ที่แท้ท่านก็เป็นภิกษุเช่นนี้!
ในใจของอวี๋หวั่นเกิดคลื่นโหมกระหน่ำ แต่คิดไปคิดมา ดูเหมือนว่าก็มิใช่ไม่มีสัญญาณบ่งบอกเสียทีเดียว
ทักษะการปลอมตัวที่แสนอ่อนหัดของเธอ หลอกสตรีโง่เขลาอย่างหนานกงซียังพอไหว แต่หากจะหลอกต่งเซียนเอ๋อร์เกรงว่ายังไม่ดีพอ ไม่แน่ว่าต่งเซียนเอ๋อร์เห็นแวบแรกก็สามารถมองทะลุถึงเรือนร่างสตรีของเธอแล้ว ดังนั้นการแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว ทั้งยังสั่งสอนหนานกงซีแทนเธอ ไม่มีสิ่งใดนอกจากสืบทราบความสัมพันธ์ของเธอกับสกุลเห้อเหลียนมานานแล้ว
คราแรกน่าจะรู้ว่าเธอเป็น ‘น้องสะใภ้’ ของเห้อเหลียนเซิง แต่หลังจากเธอถูกจวนเห้อเหลียนรับเข้ามา ถึงรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเห้อเหลียนเซิง
แต่ก็ไม่เลวร้าย ตราบใดที่ยังเป็นครอบครัวของเห้อเหลียนเซิง ต่งเซียนเอ๋อร์ก็จะพยายามปกป้องสุดกำลัง
แม้ว่าต่งเซียนเอ๋อร์จะอยู่ในยุทธภพ แม้เกิดจากโคลนตม แต่ไม่เปื้อนสกปรก เป็นแม่นางที่มีความรักที่ลึกซึ้ง แต่ไม่รู้ว่าไฟที่ลุกโชนของนางสามารถเผาโพธิจิตของภิกษุตัวเหม็นผู้นี้ได้หรือไม่
“จะหนีไปไหน!” ตงเซียนเอ๋อร์ปล่อยแพรขาวพุ่งไปขัดขวางเห้อเหลียนเซิง
หลังจากนั้น นางก็คิดจะใช้แพรขาวพันรอบตัวเห้อเหลียนเซิง แต่เห้อเหลียนเซิงกลับหลบเลี่ยงไปได้อย่างง่ายดาย
อวี๋หวั่นนับว่ามองออก ศิลปะการต่อสู้ของต่งเซียนเอ๋อร์หาได้อ่อนด้อย ทว่าน่าเสียดายนางยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเห้อเหลียนเซิง ไม่แปลกใจที่หลายปีขนาดนี้ยังไม่อาจจับเขามาแก้ปัญหาอย่างตรงจุดได้
ต่งเซียนเอ๋อร์ลองอีกสองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ที่คาดไว้ แพรขาวไม่ถูกเห้อเหลียนเซิงเลยแม้แต่น้อย
ต่งเซียนเอ๋อร์โกรธจัด “เห้อเหลียนเซิง! หากเป็นบุรุษก็สู้กับข้า! ถ้าข้าแพ้ข้าจะไม่รบกวนเจ้าอีกต่อไป!”
เห้อเหลียนเซิงยกมือข้างหนึ่ง “อมิตาภพุทธ อาตมาไหนเลยจะสามารถดูหมิ่นสีกา? สีกาจิตใจว้าวุ่น รอเจ้าสงบสติอารมณ์แล้ว อาตมาจะมาขอโทษเจ้าอีกครั้ง”
“อยากไป? ไม่ง่ายดายเช่นนั้นหรอก!” ตงเซียนเอ๋อร์สะบัดแขนเสื้อซ้าย ทันใดนั้นอาวุธลับก็ถูกยิงออกมา
อวี๋หวั่นตะลึงตาค้าง แม่นางต่งเอ๋ยแม่นางต่ง เจ้าเอาจริงหรือ? นี่ทำให้คนตายได้เลยนะ ผู้ใดจะหามาให้เจ้าใหม่อีกคน?
อาวุธลับนั่น มองแวบแรกใช้พลังถึงสิบส่วน อวี๋หวั่นไม่อาจรับประกันว่าเห้อเหลียนเซิงจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างง่ายดาย เห้อเหลียนเซิงไม่ได้หนีไปอย่างแน่นอน เขาถูกบังคับให้ต้องลงมือ เขาปล่อยลูกประคำปัดป้องอาวุธลับที่เกือบปลิดชีพเขา
อาวุธลับนั้นมีพิษ
มันพุ่งเข้าไปในกิ่งไม้ แม้แต่เปลือกไม้ก็กลายเป็นสีดำ
เห้อเหลียนเซิงขมวดคิ้ว สองมือพนมประกบกัน “อมิตาภพุทธ!”
ต่งเซียนเอ๋อร์กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ศีลขาดแล้ว เจ้ายังอมิตาภพุทธอีก!”
แน่นอน ต่งเซียนเอ๋อร์ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเห้อเหลียนเซิงจริงๆ นางเข้าใจในความสามารถของตนเองดี ต่อให้ทั้งร่างกายเปื้อนพิษ ก็ยังไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเห้อเหลียนเซิง นางเพียงแค่ต้องการบังคับให้ภิกษุรูปนี้ต้องออกแรง
น่าเสียดายที่เห้อเหลียนเซิงจะไม่ให้โอกาสนางอีก
เขาใช้ปลายเท้ากระโดดหายไปในความมืด
“หนีไปอีกแล้ว!” ตงเซียนเอ๋อร์กัดฟัน “เห้อเหลียนเซิง ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
อวี๋หวั่นกับไข่ดำทั้งสามชมละครดีอย่างออกรสออกชาติ
แน่นอน ไข่ดำทั้งสามดูไม่เข้าใจ เหตุใดผู้ใหญ่ถึงต้องทะเลาะกัน
อวี๋หวั่นรู้สึกหนาวเย็นด้านหลังอย่างอธิบายไม่ถูก
ที่แห่งนี้ไม่ควรอยู่นาน!
