หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 314

ส่วนไป๋เชียนหลีคิดอย่างไร เขาถูกปิดปังอยู่หรือไม่ ย่อมไม่อาจรู้ได้

ไป๋เชียนหลียังคงระแวดระวัง เขามองไปทางประตูใหญ่

เยี่ยนจิ่วเฉาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่ต้องมองหรอก หน่วยกล้าตายทั้งหมดถูกจัดการไปแล้ว องครักษ์ก็คงไม่ได้มาเร็วขนาดนั้น”

เรือนหลังนี้มีหน่วยกล้าตายคอยคุ้มกัน แต่ก็จะมีองครักษ์ของหนานกงเยี่ยนมาตรวจตราทุกวัน อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันได้ตรวจสอบตารางการลาดตระเวนของพวกเขาแล้ว ยังมีเวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งชั่วยามกว่าจะถึงเวลาลาดตระเวน

หากไป๋เชียนหลีต้องการหนี พวกเขาก็จะช่วย แต่หากเขาคิดจะต่อสู้ พวกเขาก็จะสังหารเขาเสีย

เยี่ยนจิ่วเฉาไม่สนว่าไป๋เชียนหลีตกใจเพียงใด เขาเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างผึ่งผาย

อิ่งสือซันยกกาน้ำชาขึ้นมารินชาให้เขา และหยิบขนมซึ่งเดิมทีอยู่ตรงหน้าของไป๋เชียนหลีมาวางไว้ข้างมือของคุณชายบ้านตน แม้ว่าเขาจะไม่กิน แต่ก็ต้องหยิบมาวางตรงหน้า

ไป๋เชียนหลีถูกนายบ่าวทั้งสามทำให้สับสนไปหมด เขาเคยพบคนที่มาหาเรื่อง กระนั้นก็ไม่เคยเจอคนที่อยู่ๆ ก็มาทำตัวเป็นเจ้าบ้านเช่นนี้ เขาเป็นใครกันแน่?

“ดื่มชาไหม?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามพลางยกถ้วยชาขึ้นมา

ไป๋เชียนหลีพยักหน้าด้วยความงุนงง

“อืม” เยี่ยนจิ่วเฉาส่งสายตาให้อิ่งสือซัน อิ่งสือซันจึงรินชาให้ไป๋เชียนหลีอีกถ้วยหนึ่ง

ไป๋เชียนหลีขมวดคิ้ว นี่มันออกจะแปลกๆ อยู่สักหน่อย

เขาเป็นเจ้าบ้าน ไฉนจึงรู้สึกคล้ายกับตนเองเป็นแขกกันนะ

คุณชายไม่ชอบกลิ่นคาวเลือดเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ชอบกลิ่นน้ำหมึกเป็นอันดับสอง เขารู้สึกว่ากลิ่นเหม็นเหลือเกิน ดังนั้นอิ่งลิ่วจึงไปเปิดหน้าต่าง แล้วหยิบชุดน้ำหมึกของไป๋เชียนหลีไปไว้นอกหน้าต่าง จากนั้นก็ปิดหน้าต่างลายฉลุบนเสีย

ไป๋เชียนหลี “…”

เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวอย่างไม่รีบร้อนว่า “บอกมา เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้ากับหนานกงเยี่ยน? แน่นอนว่าเจ้าอาจไม่อยากบอก แต่ว่าข้าก็มีวิธีทำให้เจ้าบอก”

ดูๆๆๆๆๆ คำพูดคำจานั่น กำลังข่มขู่เขาชัดๆ

“ข้าเคยได้ยินเรื่องของเจ้า” ไป๋เชียนหลีไม่ได้รีบตอบเยี่ยนจิ่วเฉา ไม่รู้ว่าเขาไม่อยากบอก หรือว่าเขาไม่อยากรีบบอก เพื่อให้เยี่ยนจิ่วเฉาไม่รู้ว่าการข่มขู่นั้นได้ผล

