หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 299

เยี่ยนจิ่วเฉาพูดจริงทำจริง

ถึงจะปล่อยให้แม่ของหูจื่อโขกศีรษะจนเลือดไหล เขาก็ยังจะตัดมือข้างหนึ่ง

แต่เป็นมือพ่อของหูจื่อ

พ่อของหูจื่อหดหัวอยู่ในกลุ่มคน มิได้มองทั้งลูกและภรรยา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ได้อย่างไรว่าเขาคือพ่อของหูจื่อ

เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ชอบกลิ่นคาวเลือด

อิ่งสือซันจึงจับเขาไปตัดมือในลานหลังบ้าน

จะตัดมือเขาก็ไม่ผิด เขาให้ลูกและภรรยาออกไปทำงาน ส่วนตนขลุกอยู่แต่ในบ้านคอยนับเงิน เมื่อเกิดเรื่องก็เอาตัวรอดแต่เพียงผู้เดียว บุรุษที่ใจร้ายใจดำเช่นนี้ โดนตัดมือไปข้างหนึ่งก็นับว่าสมควรแล้ว

เสียงของพ่อหูจื่อดังลั่นไปทั่วเรือน

ผู้คนซึ่งเดิมทีกลัวเพียงเจ็ดส่วน หลังจากที่พ่อหูจื่อถูกตัดมือ พวกเขาก็กลัวจนลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ปัสสาวะรดกางเกง

แม่ของหูจื่อเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น

หูจื่อและพรรคพวกกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะร้องไห้ออกมา

หลังจากวันนี้ ภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้จะกลายเป็นเงามืด ตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต

แต่ว่าเยี่ยนจิ่วเฉาเห็นใจหรือ?

ไม่เลย

ถ้าหากลูกของเขาไม่ได้ถูกเลี้ยงมาเป็นอย่างดี คนที่จะมีเงามืดตามหลอกหลอนไปตลอดชีวิตก็คือลูกชายของเขา

เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว

อิ่งสือซันจับพ่อของหูจื่อซึ่งกำลังเจ็บปวดจนหมดสติไปใส่ถุงกระสอบแล้วลากออกมาจากลานหลังบ้าน สิ่งที่ถือออกมาพร้อมกับถุงกระสอบก็คือกล่องไม้ ในกล่องไม้บรรจุอะไรนั้น ทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจ

และเป็นเพราะรู้อยู่แก่ใจ จึงตัวสั่นเทิ้มยิ่งกว่าเดิม

อิ่งสือสือซันโยนถุงกระสอบและกล่องไม้ออกไปนอกประตูด้วยท่าทางประหนึ่งโยนหัวผักกาดขาวเน่าๆ ออกไป

สิ่งที่เรียกว่าไม่เห็นค่าของชีวิตผู้ใด ก็คือสิ่งนี้แหละ!

เมื่อเทียบกันแล้ว การเขวี้ยงไข่เน่าใส่หรือการตบตีนั้นไม่อาจสู้ได้

ผู้คนต่างตระหนักแล้วว่าพวกเขาได้ไปหาเรื่องปีศาจกลุ่มหนึ่ง หากรู้แต่แรกว่าเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็จะไม่ไปหาเงินก้อนนั้นเป็นอันขาด เพียงแต่ว่าตอนนี้ถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว…

“คุณชายโปรดไว้ชีวิตด้วย! คุณชายโปรดไว้ชีวิตด้วย! พวกเราไม่ได้ตั้งใจ! พวกเราไม่ทันระวัง!”

“ใช่แล้วขอรับคุณชาย! พวกข้าไม่มีทางเลือก! มีคนสั่งให้พวกข้าทำ!”

“คุณชายได้โปรดเห็นแก่พวกเราที่มีผู้เฒ่าผู้แก่และเด็กต้องเลี้ยงดูด้วยเถิด!”

“คุณชายปล่อยพวกข้าไปเถิดขอรับ! พวกข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว!”