อวี๋หวั่นรับบุตรชาย และกำลังจะทิ้ง….
“หยุด!” ต่งเซียนเอ๋อร์กล่าว
อวี๋หวั่นตัวแข็งทื่อ
ต่งเซียนเอ๋อร์เดินเข้ามาอย่างช้าๆ โทสะระหว่างคิ้วพลันจางหายไป แทนที่ด้วยดวงตาคู่หนึ่งที่ยิ้มราวกับจันทร์เสี้ยว
นางนั่งลงบนม้านั่งหิน หยิบส้มจากจานผลไม้บนโต๊ะ ปอกเปลือกแล้วโบกมือหาไข่ดำน้อยทั้งสาม “มานี่”
ไข่ดำทั้งสามเดินเข้ามา
ต่งเซียนเอ๋อร์เกิดมางดงาม และเป็นความงามแบบที่น่าหลงใหลชวนเคลิบเคลิ้ม ผ้าคลุมหน้าที่บางเบาราวกับปีกของจักจั่นก็ไม่อาจปิดซ่อนความงดงามของนางได้
นางแบ่งส้มให้ไข่ดำทั้งสาม แล้วเลือกคนที่เล็กที่สุดอุ้มนั่งบนตัก
เสี่ยวเป่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ถูกพี่สาวผู้เป็นเทพธิดากอด
ทว่าอวี๋หวั่นกลับรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี
ผลเป็นดังคาด หลังจากป้อนส้มให้ไข่ดำทั้งสามครู่หนึ่ง ต่งเซียนเอ๋อร์ก็เอ่ยอย่างช้าๆ “หากเห้อเหลียนเซิงไม่แต่งงานกับข้า เจ้าต้องแต่งงานกับข้า!”
อวี๋หวั่น “?!”
เธอฟังผิดไปใช่หรือไม่?
อวี๋หวั่นยืดอก “ข้าเป็นสตรี!”
ต่งเซียนเอ๋อร์กล่าวอย่างไม่เดือดร้อน “ข้าไม่ถือ”
ข้าถือนี่นา! ! !
อวี๋หวั่นอยากจะร้องไห้
พี่ใหญ่ พี่ชายของข้า ท่านรีบสึกเถิด…
“อื๊ม น่ารักยิ่งนัก” ต่งเซียนเอ๋อร์บีบหน้าเสี่ยวเป่า บีบจนเริ่มเสพติด แล้วก็เปลี่ยนอุ้มเอ้อร์เป่าและต้าเป่าขึ้นมาบีบ “รอข้าแต่งงานกับภิกษุแล้ว จะมีบุตรให้เขาสี่คน!”
อวี๋หวั่นสำลัก
พี่สาวที่รัก เรื่องดวงยังไม่ทันผูก ท่านก็คิดไปไกลถึงเพียงนั้นแล้ว…
ท่านไม่สู้คิดเรื่องตอนนี้จะก่อนดีกว่าหรือ
เช่นจะทำอย่างไรให้เขาสึก หรือ…จะจับเขาได้อย่างไร?
ต่งเซียนเอ๋อร์บีบไข่ดำน้อยจนพอใจ พลังเสพติดการบีบอย่างเมามันก็จากไปทั้งที่ยังไม่หายอยาก
สตรีของพี่ใหญ่กลับเป็น ‘คนรักเก่า’ ของข้า ช่างซับซ้อน เหนื่อยหน่ายยิ่ง!
อวี๋หวั่นกลับห้องไปอย่างอ่อนล้า
เธออยากจะนินทาเห้อเหลียนเซิงและต่งเซียนเอ๋อร์กับเยี่ยนจิ่วเฉา แต่ก็เห็นว่าเยี่ยนจิ่วเฉานอนแล้ว
“แปลกจัง เข้านอนเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” อวี๋หวั่นกระซิบพลางเดินไปที่เตียง เปิดม่านมองเยี่ยนจิ่วเฉาที่หลับไปแล้วอย่างแผ่วเบา
เมื่อก่อนชั่วยามนี้ หากไม่ใช่อ่านหนังสือภาพของบุตรชายสักพัก เขาก็เล่นข่งหมิงซั่วของบุตรชายครู่หนึ่ง ไม่ได้เข้านอนเร็วขนาดนี้
หรือว่าวันนี้เขาเหนื่อยมาก?
ใช่แล้ว ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ยังเดินท่องภูผาลำธารมาทั้งวัน ฟังอิ่งลิ่วกล่าวว่า พวกเขาต้องปีนเขามากกว่าครึ่งลูกถึงพบเยี่ยนอ๋องกับต้าเป่า เยี่ยนจิ่วเฉาไม่เคยเดินทางไกลขนาดนี้มาก่อน
อวี๋หวั่นมองเขาอย่างอ่อนโยน พลางห่มผ้าให้เขา
“ตีๆๆ!”
“ดูไว้ซะ!”
ตอนนี้ไข่ดำทั้งสามกำลังฝึกฝนสิ่งที่เพิ่งเรียนรู้มา เรียนรู้การ ‘ต่อสู้’ ระหว่างเห้อเหลียนเซิงกับต่งเซียนเอ๋อร์ โหวกเหวกโวยวายวิ่งเข้าห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]