หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 280

องค์ประมุขคือผู้ปกครองไพร่ฟ้า

ไม่ว่าเขาจะทำเรื่องใด ไม่จำเป็นต้องให้คนข้างกายมายกมือยกไม้วิพากษ์วิจารณ์หรือออกคำสั่ง ดังนั้นแม้ว่าเขาจะแปลกใจยิ่งนักว่าเหตุใดองค์ประมุขถึงมาอยู่ที่นี่ ทว่าเห้อเหลียนเป่ยหมิงก็ไม่ถามแม้เพียงคำเดียว ได้แต่พาครอบครัวทั้งหมดขึ้นรถม้าจากไป

ไข่ดำน้อยทั้งสามถูกครอบครัวเห้อเหลียนเอาไป

หัวใจขององค์ประมุขวังเวงว่างเปล่า

แขนของเขายังคงมีอุณหภูมิร่างกายของเด็กชายตัวน้อยๆ และกลิ่นนมจางๆ ตัวเล็กอ้วนกลมนุ่มนิ่มเช่นนั้น เพียงแค่นึกถึงก็สามารถละลายหัวใจของผู้คนได้

ขันทีหวังและสารถีก็รู้สึกหดหู่อยู่เล็กน้อย เด็กน่ารักเช่นนั้น พวกเขายังกอดไม่พอเลย

“ฝ่าบาท ยามนี้พวกเรายังไปที่จวนเลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ขันทีหวังถาม

องค์ประมุขไม่มีอารมณ์อยากหลีกหนีโลกอีกแล้ว เขาหยุดชะงักและตรัสว่า “กลับวัง”

คนทั้งกลุ่มขึ้นรถม้าเดินทางกลับวังหลวง

ฮองเฮาอภิเษกกับองค์ประมุขมานานหลายปี จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าในใจเขาคิดอะไร? เสร็จจากว่าราชการช่วงเช้าก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เกรงว่าคงไปหาที่สงบสะอาดซ่อนตัว รอให้นางหลับไปก่อนจึงกลับวัง เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

สิ่งเช่นนี้มิใช่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อองค์ประมุขเสด็จออกจากวังหลวง ฮองเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทไม่เต็มใจยอมรับคำวิงวอนของตน วันรุ่งขึ้นนางจึงไม่ตรัสถึงเรื่องนี้อย่างเข้าใจดี ทว่าครั้งนี้เรื่องใหญ่สำคัญยิ่ง

ไม่ว่าเขาจะกลับมาพรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรือสิบวันครึ่งเดือน นางก็ต้องอ้อนวอนเพื่อบุตรสาว

“ทูลฮองเฮา ฝ่าบาทเสด็จกลับมาแล้วเพคะ” ข้ารับใช้หญิงกล่าวรายงาน

ฮองเฮามองท้องฟ้าที่ยังไม่มืดสนิทพลางเอ่ยพึมพำ “ตอนนี้หรือ?”

มิต้องรอจนกว่านางจะหลับแล้วจึงกลับวังหรือ?

นี่มันเร็วเกินไปหรือไม่…

ขันทีหวังเปิดม่านออก

องค์ประมุขเดินเข้ามาด้วยสีหน้าราบเรียบ

ฮองเฮาโบกพระหัตถ์ให้ข้ารับใช้หญิงถอยออกไป จากนั้นจึงเดินไปข้างหน้าช่วยเขาผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ “ข้าได้ยินมาว่าฝ่าบาทออกจากวังหลวง”

องค์ประมุขไม่ได้ปฏิเสธ “ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายตาเจ้า”

ฮองเฮาถอดเสื้อคลุมที่หนักอึ้งและเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบบางเบาให้เขา “เป็นสามีภรรยากันมาหลายปี ในใจท่านคิดสิ่งใด ข้าก็พอจะเดาออกอยู่บ้าง ข้าได้ยินเรื่องเยี่ยนเอ๋อร์กับราชบุตรเขยมา ท่านคงกลัวว่าข้าจะขอร้องแทนพวกเขาทั้งสองกระมัง?”

องค์ประมุขนั่งลงบนเก้าอี้ ถอนหายใจยาวเหยียด

ฮองเฮาถอดเครื่องประดับพระเศียรของเขา “พวกเขาก็ทำเกินไปอยู่บ้าง หากราชบุตรเขยรักเยี่ยนเอ๋อร์จริง เขาก็ควรมาสู่ขอนางถึงที่อย่างเปิดเผย มิใช่กังวลว่าเราจะไม่ยอมรับ และใช้ชีวิตอยู่กับนางเสียก่อน คาดไม่ถึงเลยจริงๆ ใต้หล้านี้ไม่มีกำแพงใดกั้นลมได้ ไม่ว่าความลับจะถูกซ่อนไว้ดีเพียงใด สุดท้ายความจริงก็ต้องกระจ่างขึ้นมาสักวัน”

หลังจากถอดเครื่องประดับออก มวยผมก็ปล่อยลงมา องค์ประมุขรู้สึกว่าศีรษะของเขาเบาสบาย