“พวกข้าไม่ได้แตะต้องคุณชายน้อยแม้แต่นิดเดียว! เป็นพวกหูจื่อ! เป็นพวกเขา! พวกเขาเป็นคนทำ!”

“พวกเจ้าพูดพล่อยอะไร? ก็เห็นอยู่ว่าทำด้วยกัน ทำไมโยนมาให้ข้าซะละ? เจ้าคนแซ่จาง! เป็นเจ้าที่รับเงินแล้วเรียกให้ข้ามาทำการใหญ่ด้วยกันไม่ใช่เรอะ!”

“ข้า…ข้าให้พวกเจ้ารังแกคุณชายน้อยรึ? ขะๆๆ…ข้า…ข้าให้พวกเจ้ารังแกนางคนนั้นต่างหาก!”

“เจ้าบอกว่าให้ตบตีคุณชายน้อยต่างหาก!”

พวกเขาเริ่มแตกคอกันเอง

เยี่ยนจิ่วเฉาและพวกอิ่งสือซันยืนมองด้วยสีหน้าเย็นชา

กลุ่มคนซึ่งก่อนหน้านี้ร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่น พริบตาเดียวก็ตกใจกลัวจนกลายเป็นเม็ดทรายที่กระจายอยู่ในจาน ดังนั้นสิ่งที่เรียกว่ามโนสำนึก ใช่ว่าจะมีกันทุกคนจริงๆ

ขณะที่พวกเขาเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้นและกำลังจะลงไม้ลงมือ เยี่ยนจิ่วเฉาก็ชี้นิ้วออกมา

อิ่งสือซันกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “หุบปาก!”

พวกเขาเงียบลงทันที

เยี่ยนจิ่วเฉาเดินเข้ามาอย่างมิได้รีบร้อน “พวกเจ้าได้รับคำสั่งจากผู้ใด ใครระบุตัวตนและลักษณะของคนผู้นั้นได้ก่อน ข้าจะปล่อยไป”

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับพ่อของหูจื่อทำให้พวกเขาหวาดกลัว พวกเขาได้เห็นแล้วว่า ผู้ที่ข่มขู่ให้พวกเขาทำเรื่องนี้ก็ยังไม่น่ากลัวเท่าคุณชายคนนี้ คุณชายคนนี้ยังหนุ่มยังแน่น หน้าตางดงามแลดูบริสุทธ์ผุดผ่อง แต่จิตใจกลับโหดเหี้ยมอำมหิต!

นี่ไม่ใช่คุณชายแล้ว นี่มันคนบ้า!!!

“ข้าพูด! ข้าพูด!”

บุรุษฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าคลานเข้ามา

“เจ้าถอยไป! ข้าพูดเอง!” ขอทานอายุห้าสิบต้นๆ เข้ามาจากทางด้านข้าง เขาก็คือคนแซ่จางคนนั้น เป็นขอทานมานานหลายปี จนก่อตั้งกลุ่มขึ้นมา และถูกเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่เรียกว่าหัวหน้าจาง

หัวหน้าจางเปรียบดังงูเจ้าถิ่นตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง เขามีหน้ามีตาอยู่บ้าง และสามารถปกปิดสิ่งที่ทำได้อย่างไร้ร่องรอย ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงมีความสามารถในการแสวงหาทรัพย์ศฤงคารจากอันตรายมากกว่าผู้ใด เพียงแต่ว่าเขาคำนวณผิดพลาดไป เขาคิดมาตลอดว่าจวนประมุขหญิงคือผู้มีอำนาจสูงสุด แต่จวนสกุลเห้อเหลียนไม่ช้าก็เร็วก็ต้องกลายเป็นหินรองเท้าให้จวนประมุขหญิงเหยียบ

ผลก็คือสกุลเห้อเหลียนจะถึงหรือไม่ถึงจุดจบไม่รู้ แต่เขากำลังจะถึงคราวหายนะแล้ว

“คุณชายได้โปรดปล่อยข้าไปเถิดขอรับ ข้ารู้สิ่งใด! ข้าจะบอกทั้งหมด!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]