หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 354

ตั้งแต่ฮองเฮาถูกปลด อวิ๋นเฟยจึงกลายเป็นเพียงเจ้านายเพียงคนเดียวของวังหลัง คนมาประจบเอาใจนางมากมาย จนธรณีประตูตำหนักจูเชวี่ยแทบพังไม่เหลือ นี่ยังเพราะองค์ประมุขไม่รับนางใน ไม่เช่นนั้นเหล่าสตรีพี่น้องที่มาถวายพระพร เกรงว่าจะส่งเสียงดังจนอวิ๋นเฟยนอนหลับไม่เป็นสุข

อวิ๋นเฟยนอนอาบแดดอยู่บนเก้าอี้หวายใต้ต้นไม้ นางข้าหลวงผู้รับผิดชอบกระซิบว่า “ฝ่าบาทเสด็จมาแล้วเพคะ”

“มาก็มาสิ” อวิ๋นเฟยกล่าว

นางข้าหลวงผู้รับผิดชอบมองพระสนมของนางด้วยความลำบากใจ จากนั้นก็ก้มศีรษะและหันหน้าไปคำนับองค์ประมุขที่อยู่ไม่ไกล

องค์ประมุขโบกมือส่งสัญญาณให้นางถอยออกไป

นางข้าหลวงผู้รับผิดชอบพาเหล่าคนในวังออกจากลานไปอย่างรู้ความ

อวิ๋นเฟยยังคงเพลิดเพลินกับแสงแดด แม้ฤดูหนาวในหนานจ้าวไม่เยือกเย็นเท่าต้าโจวที่ดินแดนปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่ก็ยังหนาวเย็นยิ่งนัก นางห่มผ้านวมขนปุย ผ้าห่มดูดซับแสงแดด อบอุ่นจนทำให้นางมีเหงื่อออกเล็กน้อย

แต่ก่อนยามยากลำบากนางยังชอบอาบแดด กลับไม่มีผ้าห่มที่นุ่มสบายเช่นนี้

“อวิ๋นเอ๋อร์” องค์ประมุขเดินไปนั่งข้างๆ นาง

อวิ๋นเฟยสั่นสะท้านกับคำเรียกชวนสะอิดสะเอียน พลันกล่าวอย่างขนลุก “ฝ่าบาทท่านไม่ปกติตรงใดหรือไม่? เรียกหม่อมฉันว่าอวิ๋นเฟยไม่ดีหรือ? กุ้ยเฟยก็ได้ แล้วแต่ท่าน”

“อะแฮ่ม” องค์ประมุขกระแอมแก้เขิน ตรัสอย่างเคร่งขรึม “ผ้าห่มผืนนี้น่าพอใจหรือไม่?”

“อื้อ อบอุ่นมาก” เหงื่อออกแล้ว อวิ๋นเฟยจึงเอาแขนออกมา

“เป็นหนังเสือชั้นดี” องค์ประมุขตรัส

อวิ๋นเฟยผงะคว้าหนังเสือขึ้นมาดู “ข้าห่มหนังเสือหรือนี่”

ท่าทางมึนงงน่ารักของนางทำให้องค์ประมุขรู้สึกขบขัน หลังจากหัวเราะก็กลับอดรู้สึกเศร้าไม่ได้ ตลอดหลายปีมานี้นางมีชีวิตที่ขมขื่น จำไม่ได้แม้กระทั่งหนังเสือ หากเป็นฮองเฮา…

เมื่อนึกถึงสตรีที่ทำลายราชวงศ์ ใบหน้าขององค์ประมุขพลันเกิดเงามืดหม่น

อวิ๋นเฟยนอนลงอีกครั้ง “ฝ่าบาทเสด็จมาตำหนักจูเชวี่ยมีเรื่องอันใดหรือ? หากไม่มีเรื่องอันใด หม่อมฉันจะนอนอาบแดดต่อ”

หมายความว่า เจ้าไปได้แล้ว

หากในอดีตอวิ๋นเฟยกล่าวเช่นนี้ องค์ประมุขคงจะโกรธไปแล้ว แต่เมื่อนึกถึงช่วงเวลาหลายปีที่เขาเข้าใจผิดและติดค้างนาง องค์ประมุขก็โกรธไม่ลง

เขาต้องการการอภัยจากพวกนางสองแม่ลูก เขาต้องการใช้เวลาที่เกรงว่าเหลืออยู่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ชดเชยสิ่งที่ติดค้างต่อพวกนาง

แต่จู่ๆ เขาก็ไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไร

ไม่มีสตรีหน้าไหว้หลังหลอกอย่างฮองเฮาแล้ว อวิ๋นเฟยรู้สึกว่าอากาศสดชื่นขึ้นไม่น้อย อาบแดดได้พักหนึ่ง นางก็หาวอย่างสบายใจ

เมื่อเห็นว่าอวิ๋นเฟยกำลังจะหลับ ในที่สุดองค์ประมุขก็เปิดปาก “เรื่องในอดีต ข้าไม่ถูกต้อง”

“ฝ่าบาทมาที่นี่เพื่อขอโทษ?” อวิ๋นเฟยมองเขาด้วยความประหลาดใจ

“ก็…ก็คิดว่าใช่กระมัง” องค์ประมุขพูดอย่างลำบากใจ “ข้าเข้าใจเจ้าผิด ทำให้เจ้าต้องเสียใจ”