ฮองเฮาตรัสต่อ “หากข้ารู้ว่าราชบุตรเขยมีครอบครัวอยู่แล้ว ต่อให้ต้องตัดขาเยี่ยนเอ๋อร์ ข้าก็ไม่ยอมให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน”

องค์ประมุขก็เห็นด้วย

บุตรีสกุลหนานกงไม่จำเป็นต้องแย่งชิงบุรุษที่แต่งงานแล้ว

“ซีเอ๋อร์ต้องไม่ทำเช่นนี้ในอนาคต” องค์ประมุขกล่าว

แม้ว่าหนานกงซีจะเป็นบุตรบุญธรรม แต่อย่างไรนางก็อยู่ในราชพงศาวลีของราชวงศ์ ซึ่งหมายความว่านางก็คือองค์หญิงที่แท้จริงแห่งหนานจ้าว ทั้งคำพูดและการกระทำแสดงถึงศักดิ์ศรีของราชวงศ์หนานจ้าว เรื่องมารดาของนางไม่อาจปล่อยให้เกิดเรื่องซ้ำรอย นางไม่ได้รับอนุญาตให้กระทำสิ่งผิดพลาดใดอีก

“การแต่งงานของซีเอ๋อร์ข้ารู้ดี” ฮองเฮาหาหวีเพื่อหวีผมให้กับองค์ประมุข นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาจะผ่อนคลายที่สุดในแต่ละวัน และเป็นวิธีง่ายที่สุดที่จะทำให้เขายอมรับคำขอของนาง

ขณะที่หวีผมเบาๆ ไปพลาง ฮองเฮาก็ตรัสด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เรื่องราชบุตรเขย ท่านจะตัดสินใจอย่างไรก็ได้ ทว่าควรจะปกปิดมันไว้ อย่าให้พวกเขาต้องถูกผู้คนทั่วหล้าวิพากษ์วิจารณ์ หรือประกาศความจริงต่อสาธารณะ ข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะกล่าว เพียงแต่…เยี่ยนเอ๋อร์เป็นเลือดเนื้อของเรา ท่านอย่าได้ทอดทิ้งนางไปจริงๆ เลยนะเพคะ”

องค์ประมุขจับมือของนางที่กำลังหวีผม พร้อมกับหันไปมอง “ข้าเคยกล่าวเช่นนั้นเมื่อใด?”

ฮองเฮาเม้มริมฝีปาก “ท่านมิได้เอ่ย ทว่าในใจของท่านก็ผิดหวังต่อนางไปแล้ว”

องค์ประมุขถอนหายใจอีกครั้ง “นางทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ ข้าไม่ควรผิดหวังต่อนางหรือ? ไม่ว่าข้าจะเป็นพ่อของนาง หรือเป็นองค์ประมุขของนางก็ตาม อย่างไรก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อนางได้”

สีหน้าฮองเฮาชะงัก “เช่นนั้นท่านคิดจะทำเช่นไร?”

องค์ประมุขตรัส “ตรวจสอบความจริงก่อน”

“หลังจากนั้นเล่า?”

“จัดการอย่างเป็นกลาง”

ฮองเฮาไม่คาดคิดว่านางไม่ได้อ้อนวอนมานานถึงเพียงนี้ ยามนางเอ่ยปากอีกครั้ง กลับได้เพียง ‘จัดการอย่างเป็นกลาง’

ดูเหมือนองค์ประมุขจะตัดสินใจแน่วแน่ที่จะทำตามหน้าที่ของพระองค์

ฮองเฮามองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด จากสิ่งที่นางเข้าใจเกี่ยวกับสามี เขาไม่มีทางปฏิเสธง่ายๆ เช่นนี้ เมื่อครู่เกิดสิ่งใดขึ้น ถึงทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป?

หากกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็คงจะไม่มี อย่างน้อยองค์ประมุขเองก็ยังบอกไม่ได้ แต่องค์ประมุขมีความมุ่งมั่นมากขึ้นเป็นพิเศษ ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าความมุ่งมั่นนี้มาจากที่ใด

แน่นอนว่าหากฮองเฮายังคงขอร้องต่อไป องค์ประมุขก็อาจใจอ่อนในที่สุด

ทว่าฮองเฮาไม่ได้ทำเช่นนั้น

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางทำให้บุตรีเสียคน นิสัยเช่นนี้แม้แต่ตี้จีก็ยังไม่อาจเป็นได้ ยิ่งไม่อาจเป็นประมุขแห่งหนานจ้าว

สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นับว่าเป็นบทเรียน

อย่างไรองค์ประมุขก็ตรัสแล้วว่าไม่มีทางละทิ้งเยี่ยนเอ๋อร์

ฮองเฮาตัดสินใจเช่นนี้ได้เพราะนางเชื่อว่าราชบุตรเขยกับประมุขหญิงมีใจต้องกัน ประมุขหญิงมีเพียงความผิด ทว่าไม่นับว่ามีโทษ หากแต่หนานกงหลีรู้ดีว่าท่านพ่อถูกท่านแม่เก็บไว้ข้างกายได้อย่างไร

เมื่อความจริงถูกเปิดเผย สิ่งที่รอคอยท่านแม่จะไม่ใช่การลงโทษธรรมดา แต่อาจเป็นถึงหายนะอันใหญ่หลวง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]