อย่างไรเสียนี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์อะไร

เยี่ยนจิ่วเฉากลับรู้สึกสนอกสนใจ เขายกชาขึ้นมาจิบ แล้วบุ้ยใบ้ให้ไป๋เชียนหลีพูดต่อ

ไป๋เชียนหลีนับว่าเยือกเย็น แต่ภายในจิตใจของเขายังคงมีคลื่นยักษ์โหมซัดไม่หยุด เขาพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติว่า “ทุกๆ วัน บ่าวของที่นี่จะออกไปซื้อกับข้าว พวกเขาจะนำเรื่องข้างนอกมาบอกกับข้า มีทั้งเรื่องของราชบุตรเขย เรื่องของเจ้า บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ข้าถาม บางครั้งก็เป็นเรื่องที่พวกเขาเล่าเอง เจ้านั้น…”

ไป๋เชียนหลีอยากพูดว่า ‘ปกติกว่าที่ข้าจินตนาการไว้มาก’ แต่คำพูดกลับมาติดอยู่ที่ริมฝีปาก เขาคิดว่าหากตนพูดออกไปเช่นนั้น คงไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก เขาจึงเปลี่ยนเป็น “เหมือนเยี่ยนอ๋องกว่าที่ข้าจินตนาการไว้มาก”

และนั่นเป็นความจริง

เขาเคยเห็นใบหน้าเดิมก่อนมีรอยแผลเป็นของเยี่ยนอ๋อง เขายังไม่ปักใจเชื่อว่าหนานกงเยี่ยนจะให้ความสำคัญกับเยี่ยนอ๋องมากกว่าตนได้อย่างไร หากกล่าวถึงเรื่องตัวแทน เขาเดาว่าเยี่ยนอ๋องน่าจะเป็นตัวแทนของเขา เมื่อได้พบตัวจริงจึงรู้ว่าระหว่างตนและเยี่ยนอ๋องยังคงมีระยะห่างที่ไม่อาจก้าวข้ามได้

หน้าตา ความสามารถ นิสัย หรือชาติกำเนิด เขาเทียบเยี่ยนอ๋องไม่ได้เลยสักอย่าาง

ครั้งแรกที่เห็นเยี่ยนจิ่วเฉา เขาก็จดจำลูกชายของเยี่ยนอ๋องได้ทันที ไม่ใช่เพราะอะไร หากแต่เป็นเพราะใบหน้านั้นเหมือนกันเหลือเกิน

“แน่นอนว่าเจ้างามกว่าเยี่ยนอ๋องในวัยหนุ่ม”

นี่ก็เป็นความจริง

เดิมทีคิดว่าเยี่ยนอ๋องเป็นบุรุษที่งดงามจนในชีวิตนี้ไม่อาจหาผู้ใดเปรียบ ตราบจนเยี่ยนจิ่วเฉาปรากฏตัว

“โอ้ พูดต่อสิ” เยี่ยนจิ่วเฉาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

คำสรรเสริญเยินยอ คุณชายเยี่ยนฟังไม่เคยเบื่อ

มุมปากของอิ่งสือซันกระตุก คุณชายรักษาหน้าบ้างก็ได้

เข้าเรื่องได้หรือยัง?

โชคดีที่ไป๋เชียนหลียังจำได้ว่าเยี่ยนจิ่วเฉาคือลูกของเยี่ยนอ๋อง จะชมมากเกินไปก็คงดูไม่เหมาะ เขาจึงหยุดไว้ตรงนี้ แล้วเข้าประเด็นหลัก “พ่อของเจ้าไม่รู้ว่าข้ามีตัวตนอยู่กระมัง? ข้าคิดว่าสักวันหนึ่งตัวตนของข้าก็คงต้องถูกเปิดเผย แต่ไม่คิดว่าผู้ที่มาหาถึงที่จะเป็นเจ้า”

คำพูดเหล่านี้เยี่ยนจิ่วเฉาคร้านจะฟัง เพราะมันไม่ใช่ทั้งความจริง และไม่ใช่ทั้งคำชม ใช่ไหมเล่า?

“เลิกพล่ามได้แล้ว!” อิ่งสือซันเห็นว่าคุณชายของตนเริ่มจะหมดความอดทน จึงกล่าวข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เรื่องของเจ้ากับหนานกงเยี่ยน ทางที่ดีเจ้าควรจะพูดความจริงมา! ไม่เช่นนั้นเจ้าได้มีจุดจบที่อนาถแบบหน่วยกล้าตายข้างนอกแน่!”

