน้าผาก “ยังร้อนอยู่เลย กินยาแล้วหรือยัง?”
เสี่ยวเป่าซุกหน้ากับคอของมารดาและเอ่ยเสียงออดอ้อน “เสี่ยวเป่าไม่กินยา”
“ไม่กินก็จะไม่หาย” อวี๋หวั่นปลอบโยนเบาๆ
เยี่ยนจิ่วเฉาเดินเข้ามา ใช้ปลายนิ้วเรียวดั่งหยกลูบบุตรชาย
เสี่ยวเป่าคิดว่าเขาจะพาตนเองไป พลันทำเสียงฮึดฮัด “ไม่เอากอดของพ่อตัวเหม็น!”
เยี่ยนจิ่วเฉาเขกหัวเขาไปหนึ่งที
เสี่ยวเป่าเจ็บจนน้ำตาคลอ!
เยี่ยนจิ่วเฉาคว้าตัวต้าเป่าและเอ้อร์เป่าขึ้นมา
อาการของเด็กทั้งสองรุนแรงกว่าเสี่ยวเป่า พวกเขามีไข้สูงใบหน้าแดงก่ำ ท่าท่างเจ็บป่วยอิดโรย ศีรษะเล็กพิงไหล่ของบิดาอย่างอ่อนแรง หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงไปแย่งชิงท่านแม่กับเสี่ยวเป่าไปแล้ว ทว่ายามนี้กลับไร้เรี่ยวแรงจะทำเช่นนั้น
จื่อซู ฝูหลิงและสาวใช้มือเท้าว่องไวอีกคนต่างถือชามโจ๊กไว้ในมือ
นี่คืออาหารเช้าของเด็กๆ พวกนางป้อนกว่าครึ่งชั่วยาม ทว่ากลับกินได้เพียงไม่กี่คำ
“ข้าเอง” อวี๋หวั่นกล่าว
ทั้งคู่พาเด็กๆ กลับเข้าไปในห้อง หมายจะวางพวกเขาลงบนม้านั่ง แต่ทั้งสามกลับไม่มีใครยอมปล่อยมือ
ในที่สุด อวี๋หวั่นจำต้องป้อนเสี่ยวเป่าในอ้อมแขนของเธอก่อน จากนั้นจึงอุ้มเสี่ยวเป่าและเดินไปป้อนต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าที่อยู่ในอ้อมแขนของเยี่ยนจิ่วเฉา
เสี่ยวเป่าไข้ไม่สูงมาก ยังนับว่ากินอาหารได้ดี โจ๊กหมดไปถึงครึ่งชาม ส่วนต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าอย่างไรก็กินไม่ลง
อวี๋หวั่นทรมานใจ ลูบหัวน้อยๆ ของพวกเขา “อยากกินถังหูลู่หรือไม่?”
ทั้งสองพยักหน้าเลื่อนลอย
ทว่าเมื่อถังหูลู่ถูกซื้อกลับมา ทั้งสองก็ยังกินไม่ลงอยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]