อวิ๋นเฟยทอดถอนใจ ลมหนาวหนึ่งพัดมาทำให้นางก็รู้สึกหนาวอีก จึงดึงผ้าห่มหนังเสือขึ้นคลุมร่างและพูดอย่างเฉยเมย “มันผ่านไปแล้ว หม่อมฉันรู้สึกโล่งใจแล้ว ฝ่าบาทก็คงโล่งใจเช่นกัน ไม่มีสิ่งใดต้องเก็บมาใส่ใจ”

“เจ้าเต็มใจยกโทษให้ข้า?” ร่องรอยความดีใจปรากฏขึ้นในดวงตาขององค์ประมุข

อวิ๋นเฟยส่ายหน้า “ไม่ใช่ยกโทษให้ฝ่าบาท แต่หม่อมฉันปลดปล่อยตัวเองแล้ว”

องค์ประมุขฟังแล้วรู้สึกลึกลับงงงวย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนาง อวิ๋นเฟยก็ไม่ได้คิดจะอธิบายสิ่งใดเพิ่มเติม หลับตาลงและอาบแดดต่อไป

ทว่ามีประโยคหนึ่งที่องค์ประมุขเข้าใจ นั่นคือนางไม่ได้ให้อภัยเขา

“เจ้าต้องการเช่นไร จึงจะยกโทษให้ข้า?” เขาถาม

อวิ๋นเฟยปรือตากล่าวอย่างขอไปที “ได้ หม่อมฉันยกโทษให้ฝ่าบาท ฝ่าบาทโปรดกลับไปเถิด หนานจ้าวเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ฝ่าบาทคงยุ่งแย่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเสียแรงกับหม่อมฉัน ทรงเย็นชากับหม่อมฉันเหมือนเมื่อก่อนไม่ดีหรือ?”

อวิ๋นเฟยไล่เขาไปอย่างจริงใจ แต่องค์ประมุขกลับดื้อรั้น ทอดถอนใจยาวเหยียด “เมื่อก่อนข้าผิดเอง ไม่ควรทอดทิ้งเจ้าให้อยู่อย่างหนาวเหน็บมาหลายปีเช่นนี้”

“อย่าเลย” อวิ๋นเฟยกุมหน้าผากอย่างเหนื่อยใจ

นางแค่อยากรับแสงแดดอย่างเงียบสงบ เหตุใดช่างยากเย็นถึงเพียงนี้?

องค์ประมุขนับบาปที่ตนเองเคยก่อในใจอย่างเงียบๆ และกล่าวกับอวิ๋นเฟยอย่างจริงใจ “ข้าตั้งใจจะแต่งตั้งเจ้าเป็นฮองเฮา”

“หา? อะไรนะ?” อวิ๋นเฟยพรวดพราดลุกขึ้นนั่งเยี่ยงนกตื่นธนู[1]!

เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นไม่มีสิ้นสุดของนาง ดวงตาขององค์ประมุขพลันยกโค้งและยิ้มอย่างรู้ทัน “ข้าต้องการทำให้เจ้าเป็นฮองเฮา ให้เจ้าไปอยู่ตำหนักจงกง”

ยามนี้อวิ๋นเฟยแน่ใจว่าตนเองไม่ได้ฟังผิด เจ้าแก่นี่คิดจะให้ตำแหน่งฮองเฮากับนางจริงๆ ให้นางเป็นสนมเฟยยังไม่พอ ยังอยากให้เป็นฮองเฮา? เช่นนั้นนางไม่ต้องเห็นหน้าเขาทั้งกลางวันกลางคืนหรือ? วันที่หนึ่งและสิบห้ายังต้องนอนกับเขาตามธรรมเนียมดั้งเดิม?

สีหน้าของอวิ๋นเฟยเริ่มหมดความอดทน “ฝ่าบาทเพิ่งปลดฮองเฮา ก็อยากแต่งตั้งฮองเฮาใหม่แทบไม่ไหว ไม่กลัวว่าขุนนางจะคัดค้านหรือเพคะ?”

องค์ประมุขตรัสว่า “ขุนนางไม่มีทางคัดค้านหรอก หลายปีมานี้เจ้าเหน็ดเหนื่อยตรากตรำมีผลงานใหญ่หลวง…”

อวิ๋นเฟยเยาะเย้ยขัดคำพูดของเขา “ฮ่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันยังด่าข้าว่าเป็นคนบ้าอยู่เลยมิใช่หรือ? เพียงพริบตา ข้าก็เหน็ดเหนื่อยตรากตรำมีผลงานใหญ่หลวง? ขุนนางเหล่านั้นของท่าน ตาไม่ดีหรือว่าสมองไม่ดีกันละ?”

องค์ประมุขละอายใจ “ไม่ใช่เพราะเพิ่งรู้ว่าเจ้าได้รับความอยุติธรรมหรือ? เจ้าในเมื่อก่อนถูกบังคับให้ทำ”

อวิ๋นเฟยยกมุมปาก “ไม่ละ ตำแหน่งฮองเฮาฝ่าบาทเก็บไว้ให้ผู้อื่นเถิดเพคะ ผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ เลือกมาสักคนก็ล้วนสงบเสงี่ยมจิตใจดีมีคุณธรรมกว่าหม่อมฉันทั้งนั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]