ไป๋เชียนหลีลอบถอนหายใจ “เรื่องของข้ากับนาง พวกเจ้าเดาออกหมดแล้วไม่ใช่หรือ? ใช่แล้วละ ข้าเป็นลูกของหัวหน้าเผ่าไป๋เอ้อ ข้ามีพี่ชายอีกสามคน ข้าเป็นลูกคนเล็ก”

ไป๋เชียนหลีเล่าประวัติของตนเองอีกไม่น้อย

เผ่าไป๋เอ้อเป็นเผ่าเล็กๆ เผ่าหนึ่งในหนานเจียง หลายปีก่อนยอมสวามิภักดิ์ต่อหนานจ้าว และกลายเป็นดินแดนใต้อาณัติของหนานจ้าว เผ่าไป๋เอ้อมีอำนาจปกครองของตนเอง นอกจากบรรณาการที่ต้องส่งทุกสามปีแล้ว หนานจ้าวก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กับพวกเขาเท่าไร

โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในปีที่ต้องถวายราชบรรณาการ ไป๋เชียนหลีติดตามบิดามายังวังหลวง และได้พบกับตี้จีแห่งหนานจ้าว

ไป๋เชียนหลีตกตะลึงในครั้งแรกที่เห็นตี้จี แต่เขาก็มิได้คิดเกินเลย

โดยเฉพาะเมื่อท่าทีของหนานกงเยี่ยนที่มีต่อเขานั้นช่างหมางเมิน ในสายตาของตี้จีแห่งหนานจ้าวผู้สูงศักดิ์ เผ่าเล็กๆ อย่างพวกเขาคงเทียบไม่ได้แม้แต่ศักดินาหนึ่งด้วยซ้ำ

แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นระหว่างพวกเขา ไหนเลยจะรู้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่เดือน คณะทูตจากหนานจ้าวก็เดินทางไปยังเผ่าไป๋เอ้อ หนานกงเยี่ยนก็ติดตามไปด้วย

ทุกครั้งที่เผ่าไป๋เอ้อส่งบรรณาการ หนานจ้าวก็จะส่งคณะทูตไปยังเผ่า หนึ่งก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ สองก็เพื่อเยี่ยมเยียนผู้คนในเผ่า แต่เรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องถึงมือตี้จีผู้สูงศักดิ์

“ครั้งนั้น สายตาที่นางมองข้าไม่เหมือนเดิม”

พบหน้ากันเพียงครั้งเดียว ยังไม่ทันได้มีความรู้สึกต่อกัน

“นางมาหาข้าและพูดคุยกับข้าอยู่บ่อยครั้ง นางท่าทางเป็นมิตรจนข้าประหลาดใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเหลือเชื่อ ข้าไม่เข้าตานางตั้งแต่ครั้งแรก ภายหลังตี้จีเห็นความดีของข้า จึงมาตามข้าอย่างนั้นหรือ”

ไป๋เชียนหลีกล่าวเช่นนั้น เขาก็หัวเราะเยาะตนเอง “ภายหลังจึงรู้ว่า ไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้นนางเดินทางไปยังจงหยวน และได้พบกับบุรุษซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง และข้าก็โชคร้ายเหลือเกินที่หน้าเหมือนเขาคนนั้น”

หากไม่รู้ความจริงส่วนหนึ่งแล้ว ทุกคนคงคิดว่าไป๋เชียนหลีเป็นตัวแทนของเยี่ยนอ๋อง ความจริงก็เป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น

ไป๋เชียนหลีไม่ได้มีปณิธานอันยิ่งใหญ่ เขาเป็นบุตรชายคนเล็ก เขาไม่จำเป็นต้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่า แต่ก็ไม่ถึงกับอดตาย เขาเพียงแค่กินอยู่ไปเรื่อยๆ จนตาย ไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นที่ถูกตาต้องใจตี้จีแห่งหนานจ้าว

เขาเป็นลูกคนสุดท้อง ไม่มีความจำเป็นต้องแบกภาระหน้าที่แต่อย่างใด ย่อมไม่มีผู้ใดคาดหวังจากเขานัก เมื่อได้ยินว่าตี้จีจากหนานจ้าวชมชอบเขา ท่านพ่อของเขาดีใจเหลือเกิน ทั้งยังบอกอีกว่านี่นับเป็นโชควาสนาในชีวิตของเขา

ตอนแรกเขาก็คิดเช่นนั้น

เพียงแต่เมื่อมาถึงหนานจ้าว เขาก็พบว่าตนเองเป็นเพียงตัวแทนของใครอีกคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]